กำนันสุเทพระดมพลหลายแสนคนออกมาโชว์พลังให้รัฐบาลปูโพรกได้ดูว่ามวลมหาประชาชนมิได้ออกอาการแผ่วล้าแต่ประการใด แม้แสงแดดแผดเผา อ้าวระอุแทบจะทอดไข่บนถนนได้ ประชาชนคนรักชาติก็ไม่ย่อท้อ
กลับเข้าสวนลุมฯ หายเหนื่อยได้ไม่นานกำนันประกาศอีกแล้วว่าจะมีรอบใหม่ เผด็จศึกให้แตกหักจริง นัดแกนนำ กปปส. 5 เมษายน กำหนดยุทธศาสตร์ หวังจับให้มั่นคั้นให้นางโพยปูโพรกเน่าคาเวทีประชาธิปไตยตามคำขอ
ฝ่ายมวลชนเสื้อแดงนำโดยเจ้าของฉายาคางคกนรก ก็ประกาศเช่นเดียวกันว่าจะระดมเสื้อแดงจากทั่วประเทศ 5 แสนคนชุมนุมหลายจุดรอบนอกเมืองหลวง ถ้าได้จังหวะเหมาะ ก็จะกรีธาทัพเข้ากรุงหวังแตกหักเช่นกัน
จะเผชิญหน้า เลือดตกยางออก ปะทะ เข่นฆ่ากันจนเลือดนองท้องช้างหรือไม่ ต้องรอดู เพราะกำนันสุเทพไม่อยากสู้รบด้วยกำลัง “พวกท่านยกทัพมา พวกเราก็กลับบ้าน แต่จะมีคนอื่นปักหลักต้อนรับพวกท่านเสื้อแดงเอง”
เสื้อแดงคึกคักฮึกเหิมมามากหรือไม่ หลังจากเสื้อแดงแท้ แดงแอบแฝงชนะการเลือกตั้งเป็น ส.ว. โดยเฉพาะคุณนายขวัญใจของขวัญชัย ได้คะแนนกว่า 3 แสน 5 เป็นอันดับ 2 ในแผ่นดิน ทั้งๆ ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเรื่องเพชรนิลจินดา
เออ! เรื่องคดีความไปถึงไหนก็ไม่รู้ เงียบฉี่ หลังจากคุณนายว่าที่ ส.ว.ถูกค้นรถ พบปืนเอ็ม 16 อยู่พร้อมกับเครื่องเพชร กรณีนี้ชาวบ้านจะเห็นได้ว่าคุณนายของเสื้อแดงตัวพ่อนั้นเป็นคนรักสวยรักงาม มีเครื่องเพชรอื้อซ่า
ไปชุมนุมทางการเมืองก็ยังขนเครื่องเพชรไปประดับตัว เหมือนจะประกาศให้รู้ว่าการสู้แล้วรวยนั้นไม่ได้เป็นเรื่องไร้สาระ ได้จังหวะตกใจเมื่อไหร่มีหวังรวยไม่รู้เรื่อง จากนี้ไปถ้าได้เป็น ส.ว.คุณนายยิ่งเพิ่มบารมีอีกหลายกิโล
เดินขบวน จัดชุมนุมกันหลายรอบ ชาวบ้านต้องสังเกตความแตกต่างระหว่างมวลชน 2 ฝ่าย ทั้งเป็นตัววัดว่ามวลชนกลุ่มไหนสมควรน่าเชื่อถือกว่า
เห็นได้ชัดว่ากำนันจัดชุมนุมหลายเวทีกลางเมือง จนย้ายมาอยู่ในสวนลุมฯ ที่ผ่านมามีประชาชนจากทุกระดับเข้าร่วม มีสถาบันการศึกษามีชื่อเสียงของประเทศ สมาคมต่างๆ ของกลุ่มมืออาชีพ พ่อค้า เป็นระดับมันสมองของสังคม
วันเดินขบวนใหญ่ คนจากสถาบันการศึกษา นักแสดง กลุ่มบันเทิง และอาชีพอื่นๆ ได้แสดงวิสัยทัศน์ ระดมทุนช่วยเหลือกำนันให้เครือข่ายชนะ
