xs
xsm
sm
md
lg

ศุลกากรจับเรือประมงดัดแปลงลอบค้าน้ำมันเถื่อนกลางอันดามันได้หมื่นลิตร อ้างนายทุนกระบี่จ้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต (กรมศุลกากร) ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 จับกุมเรือประมงดัดแปลง “ทรัพย์วิชัยนาวี” ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนในทะเลอันดามัน น่านน้ำจังหวัดกระบี่ได้พร้อมของกลางน้ำมันดีเซล 10,000 ลิตร มูลค่า 600,000 บาท บรรจุถังพลาสติกขนาดใหญ่ซุกซ่อนอยู่ใต้ท้องเรือ กัปตันอ้างเป็นเรือของนายทุนในจังหวัดกระบี่ว่าจ้าง

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (14 ต.ค.) ที่บริเวณท่าเทียบเรือศุลกากร บ้านแหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ดร.สงบ สิทธิเดช หัวหน้าฝ่ายบริการ ด่านศุลกากรภูเก็ต พร้อมด้วย นายเจริญ ชำนิกลาง หัวหน้าสืบสวนปราบปรามภูเก็ต (กรมศุลกากร) และเจ้าหน้าที่สืบสวนปราบปรามภูเก็ต แถลงข่าวการจับกุมเรือประมงดัดแปลงลักลอบค้าน้ำมันหนีภาษีในทะเลอันดามัน

นายเจริญ ชำนิกลาง หัวหน้าสืบสวนปราบปรามภูเก็ต (กรมศุลกากร) กล่าวว่า ตามที่กรมศุลกากรมีนโยบายในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงภาษี ทางหน่วยปราบปรามภูเก็ต (กรมศุลกากร) จึงได้ร่วมกับทางทัพเรือภาค 3 และศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศร.ชล) เขต 3 ในการสืบสวนหาข่าวเพื่อป้องปรามไม่ให้มีการลักลอบค้าน้ำมันหนีภาษีในทะเลอันดามัน ประกอบกับทางหน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีการลักลอบค้าน้ำมันหนีภาษีบริเวณจังหวัดกระบี่อยู่บ่อยครั้ง จึงได้ประชุมหารือกับทาง ศร.ชล เขต 3 และวางแผนเข้าทำการจับกุมมาโดยตลอด

จนล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันที่ 12 ต.ค.2556 เจ้าหน้าที่ศุลกากร หน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต ส่วนสืบสวนปราบปราม 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ศร.ชล เขต 3 และทัพเรือภาคที่ 3 สามารถจับกุมเรือประมงดัดแปลง สีขาว 1 ลำ ชื่อ ทรัพย์วิชัยนาวี พร้อมน้ำมันดีเซลหนีภาษี จำนวน 10,000 ลิตร มูลค่า 600,000 บาท โดยมีนายสัมฤทธิ์ ทองใส สัญชาติไทย เป็นผู้ควบคุมเรือ พร้อมด้วยลูกเรือสัญชาติไทยอีก จำนวน 2 คน ได้ที่บริเวณละติจูด 08 องศา 01 ลิปดา 06 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 46 ลิปดาตะวันออก ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ หรือทางตะวันออกของแหลมหางนาค ครึ่งไมล์ทะเล โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีนายทุนสัญชาติไทย เป็นผู้ว่าจ้างพวกตนให้มารับซื้อน้ำมันหลบหนีภาษีศุลกากรบริเวณจังหวัดกระบี่

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ของกำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตามมาตรา 27, 27 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 จึงได้ยึดน้ำมัน เรือประมงดัดแปลง เป็นของกลางพร้อมจับกุมลูกเรือ 2 คน เป็นผู้ต้องหานำส่งด่านศุลกากรภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายเจริญ กล่าวต่อว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนั้น เรือประมงลำดังกล่าวกำลังวิ่งเข้าฝั่งจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และค้นเรือ พบน้ำมันดีเซลทั้งหมดถูกบรรจุอยู่ให้ถังพลาสติกขนาดใหญ่ จำนวน 50 ถัง ถังละ 200 ลิตร ซุกซ่อนอยู่ภายในท้องเรือ โดยใช้ไม้กระดานทำเป็นฝาปิดเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลการลักลอบค้าน้ำมันหนีภาษีในทะเลอันดามันอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่านอกจากเรือลำดังกล่าวแล้ว ยังมีเรือประมงดัดแปลงลำอื่นๆ อีกที่ลักลอบค้าน้ำมันหนีภาษีโดยซื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้านในราคาที่ต่ำกว่าประเทศไทย ทำให้มีกำไรส่วนต่างสูง ซึ่งราคาที่ขายกันในทะเลขณะนี้อยู่ที่ลิตรละ 20 บาท แต่หากเป็นมันดีเซลบนบกที่ถูกต้องตามกฎหมายราคาจะอยู่ที่ลิตร 30 บาท และในช่วงตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาจนถึงขณะนี้สามารถจับกุมเรือประมงดัดแปลงลักลอบค้าน้ำมันหนีภาษีได้แล้ว 7 ลำ

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น