ส.ส.-ส.ว.เรียงหน้าเรียกร้องรัฐบาลทบทวนเจรจาบีอาร์เอ็น หลังเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดเหิมขนาดกราดฆ่า 6 ศพที่ปัตตานี ด้าน “เจะอามิง” ตอก “ภราดร” มั่วข้อมูลอ้างเป็นเรื่องส่วนตัว งัดหลักฐานใบปลิวเป็นฝีมืออาร์เคเค ด้าน “ส.ว.อนุศาสน์” ระบุคนในพื้นที่เชื่อการเจรจาแค่หวังผลคะแนนนิยมทางการเมืองของไทย และมาเลเซีย โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่คนในพื้นที่จะได้รับ เตือนขบวนการแบ่งแยกดินแดนกำลังยกระดับดึงต่างชาติเข้ามาแทรกแซงปัญหาภายใน
นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกมาระบุว่าเหตุการณ์ยิงกราดฆ่าหมู่ 6 ศพ ที่ร้านขายของชำใน จ.ปัตตานี เป็นการล้างแค้นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตนยังยืนยันว่าเหตุการณ์ยิงกราดชาวบ้านตาย 6 ศพนี้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้แน่นอน เพราะก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่รัฐได้วิสามัญฆาตกรรมกลุ่มจรยุทธ์ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ จ.นราธิวาส จึงเป็นการตอบโต้ของกลุ่มอาร์เคเคต่ออำนาจรัฐเพื่อแสดงให้เห็นว่าอำนาจรัฐไม่สามารถให้ความคุ้มครอง ปลอดภัยกับชาวบ้านได้จริง ตอกย้ำว่าตัวแทนบีอาร์เอ็นไม่สามารถควบคุมสั่งการต่อกลุ่มจรยุทธ์ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ เช่น อาร์เคเคได้
นายเจะอามิงกล่าวว่า อีกสาเหตุที่กล้าฟันธงว่าเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ไฟใต้ โดยเฉพาะการกรณีการเจรจาสันติภาพของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่ยื่นเงื่อนไขให้รัฐไทย 5 ข้อ คือ หลังเกิดเหตุฆ่าหมู่ 6 ศพก็มีใบปลิวขนาด A4 แจกจ่ายในเขต อ.เมืองยะลาเต็มเมือง มีแม้กระทั่งลงในเฟซบุ๊ก แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเชื่อมโยงถึงข้อเสนอ 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็นและสถานการณ์ไฟใต้ มีการใช้คำว่า “ซีแย” ในที่นี้หมายถึงรัฐไทย ถึงเวลาที่เลขาฯ สมช.จะต้องยอมรับความจริงว่าทุกอย่างเกี่ยวข้องกัน ไม่ใช่ตัดตอน ตัดต่อปมปัญหาออก
“ถามว่าถึงเวลาทบทวนการเจรจาหรือยัง เพราะคุยไปฆ่าไปแบบนี้ต่อจากนี้เชื่อว่าชาวบ้านจะรับเคราะห์ที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น จึงควรที่เลขาฯ สมช.หรือความมั่นคงไทยต้องทบทวนตั้งเงื่อนไขต่อบีอาร์เอ็นแล้วว่า หากจะคุยต่อบีอาร์เอ็นก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นก่อนว่า สามารถสั่งการ ควบคุมกลุ่มอาร์เคเค หรือกลุ่มอื่นที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างๆ ให้ยุติใช้ความรุนแรง หรือจะใช้ชีวิตชาวบ้านให้รับเคราะห์แทน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ใบปลิวดังกล่าวมีข้อความว่า “พี่น้องนักรบฟาตอนีทุกคน เราได้ล้างแค้นให้กับพวกท่านไปแล้ว เราตาย 4 คน แต่เราต้องเอาคืนมากกว่าเดิม ขอให้เหล่านักรบฟาตอนีทุกคนจงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินของเราฮีญาด 6 ศพที่ปัตตานีจะเป็นบทเรียนให้ซีแยได้จดจำ เราจะฆ่าทุกคนไม่เว้นเด็กหรือผู้หญิง เราจะต่อสู้เพื่อขบวนการ BRN ที่ยิ่งใหญ่ของพวกเรา พวกเราจะทำให้ซีแยต้องยอมรับข้อเสนอของเราในทุกทาง จงสู้ต่อไป นักรบฟาตอนี”
ด้านนายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ส.ว.สรรหา ประธาน กมธ.ติดตามและประเมินผลการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น หลังจากที่มีการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่มากขึ้น แสดงให้เห็นว่าการพูดคุยไม่ได้ส่งผลให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่มีการยื่นเงื่อนไข 5 ข้อของกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งไม่ใช่ความต้องการของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง เพราะคนที่มาเจรจากับรัฐเป็นคนที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ไม่เคยมีประวัติว่าเคยสร้างคุณงามความดีให้กับพี่น้องประชาชน จึงไม่มีความชอบธรรมเพียงพอที่จะเรียกร้องอย่างแข็งกร้าวเช่นนี้
นายอนุศาสน์กล่าวว่า คนในพื้นที่กำลังมองว่าการเจรจาเป็นการหวังผลทางการเมืองของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลมาเลเซีย โดยไม่คำนึงว่าคนในพื้นที่จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการที่กลุ่มบีอาร์เอ็น สามารถยกระดับข้อเรียกร้องของตัวเองได้ตลอดเวลา เช่นจะให้โอไอซี หรืออาเซียนเข้ามาแก้ปัญหา ขยายวงออกไปให้เป็นปัญหาระดับสากล จะทำให้รัฐตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ และเปิดทางให้ต่างชาติจะเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศ โดยที่รัฐบาลควบคุมไม่ได้ ดังนั้นขอเรียกร้องให้ทบทวนแผนการพูดคุยสันติภาพ โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของคนในพื้นที่เป็นหัวใจสำคัญ
