xs
xsm
sm
md
lg

สำนักเขาอ้อ จ.พัทลุง จัดพิธีไหว้ครู ทำพิธีไสยเวทย์ปลุกเสกวัตถุมงคล ปชช.ร่วมคับคั่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พัทลุง - สำนักวัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้จัดพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ตามพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ ประกอบพิธีทางไสยเวทย์ปลุกเสกวัตถุมงคลโดยเกจิอาจารย์ชื่อดัง มีประชาชนทั่วไปทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

เมื่อวานที่ผ่านมา (6 ก.พ.) ที่วัดเขาอ้อ หมู่ที่ 3 ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง พร้อมด้วยนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายศักดา วิทยาศิริกุล นายอำเภอควนขนุน นายศุภศักดิ์ ศรีหมาน การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง และคณะกรรมการจัดงานฯ ซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

โดยได้ร่วมกันจัดงานพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ ประจำปี 2557 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ 2557 ณ วัดเขาอ้อ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เพื่อย้อนรำลึกถึงความสำคัญของสำนักเขาอ้อ และเส้นทางพุทธธรรม ตลอดถึงพิธีกรรมสำคัญของชุมชนท้องถิ่นภาคใต้ ซึ่งงานพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ นับเป็นกิจกรรมสำคัญของชาวพัทลุง ที่พี่น้องชาวไทย ตลอดจนถึงชาวต่างประเทศที่มีความสนใจด้านไสยเวทย์วิทยาคม มีความเชื่อมั่นศรัทธาในความเข้มขลังด้วยวิชชามนตรา คาถา ภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ จนเป็นที่กล่าวขานกันโดยทั่วไป

สำหรับกิจกรรมในงานพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ ประจำปี 2557 ประกอบด้วย พิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ตามตำราสำนักเขาอ้อ เช่น พิธีหุงเหนียวกินมัน พิธีสะเดาะเคราะห์ประจำปี พิธีไหว้ครูบูรพาจารย์สายเขาอ้อ พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ที่สำคัญคือ พิธีปลุกพระให้ศักดิ์สิทธิ์ เสกชีวิตให้มีคุณธรรม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่พี่น้องประชาชน ผู้สนใจจะได้นำวัตถุมงคลเข้าร่วมพิธีที่เข้มขลัง และมีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกถ่ายทอดผ่านพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายเขาอ้อ โดยทุกท่านจะได้เข้านั่งในพิธีพร้อมวัตถุมงคลที่รวบรวมนำไปร่วมพิธี เพื่อปลุกเสกคนไปพร้อมๆ กัน ส่วนภาคกลางคืน มีการแสดงศิลปวัฒนธรรม มหรสพพื้นบ้าน การแสดงแสงเสียง สื่อผสมชุดตามรอยพิธีกรรมสำนักเขาอ้อ โดยวิทยาลัยนาฏศิลป์พัทลุง พร้อมระบบแสง สี เสียงตระการตา

สำหรับวัดเขาอ้อ เดิมเป็นสำนักทิศาปาโมกข์แบบเดียวกันกับในประเทศอินเดีย คาดว่ามีการก่อตั้งมาก่อนปี พ.ศ.800 ผู้ก่อตั้งเป็นพวกพรหมณาจารย์ หรือพราหมณ์ผู้ทรงเวทย์ที่เดินทางมาจากประเทศอินเดีย ในยุคที่เรียกว่า “ดราวิเลียนยาตรา” คือยุคสมัยที่ศาสนาพราหมณ์เริ่มเคลื่อนไหวออกจากประเทศอินเดียเพื่อจะขยายฐานศรัทธาของศาสนาพราหมณ์ ออกมานอกประเทศอินเดีย ก่อนศาสนาพุทธจะตามออกมาทีหลัง ซึ่งตามหลักฐานหลายอย่างทำให้เชื่อว่า ศาสนาพุทธได้เริ่มมาตั้งมั่นในเมืองนครศรีธรรมราชราวปี พ.ศ. 800 แสดงว่าสำนักเขาอ้อ มีอยู่ก่อนแล้วแล้ว

มีบันทึกชื่อสำนักเขาอ้อในหนังสือโบราณเล่มหนึ่งที่อยู่ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยพาราณสีในประเทศอินเดีย ค้นพบโดย “เวทย์ วรวิทย์” อดีตมหาเปรียญผู้ผ่านการศึกษาเกี่ยวกับประวัติพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้ง ในบันทึกมีใจความว่า แต่เดิมสำนักเขาอ้อเป็นสำนักทิศาปาโมกข์ คือ เป็นที่บำเพ็ญพรตของพราหมณ์ผู้ทรงวิทยาคุณทำหน้าที่ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้แก่เชื้อพระวงศ์ หรือวรรณะกษัตริย์ และลูกหลานผู้นำ เพราะพราหมณ์เป็นชนชั้นรักสงบมีธาตุแห่งความประนีประนอมสูง มีความคิดกว้างไกล เป็นชนชั้นนักการศึกษาชนชั้นแรกของโลก โดยนอกจากจะมีวิชาเกี่ยวกับการปกครองตามตำราธรรมศาสตร์แล้ว ยังมีเรื่องพิธีกรรม ฤกษ์ยาม การจัดทัพตามตำราพิชัยสงคราม ตลอดไปถึงไสยเวทย์ และการแพทย์ ซึ่งตามตำนานบอกว่าวิชา 2 สายสืบทอดโดยพราหมณาจารย์ผู้เฒ่า 2 คน ซึ่งสืบทอดกันคนละสายสำนักเขาอ้อในสมัยนั้นจึงมีพราหมณ์อยู่ 2 ท่านเสมอ

