ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ชัดเจนแล้วว่าชั่วโมงนี้ “ม็อบกำนัน”โดยการนำของ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เดินหน้านำมวลมหาประชาชน ล้ม “ระบอบทักษิณ”อย่างที่ตั้งใจหวังไว้ ชนิดไม่มีถอย
หรืออีกนัยหนึ่งก็เพราะเดินมาไกลจนถอยไม่ได้แล้ว
แม้ระหว่าง“พวกโลกสวย”จะมาขอให้ กำนันสุเทพ เปิดช่องให้มีการเจรจากับ“ตัวแทนเครือข่ายชินวัตร”อยู่บ้าง แต่ไม่เป็นผล เพราะต่างฝ่ายต่างรับข้อเสนอของคู่ขัดแย้งไม่ได้
เมื่อโต๊ะเจรจา ต้องล่ม แผนการถูกพับเก็บไว้ในลิ้นชัก ขึ้นอยู่กับว่าจะมีพวกโลกสวย ดันทุรังพยายามเปิดโต๊ะเจรจาอีกหรือไม่
แต่ที่แน่ๆกำนันสุเทพ ประกาศชัดเจนว่าไม่มีการเจรจาอีกต่อไปแล้ว พร้อมประกาศตัดขาด ไม่ขออยู่ร่วมชายคาเดียวกับระบอบทักษิณ หากแพ้ขอ ตายเสียดีกว่า
คำประกาศกร้าวของกำนันสุเทพชัดเจนว่า เกมต่อสู้หลังจากนี้ มุ่งเข้าสู่จุดแตกหักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เที่ยวนี้ไม่มีวิน-วิน มีแต่แพ้ หรือ ชนะเท่านั้น
เมื่อกำนันสุเทพใส่เกียร์ห้าเดินหน้าแล้วไม่มีถอย สงครามยึดอำนาจจากระบอบทักษิณ น่าจะได้รู้ดำรู้แดงกันในเร็ววันนี้แน่นอน
ตามจังหวะที่กำนันสุเทพสั่งให้ กปปส. ติดตามทุกความเคลื่อนไหว-ทุกฝีก้าวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ส่งสัญญาณเขย่าขวัญให้เครือข่ายชินวัตร สะเทือนทั้งกระดาน
ยกแรกกำนันสุเทพ เคลื่อนพล กปปส.ไปเยี่ยม ยิ่งลักษณ์ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม อิมแพ็คเมืองทองธานี ขณะที่ยิ่งลักษณ์ออกอาการกลัวจนตัวสั่น ถึงขั้นหายเข้ากลีบเมฆ ไม่ยอมแจ้งหมายกำหนดการให้สื่อมวลชนที่ติดตามเป็นประจำได้ทราบล่วงหน้า
ขนาดยิ่งลักษณ์ ที่มักชอบทำตัวเป็นข่าว แต่งานนี้ขอลาจอชั่วคราว
มีข่าวลือกันให้แซดว่ายิ่งลักษณ์ แอบชิ่งหนีไปอยู่ต่างจังหวัดแล้ว แต่ยังให้ลิ่วล้อออกมาให้ข่าวเรียกความมั่นใจให้สมุนบริวารว่า “แม่ทัพ”ยังไม่หนี ยังอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะเป็นเมืองหลวง
ทว่าขออุบไต๋ ไม่บอกว่าอยู่พื้นที่ไหนของกรุงเทพฯ อ้างว่าเพื่อความปลอดภัย
จับอาการกันให้ทันมีโอกาสสูง ที่ยิ่งลักษณ์ หนีไปอยู่ เชียงใหม่แล้วก็เป็นได้ และตามข่าวลือบอกว่ายิ่งลักษณ์ ไม่กล้าแม้แต่จะขึ้นเครื่องบินไป เพราะเกรงว่าจะมีคนเห็น ขอไปแบบเงียบๆ ไปแบบไม่ให้มีใครรู้
เกมไล่ล่ายิ่งลักษณ์ ของกำนันสุเทพได้ผลเกินคาด เพราะเมื่อคนเป็น "ผู้นำ"ออกอาการไม่มีภาพของผู้นำให้เห็น บรรดาสมุนบริวาร ก็คงเสื่อมความนับถือ
การไล่ล่ายิ่งลักษณ์ไม่ให้มีที่อยู่ เสมือนไล่บี้ ตระกูลชินวัตร ไม่ให้มีที่อยู่เหมือนกัน ทุกวันนี้สัญลักษณ์ของตระกูลชินวัตรคือ ยิ่งลักษณ์ หากยิ่งหนี ก็เท่ากับเป็นการปล่อยให้คนอื่นสู้แทน ก็ยิ่งไม่น่านับถือกันเข้าไปใหญ่