เหลียวมองมวลชนเสื้อแดง กลับไม่เห็นผู้ที่สังคมยกย่อง มีหน้ามีตา สถาบันที่มีอยู่คือ “โรงเรียน นปช.” และ “อาชีวะ” ฉายาของ “ไอ้ตั้ง” ซึ่งกำลังเอ้อระเหยลอยชายท้าทายกฎหมายให้เล่นงานในคดีหมิ่นสถาบัน
ขบวนการเสื้อแดงไร้คนมีชื่อเสียง ครู อาจารย์น่านับถือไปขึ้นเวที แม้แต่อาจารย์แดงแท้และแอบแดงก็ยังไม่กล้าไปเสวนาร่วมหรือขึ้นเวทีไฮด์ปาร์ค มีแต่ผู้เรียกตัวเองว่า “ไพร่” รวมกันเป็นขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมและแกนนำ
ทำไมขบวนการเสื้อแดงไร้คนดี มีระดับทางสังคมวิชาการ การศึกษาระดับชาติเข้าร่วมด้วย แต่มีหลายคนตกเป็นจำเลยในคดีอาญา ความประพฤติน่ารังเกียจ ใช้ความรุนแรง ท้าตีท้าต่อ ไม่รู้จักการให้เหตุผล สติปัญญาเลิศ
จะว่าเสื้อแดงเป็นรากหญ้าก็ไม่ใช่ มีไม่น้อยที่รวมพวกกุ๊ยในเมือง มีบางส่วนไม่ชอบใจนักที่จะเรียกตัวเองเป็นไพร่ หลายคนไม่เหมาะที่จะเป็นไพร่ เพราะพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้าถ่อยสถุลกว่าชนชั้นไพร่เลวขี้ครอกด้วยซ้ำ
เห็นความแตกต่างอย่างนี้ พวกกินดีอยู่ดี มีระดับ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พวกนายพัน นายพล ยังไม่กล้าแสดงตัวว่ายืนอยู่ข้างประชาชนคนดี ยังวางเฉย แทงกั๊ก อ้างว่าไม่อยากอยู่ในกระบวนการความขัดแย้งทางการเมือง
เราจึงเห็นความผิดเพี้ยนในสภาพสังคม ทำให้ประเทศไทยโดยรวมเสียสภาพ กลายเป็นสังคมที่ไร้เหตุผล นิยมใช้ความรุนแรง กล้าทำร้าย ฆ่าคน คุกคามข่มขู่ จิตใจคับแคบ ใช้กำลังตัดสินในการต่อสู้แทนการใช้สมอง
ประชาชนคนดีจึงต้องเหนื่อยซ้ำซาก รวมตัวกันเดินขบวน 4 รอบ มีคนเป็นล้านๆ คนเข้าร่วม ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หรือในภูมิภาคนี้ แต่นางโพยผู้กุมอำนาจรัฐแต่ไร้การยอมรับ ยังด้านทนอยู่ต่อไป
ถ้าการแสดงออกทางการเมืองมีคนเข้าร่วมเป็นล้านๆ คน ในสังคมเจริญแล้วต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผู้นำรัฐบาลต้องมียางอายขอลาออก เปิดทางให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่นางโพยและบักเหลี่ยมไร้จิตวิญญาณเช่นนั้น
มุ่งทำทุกอย่างเพื่อให้โคตรเหง้าเหล่ากอของตระกูลชินวัตรหรือเครือญาติได้กุมอำนาจรัฐต่อไป นึกว่าแผ่นดินไทยเป็นอาณาจักร ทรัพย์สินส่วนตัว คนอื่นไม่มีสิทธิ ขอผูกขาดตลอดไป จนถึงรุ่นลูกหลาน หรือบ้านเมืองล่มจม
