ศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 เดือน รอลงอาญาไว้ 3 ปี “เสี่ยประชัย เลี่ยวไพรัตน์” อดีตประธานบริษัทปูนทีพีไอ ให้สัมภาษณ์ละเมิดอำนาจศาลเมื่อปี 50 ทำนองไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีปั่นหุ้นทีพีไอ
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ห้องพิจารณาคดีที่ 604 วันนี้ (5 พ.ย.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีละเมิดอำนาจศาล ล.14/2550 ที่ นายธันว์ บุญยะตุลานนท์ เลขานุการศาลอาญา กล่าวหานายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย และอดีตประธานบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีพีไอ เป็นจำเลยฐานละเมิดอำนาจศาล
กรณีเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2550 ภายหลังได้รับการประกันตัวคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องในคดีดำ ที่ 4761/2550 ซึ่งศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายประชัย 3 ปี ในคดีปั่นหุ้นพีทีไอ นายประชัยได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทำนองว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมและศาลไม่มีอิสระในการพิจารณา อันมีลักษณะละเมิดอำนาจศาล ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 (1)
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากเห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้มีการศึกษาสูงมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญทางการเมือง มีวุฒิภาวะ แต่กระทำการในลักษณะดูหมิ่นศาล จึงไม่มีเหตุให้รอลงอาญา ต่อมาได้ยื่นอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการให้สัมภาษณ์ของนายประชัยไม่มีเจตนาให้ศาลได้รับความเสียหาย ต่อมา ศาลอาญาได้ให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ 1 เป็นผู้ยื่นฎีกา ตาม พ.ร.บ.อัยการ พ.ศ.2498 มาตรา 11 (7)
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำให้สัมภาษณ์ของผู้ถูกกล่าวหาที่ว่า รู้สึกรับไม่ได้แต่ก็เคารพศาล แต่คราวนี้แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังมีอิทธิพลล้นฟ้า ครอบคลุมทั้งประเทศ เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ แต่ตนก็หวังว่าจะได้รับความยุติธรรมจากชั้นศาลอุทธรณ์ – ฎีกาต่อไป ทั้งนี้นายประชัย ผู้ถูกกล่าวหา ถูกพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ1ฟ้องเป็นจำเลยที่ 2 พร้อมกับพวกรวม 4 คน คดีแดง อ.476/50 ของศาลอาญา ซึ่งพิพากษาจำคุกนายประชัย 3 ปี ปรับ 6,900,300,000 บาท ฐานปั่นหุ้น ทีพีไอ. โดยไม่รอลงอาญา
ทั้งนี้คำให้สัมภาษณ์ของนายประชัย ถือเป็นการตำหนิ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่ศาล เท่ากับกล่าวหาศาลชั้นต้นด้วยว่า อยู่ภายใต้อิทธิพล และการครอบงำของอดีตนายกรัฐมนตรี ตัดสินชี้ขาดคดีของผู้ถูกกล่าว โดยขาดอิสระ นับเป็นการใส่ความศาลชั้นต้น ทำให้ศาลชั้นต้น องค์คณะผู้พิพากษาที่พิจารณาคดีได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกเกลียดชัง เพราะมิได้ตัดสินคดีอย่างเป็นกลาง การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา ถือเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยบริเวณศาล ละเมิดอำนาจศาลจริง ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความ แพ่งมาตรา31 (1)
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงมูลค่าทางธุรกิจของผู้ถูกกล่าวหาสูงนับแสนล้านบาท แสดงว่าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ มีพนักงาน ลูกจ้างจำนวนมาก หากผู้ถูกกล่าวหาต้องรับโทษถึงจำคุก อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อระบบเศรษฐกิจของชาติได้จึงพิพากษากลับ ให้จำคุก 1 เดือน ปรับ 500 บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ 3 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีปั่นหุ้น ทีพีไอ. นั้น ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับให้ยกฟ้องนายประชัยกับพวกทั้งหมด และคดีถือเป็นที่สิ้นสุด เนื่องจาก พนักงานอัยการฝ่ายคดีศาลสูง ไม่ยื่นฎีกา