หนำซ้ำทรัพย์สมบัติ ที่อยู่ในเครือชินวัตร กำลังเข้าสู่อาการร่อแร่ หุ้นทุกตัวดิ่งลงอย่างต่อเนื่องอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สะท้อนให้เห็นเป็นว่า “นักลงทุน”เริ่มไม่แน่ใจในสถานภาพของบริษัทใน เครือชินวัตร เพราะมวลมหาประชาชน เริ่มบอยคอตสินค้าที่อยู่ในเครือชินวัตรกันแล้ว
สมบัติก้อนมหึมาของ เครือชินวัตร มีโอกาสล้มครื้นระเนระนาดแน่นอน หากยิ่งลักษณ์ ยังดื้อตาใส ไม่ยอมทำตามคำเรียกร้องของ มวลมหาประชาชน ที่ต้องการให้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี
เมื่อวันก่อน กำนันสุเทพ นำทัพมวลมหาประชาชนไปกดดันที่ตึกชินวัตร 3 เขย่าขวัญให้หลอนแรงฤทธิ์มากยิ่งขึ้น
อาการของคนในตระกูลชินวัตร อาการของธุรกิจแบรนด์ชินวัตร เริ่มเสื่อมมนต์ขลัง มองไปทิศไหนแทบที่จะไม่มีทางเลือก ไม่มีทางรอด ให้เห็นเลย
งานนี้มีหวังปิดฉาก "ชินวัตร" ให้สูญสิ้นจากเมืองไทย
ทว่ายี่ห้อ “นายใหญ่”สู้แล้วต้องสู้ให้จนกระดาน ไม่เช่นนั้นไม่มีวันยอมยกธงขาวแน่
แว่วมาว่า"พี่แม้ว" พร้อมที่จะทิ้งทุ่น"น้องปู" ให้ลอยคอกลางทะเล หาทางกลับฝั่งเอาเอง เพราะหากยังหนุนให้"น้องปู"นั่งเก้าอี้นายกฯต่อไป ยิ่งยากที่ "พี่แม้ว" จะได้กลับบ้านอย่างใจหวัง
จึงมีข่าวหลุดออกมาว่า"พี่แม้ว"พร้อมที่จะสนับสนุน "ชายจืด" สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พี่เขยสุดเลิฟ สามีของ“เยาวภา วงศ์สวัสดิ์”เจ้าของสมญานาม “เจ๊ ด.” ผู้มีเอี่ยวในทุกโครงการของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
วงต่อรอง “นายกฯคนกลาง” ที่หลายฝ่ายพูดถึงนายใหญ่ ส่งชายจืด เข้าประกวด ให้ “บุคคลสำคัญ”ตรวจสอบคุณสมบัติ ตรวจสอบความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งนายใหญ่ การันตีไม่ผิดหวัง
แต่ดูแล้วคงต้อง“ล่ม”ตั้งแต่เริ่มออกตัว เพราะ"ชายจืด" ในช่วงที่นั่งเก้าอี้นายกฯ เมื่อปี 2551 บริหารงานเละคามือ แถมยังไม่มีเพาเวอร์พอที่จะไปสั่งการให้ ข้าราชการซ้ายหันขวาหัน ถ้ายังจำกัดได้ "ชายจืด" เคยถูก“พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” อดีต ผบ.ทบ. ทำการปฏิวัติหน้าจอไปแล้ว
ดังนั้นแค่หยิบชื่อ “ชายจืด”ขึ้นมาพิจารณาส่งเข้าประกวด นายใหญ่ ก็แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้ง
อีกทั้งถ้า “ชายจืด” ได้กลับมาเป็นใหญ่ ชื่อของ “เจ๊แดง” จะปรากฏอยู่ในทำเนียบ “สตรีหมายเลขหนึ่ง”เป็นแน่ นาทีนี้ยี่ห้อ เจ๊แดง คนรู้กันทั้งแผ่นดินแล้วว่า มีอิทธพลต่อโครงการรัฐมากน้อยแค่ไหน ยิ่งระดับเมกะโปรเจกต์แล้ว ยิ่งไม่มีพลาด
แค่ชื่อ "ชายจืด-เจ๊ด." คนก็ร้องยี้กันแล้ว กางประวัติ 2 คีย์แมน “นายกฯคนกลาง” ของนายใหญ่เที่ยวนี้ มีคนรอคิดบัญชีเป็นหางว่าว
อย่างไรเสียการดิ้นเฮือกสุดท้ายของนายใหญ่ ที่โยนชื่อคนโน้น คนนี้ ออกมาเพื่อเจรจาต่อรอง ไม่มีวันได้ผลอีกต่อไป เพราะทุกถนนสายการเมือง ไม่มีองค์กรไหนเอาด้วยกับระบอบทักษิณ แล้ว
มีเพียงสมุนบริวารที่จงรักภักดี แต่เป็นความจงรักภักดีกับ “เงิน” ที่นายใหญ่มีอยู่ วันไหนหมดเงิน แล้วจะได้รู้ตัวว่าไม่มีใครรักจริงสักคน