เมื่อการเดินขบวนไร้พลังขับดันคนหน้าด้านให้ลาออก ต้องรอองค์กรอิสระจัดการตามอำนาจกฎหมาย เมื่อถึงวาระชี้ขาดให้นางปูโพรกต้องออกไป ถ้าขบวนการเหลี่ยมไม่ยอมรับ จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษตามความเหมาะสมแน่
กลับเข้าสวนลุมฯ หายเหนื่อยได้ไม่นานกำนันประกาศอีกแล้วว่าจะมีรอบใหม่ เผด็จศึกให้แตกหักจริง นัดแกนนำ กปปส. 5 เมษายน กำหนดยุทธศาสตร์ หวังจับให้มั่นคั้นให้นางโพยปูโพรกเน่าคาเวทีประชาธิปไตยตามคำขอ
ฝ่ายมวลชนเสื้อแดงนำโดยเจ้าของฉายาคางคกนรก ก็ประกาศเช่นเดียวกันว่าจะระดมเสื้อแดงจากทั่วประเทศ 5 แสนคนชุมนุมหลายจุดรอบนอกเมืองหลวง ถ้าได้จังหวะเหมาะ ก็จะกรีธาทัพเข้ากรุงหวังแตกหักเช่นกัน
จะเผชิญหน้า เลือดตกยางออก ปะทะ เข่นฆ่ากันจนเลือดนองท้องช้างหรือไม่ ต้องรอดู เพราะกำนันสุเทพไม่อยากสู้รบด้วยกำลัง “พวกท่านยกทัพมา พวกเราก็กลับบ้าน แต่จะมีคนอื่นปักหลักต้อนรับพวกท่านเสื้อแดงเอง”
เสื้อแดงคึกคักฮึกเหิมมามากหรือไม่ หลังจากเสื้อแดงแท้ แดงแอบแฝงชนะการเลือกตั้งเป็น ส.ว. โดยเฉพาะคุณนายขวัญใจของขวัญชัย ได้คะแนนกว่า 3 แสน 5 เป็นอันดับ 2 ในแผ่นดิน ทั้งๆ ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยเรื่องเพชรนิลจินดา
เออ! เรื่องคดีความไปถึงไหนก็ไม่รู้ เงียบฉี่ หลังจากคุณนายว่าที่ ส.ว.ถูกค้นรถ พบปืนเอ็ม 16 อยู่พร้อมกับเครื่องเพชร กรณีนี้ชาวบ้านจะเห็นได้ว่าคุณนายของเสื้อแดงตัวพ่อนั้นเป็นคนรักสวยรักงาม มีเครื่องเพชรอื้อซ่า
ไปชุมนุมทางการเมืองก็ยังขนเครื่องเพชรไปประดับตัว เหมือนจะประกาศให้รู้ว่าการสู้แล้วรวยนั้นไม่ได้เป็นเรื่องไร้สาระ ได้จังหวะตกใจเมื่อไหร่มีหวังรวยไม่รู้เรื่อง จากนี้ไปถ้าได้เป็น ส.ว.คุณนายยิ่งเพิ่มบารมีอีกหลายกิโล
เดินขบวน จัดชุมนุมกันหลายรอบ ชาวบ้านต้องสังเกตความแตกต่างระหว่างมวลชน 2 ฝ่าย ทั้งเป็นตัววัดว่ามวลชนกลุ่มไหนสมควรน่าเชื่อถือกว่า
เห็นได้ชัดว่ากำนันจัดชุมนุมหลายเวทีกลางเมือง จนย้ายมาอยู่ในสวนลุมฯ ที่ผ่านมามีประชาชนจากทุกระดับเข้าร่วม มีสถาบันการศึกษามีชื่อเสียงของประเทศ สมาคมต่างๆ ของกลุ่มมืออาชีพ พ่อค้า เป็นระดับมันสมองของสังคม
วันเดินขบวนใหญ่ คนจากสถาบันการศึกษา นักแสดง กลุ่มบันเทิง และอาชีพอื่นๆ ได้แสดงวิสัยทัศน์ ระดมทุนช่วยเหลือกำนันให้เครือข่ายชนะ
เหลียวมองมวลชนเสื้อแดง กลับไม่เห็นผู้ที่สังคมยกย่อง มีหน้ามีตา สถาบันที่มีอยู่คือ “โรงเรียน นปช.” และ “อาชีวะ” ฉายาของ “ไอ้ตั้ง” ซึ่งกำลังเอ้อระเหยลอยชายท้าทายกฎหมายให้เล่นงานในคดีหมิ่นสถาบัน