การสืบทอดวิชาของสำนักเขาอ้อได้ดำเนินเช่นนั้นจนกระทั่งมาถึงพราหมณ์รุ่นสุดท้ายเห็นว่าไม่มีผู้รับสืบทอดต่อแล้ว ประกอบกับเล็งเห็นว่าเมื่อสิ้นท่านแล้ว สถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พราหมณ์ผู้บรรลุพระเวทหลายคนได้ฝังร่างไว้ที่นั่น สถานที่นั้นจึงมีสำคัญเกินที่จะปล่อยให้รกร้างไปได้ พราหมณ์ผู้เฒ่าท่านนั้นจึงได้เล็งหาผู้ที่จะมาสืบทอด และรักษาสถานที่สำคัญนั้นไว้ ประกอบกับขณะนั้นอิทธิพลทางพุทธศาสนาได้แผ่เข้ารายล้อมเขตเมืองพัทลุงแล้ว บริเวณข้างๆ เขาอ้อมีวัดอยู่หลายวัด มหาพราหมณ์ทั้ง 2 ท่านเล็งเห็นว่าต่อไปภายภาคหน้าพุทธศาสนาจะยั่งยืน และแผ่อิทธิพลในดินแดนแถบนั้น การที่จะฝากอะไรไว้แก่ผู้ที่ยั่งยืน และมีอิทธิพลน่าจะเป็นการดี ท่านเลยตัดสินใจไปนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่งให้มาอยู่ในถ้ำแทนท่าน แล้วมอบคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของบูรพาจารย์พราหมณ์ให้ พร้อมทั้งถ่ายทอดวิชาทางไสยเวทให้ รวมทั้งวิชาทางแพทย์แผนโบราณ

พระภิกษุรูแรกที่พราหมณ์ผู้เฒ่าไปนิมนต์มา ทราบแต่เพียงว่ามีนามว่า ทอง ส่วนจะทองอะไรนั้นยังไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด เพราะวัดแห่งนี้มีเจ้าอาวาสที่ชื่อทองติดต่อกันมาหลายสิบรูป ซึ่งในอดีตแต่ละรูปจะได้รับการถ่ายทอดวิชาตามคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของบูรพาจารย์พราหมณ์สืบต่อกันมา ทำให้เป็นผู้ทรงคุณวิเศษในด้านไสยเวทวิทยาคมเป็นที่ประจักษ์มาทุกยุคทุกสมัย

ด้วยเหตุผลดังกล่าว วัดเขาอ้อจึงมีชื่อเสียงในทางไสยเวทและการแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับว่าน ภายหลังจึงมีพิธีแช่ว่าน พิธีกรรมทางไสยเวทหลายอย่างขึ้นที่นั่นจนลือเลื่องไป ลำดับเจ้าอาวาสของสำนักเขาอ้อ 1.พระอาจารย์ทอง 2.พระอาจารย์สมเด็จเจ้าจอมทอง สันนิษฐานว่าเป็นเพื่อนร่วมสมัยกับสมเด็จเจ้าพะโคะ (หลวงปู่ทวดวัดช้างไห้) 3.พระอาจารย์พรหมทอง 4.พระอาจารย์ไชยทอง 5.พระอาจารย์ทองจันทร์ 6.พระอาจารย์ทองในถ้ำ 7.พระอาจารย์ทองหน้าถ้ำ 8.พระอาจารย์ทอง (หูยาน) 9.พระครูสังฆวิจารณ์ฉัตทันต์บรรพต (พระอาจารย์ทองเฒ่า) พ.ศ.2392-พ.ศ.2470 10.พระอาจารย์พระครูปาน ปาลธัมโม (พระอาจารย์ปาน) พ.ศ.2471-พ.ศ.2520 11.พระครูอดุลธรรมกิต อัคคธัมโม (พระอาจารย์กลั่น) พ.ศ.2519-พ.ศ.2549 12.พระอาจารย์ห้อง ธัมวโร (พระอาจารย์คล้อย) พ.ศ.2550-ปัจจุบัน ส่วนศิษย์ฆราวาสที่มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เช่น ขุนพันธรักษ์ราชเดช อาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นต้น

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น