xs
xsm
sm
md
lg

ปชช.ชายแดนใต้แห่ร่วมอำลา “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” หลังถูก คสช.สั่งย้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ยะลา - คนชายแดนใต้ร่วมส่งกำลังใจให้ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” อดีตเลขาฯ ศอ.บต. หลัง คณะ คสช.มีคำสั่งย้ายกลับไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีเหล่าบรรดาข้าราชการ ประชาชน ผู้นำศาสนาได้เดินทางเข้าให้กำลังใจ และร่วมพิธีอำลาตำแหน่งเป็นจำนวนมาก

หลังจากคณะ คสช.นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะ ได้มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับไปปฏิบัติราชการ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นการด่วน หลัง คณะ คสช.ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ทางการเมือง และให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มารักษาราชการตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.แทน

ล่าสุด หลังมีคำสั่งดังกล่าวออกมา ทำให้บรรยากาศที่บ้านพักรับรองของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตั้งอยู่ภายใน ศอ.บต. มีเหล่าบรรดาข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ผู้นำศาสนา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม และให้กำลังใจแก่ พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่รู้สึกเสียใจต่อการจบสิ้นในการปฏิบัติหน้าที่ของเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามคำสั่งคณะ คสช.ที่ออกมา

โดยในวันนี้ (26 พ.ค.) ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ อาคารอำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการทำพิธีอำลาตำแหน่ง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก่อนที่จะเดินทางไปรายงานตัวที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งบรรยากาศทั่วไปนั้นมีกลุ่มมวลชนทุกสาชาอาชีพ ข้าราชการ ประชาชน ผู้นำศาสนาจำนวนมาก เดินทางเข้ามาร่วมในพิธีอำลา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ให้มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ประวัติของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เกิดเมื่อวันที่ 23 กันยายน พ.ศ.2502 ที่ จ.อ่างทอง จบการศึกษานักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 37 และเรียนต่อปริญญาโทสาขาพัฒนาสังคมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชีวิตการทำงาน เริ่มรับราชการตำรวจตั้งแต่ปี พ.ศ.2527 โดยเป็นรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ก่อนย้ายมาเป็นรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน สน.นางเลิ้ง สารวัตรปราบปราม สภ.เมืองกาญจนบุรี ต่อมา ได้เข้ามาเป็นตำรวจกองปราบ จนสามารถขึ้นดำรงตำแหน่งรองผู้กำกับการ 1 กองปราบปราม ผู้กับกับการ 1 ผู้กำกับกองปราบปราม 2 มีอำนาจดูแลการสืบสวนทั่วประเทศ และตำแหน่งสุดท้ายในเครื่องแบบด้วยรองผู้บังคับการกองปราบปราม

ผลงานที่ทำให้ พ.ต.อ.ทวี มีชื่อเสียงในขณะปฏิบัติราชการตำรวจ ได้แก่ คดีแก๊งล็อกหวยของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2544 ที่สามารถนำเครือข่ายผู้กระทำผิดเครือกลม บางกรวย เข้ามาจำคุกได้ ต่อมา ใน พ.ศ.2547 พ.ต.อ.ทวี ถูกโอนมาเป็นข้าราชการพลเรือน รั้งตำแหน่งรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยดูแลคดีสำคัญต่างๆ หลายคดีด้วยกัน เช่น คดีเช่าตึกทีพีไอทาวเวอร์ คดีปั่นหุ้นปิคนิค คดีทุจริตขายสินทรัพย์ขององค์กรเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน และคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ

ต่อมา หลังจากเหตุการณ์รัฐประหาร พ.ศ.2549 พ.ต.อ.ทวี จึงถูกย้ายจากรองอธิบดีดีเอสไอ ไปเป็นรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชน พ.ต.อ.ทวี จึงได้กลับเข้ามาที่ดีเอสไออีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี รั้งตำแหน่งอธิบดี

การทำหน้าที่ในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ของ พ.ต.อ.ทวี ถูกวิจารณ์จากหลายฝ่ายว่าพยายามช่วยเหลือให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รอดพ้นจากความผิดในคดีต่างๆ เช่น คดีอุ้มนายสมชาย นีละไพจิตร, คดีหุ้นเอสซีแอสเสท, คดีฆ่าตัดตอนช่วงปราบปรามยาเสพติด ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้ในปี พ.ศ.2552 พ.ต.อ.ทวี ถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอแทน ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

และเมื่อพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็กลับมาเชิดหน้าชูตาในหน้าที่การงานอีกครั้ง โดยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการปฏิบัติงานในตำแหน่งของ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ถือเป็นผู้จริงจังในการปฏิบัติงาน คัดเลือกผู้เข้ามาร่วมงาน เพื่อมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมองถึงปัญหาระดับล่างสุด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เอาใจใส่ในการให้ความสำคัญต่อ ชุมชน ศาสนา และผู้นำทางศาสนา ให้ความเคารพ ให้เกียรติต่อวิถีชีวิต วัฒนธรรม รวมไปถึงการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง

รูปแบบการทำงานเพื่อมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาของในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมานานนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้เน้นย้ำให้คนในพื้นที่อดทนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จนการนำไปสู่กระบวนการพูดคุยสันติภาพ ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้เดินหน้าการพูดคุยสันติภาพ โดยมี พล.ท.ภราดล พัฒนถาบุตร เข้ามาร่วมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ดังกล่าว ตามกระบวนการ เพื่อหารือ และหาข้อยุติปัญหาการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ โดยการมุ่งเน้นการพัฒนา และสร้างความเข้าใจต่อประชาชนในพื้นที่ควบคู่ไปพร้อมๆ กัน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง มิใช่เพียงแต่จะมองถึงปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้น แต่ได้มองถึงปัญหาเล็กๆ ที่ผู้อื่นมองไม่เห็น ไม่ว่าจะการช่วยเหลือครอบครัวผู้ยากไร้ การพัฒนากลุ่มสตรี หรือการมุ่งเน้นการสอนภาษายาวีให้แก่ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในกลุ่มองค์กรภาครัฐ เพื่อจะได้มีการสื่อสาร หรือเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ทำให้รับรู้ถึงปัญหาที่อยู่ภายใน หรือรับรู้ถึงความต้องการของพี่น้องประชาชน จึงไม่เป็นเรื่องแปลกที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จะสามารถดึงมวลชนในพื้นที่เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไปด้วยกันได้ โดยทุกฝ่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมก็ต้องการให้เกิดความสันติสุข และความเข้าใจในบทบาทการดำรงชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหลากหลายทางเชื้อชาติ ต่างศาสนา และวัฒนธรรม

ตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง จึงเป็นบทพิสูจน์ที่ทำให้ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” เข้าไปในอยู่ในหัวใจของคนในพื้นที่อย่างไม่ต้องกังวลใจ และถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการปฏิบัติงานราชการ ที่จะต้องโยกย้ายตามคำสั่งวาระ แต่ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งต่อไปนั้น จะสามารถพิชิตใจคนชายแดนใต้ได้เพียงใด ก็คงต้องรอวันพิสูจน์ และเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น