ขบวนการเสื้อแดงไร้คนมีชื่อเสียง ครู อาจารย์น่านับถือไปขึ้นเวที แม้แต่อาจารย์แดงแท้และแอบแดงก็ยังไม่กล้าไปเสวนาร่วมหรือขึ้นเวทีไฮด์ปาร์ค มีแต่ผู้เรียกตัวเองว่า “ไพร่” รวมกันเป็นขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมและแกนนำ
ทำไมขบวนการเสื้อแดงไร้คนดี มีระดับทางสังคมวิชาการ การศึกษาระดับชาติเข้าร่วมด้วย แต่มีหลายคนตกเป็นจำเลยในคดีอาญา ความประพฤติน่ารังเกียจ ใช้ความรุนแรง ท้าตีท้าต่อ ไม่รู้จักการให้เหตุผล สติปัญญาเลิศ
จะว่าเสื้อแดงเป็นรากหญ้าก็ไม่ใช่ มีไม่น้อยที่รวมพวกกุ๊ยในเมือง มีบางส่วนไม่ชอบใจนักที่จะเรียกตัวเองเป็นไพร่ หลายคนไม่เหมาะที่จะเป็นไพร่ เพราะพฤติกรรมเลวทรามต่ำช้าถ่อยสถุลกว่าชนชั้นไพร่เลวขี้ครอกด้วยซ้ำ
เห็นความแตกต่างอย่างนี้ พวกกินดีอยู่ดี มีระดับ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พวกนายพัน นายพล ยังไม่กล้าแสดงตัวว่ายืนอยู่ข้างประชาชนคนดี ยังวางเฉย แทงกั๊ก อ้างว่าไม่อยากอยู่ในกระบวนการความขัดแย้งทางการเมือง
เราจึงเห็นความผิดเพี้ยนในสภาพสังคม ทำให้ประเทศไทยโดยรวมเสียสภาพ กลายเป็นสังคมที่ไร้เหตุผล นิยมใช้ความรุนแรง กล้าทำร้าย ฆ่าคน คุกคามข่มขู่ จิตใจคับแคบ ใช้กำลังตัดสินในการต่อสู้แทนการใช้สมอง
ประชาชนคนดีจึงต้องเหนื่อยซ้ำซาก รวมตัวกันเดินขบวน 4 รอบ มีคนเป็นล้านๆ คนเข้าร่วม ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทย หรือในภูมิภาคนี้ แต่นางโพยผู้กุมอำนาจรัฐแต่ไร้การยอมรับ ยังด้านทนอยู่ต่อไป
ถ้าการแสดงออกทางการเมืองมีคนเข้าร่วมเป็นล้านๆ คน ในสังคมเจริญแล้วต้องมีการเปลี่ยนแปลง ผู้นำรัฐบาลต้องมียางอายขอลาออก เปิดทางให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่นางโพยและบักเหลี่ยมไร้จิตวิญญาณเช่นนั้น
มุ่งทำทุกอย่างเพื่อให้โคตรเหง้าเหล่ากอของตระกูลชินวัตรหรือเครือญาติได้กุมอำนาจรัฐต่อไป นึกว่าแผ่นดินไทยเป็นอาณาจักร ทรัพย์สินส่วนตัว คนอื่นไม่มีสิทธิ ขอผูกขาดตลอดไป จนถึงรุ่นลูกหลาน หรือบ้านเมืองล่มจม
เมื่อการเดินขบวนไร้พลังขับดันคนหน้าด้านให้ลาออก ต้องรอองค์กรอิสระจัดการตามอำนาจกฎหมาย เมื่อถึงวาระชี้ขาดให้นางปูโพรกต้องออกไป ถ้าขบวนการเหลี่ยมไม่ยอมรับ จำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษตามความเหมาะสมแน่
