ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ศอ.บต.จัดรับฟังปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนใต้ เพิ่มมาตรการเข้มช่วงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ด้าน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เผยจากเหตุการณ์ฆ่าหมู่คนไทยพุทธ 5 ศพ สาเหตุจากการแก้แค้นของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ ฝ่ายรองแม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการประชุมสมาชิกสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีนายอาซิส เบ็ญหาวัน ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลาขาธิการ ศอ.บต. พล.ต.ชนินทร์ อมรแก้ว รองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นตัวแทนแม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.สำนักทุกสำนักของ ศอ.บต. เข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังปัญหา อุปสรรค และความต้องการของประชาชนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน รวมทั้งการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยนายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกสภาที่ปรึกษาในภาคส่วนของสื่อมวลชน ได้สอบถาม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ในประเด็นการเสียชีวิต 5 ศพ ของชาวไทยพุทธที่ ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหาร 5 ศพ ที่ ต.ปล่องหอย อ.กระพ้อ จ.ปัตตานี รวมทั้งขอให้มีการป้องกันการก่อเหตุรุนแรงในช่วงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมีรายงานข่าวว่า แนวร่วมในพื้นที่จะก่อเหตุความรุนแรงครั้งใหญ่
โดยนายไชยยงค์ ได้กล่าวว่า การฆ่าหมู่คนไทยพุทธ 5 ศพ มาจากการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น และจับกุมผู้ต้องหา ผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่งในพื้นที่ ต.บางเขา เป็นเหตุให้แนวร่วมแก้แค้นเอาคืนด้วยการสังหารหมู่ไทยพุทธ ดังนั้น ในครั้งต่อไปหากมีการ จับกุมแนวร่วมในพื้นที่ใด กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่ทราบด้วย เพื่อที่เจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่จะได้มีการป้องกันเหตุร้าย และป้องกันตนเอง
ส่วนการสูญเสียของเจ้าหน้าที่ทหาร 5 ศพ และบาดเจ็บอีก 10 ราย ในขณะที่เดินทางออกจากฐานเพื่อผักผ่อนตามวงรอบนั้น เป็นเหตุการณ์ซ้ำซากที่เกิดขึ้นบ่อยมาก และยังความสูญเสียให้แก่กำลังพลมาโดยตลอด เป็นเหตุการณ์ที่ป้องกันได้ด้วยการลาดตระเวนเส้นทาง และวิธีการอื่นๆ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ไม่ประมาท และมีแผนยุทธการที่รัดกุมจะช่วยป้องกันความสูญเสียได้ และในทุกปีในช่วงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ จะมีการก่อเหตุรุนแรง ขอให้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ปฏิบัติการในเชิงรุกเพื่อที่จะทำให้เหตุร้ายลดน้อยลง
โดย พล.ต.ชรินทร์ อมรแก้ว รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นว่า ยังมีการบกพร่องหละหลวมในการปฏิบัติ ทั้งที่มีแผนปฏิบัติการอยู่แล้ว แต่กองกำลังในพื้นที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผน ซึ่งจะต้องกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ส่วนในเรื่องการป้องกันเหตุรุนแรงในช่วงส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่นั้น กอ.รมน. รับทราบข่าวล่วงหน้าว่าจะมีการก่อเหตุด้วยระเบิดแสวงเครื่องในเขตชุมชนเมือง ในพื้นที่ 3 จังหวัด และได้มีแผนในการรับมือ ทั้งในการตั้งรับ และในเชิงรุกเพื่อป้องกันเหตุ เช่น การส่งกำลังเข้าปฏิบัติการในหมู่บ้านเป้าหมาย และการปิดล้อมเส้นทางลงจากเทือกเขาบูโด ที่มีกองกำลังของอาร์เคเค เพื่อตัดเส้นทางนำกำลังจากเทือกเขา เข้าโจมตีเป้าหมาย เชื่อว่าปฏิบัติการของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะทำให้แนวร่วมก่อเหตุตามที่วางแผนไว้ไม่ได้