พัทลุง - รถบรรทุกน้ำมันเถื่อนจากชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา มุ่งหน้าไปนครศรีธรรมราช พลิกคว่ำไฟลุกไหม้ทั้งคนทั้งรถ ดับสยอง 1 ศพ บนถนนสายรองในจังหวัดพัทลุง จนท.อุบัติเหตุสยองครั้งนี้เกิดจากคนขับเปลี่ยนมาวิ่งถนนสายรองแทน เนื่องจากถนนสายหลักมีด่านตรวจซึ่งไม่ชำนาญเส้นทางเมื่อขับมาด้วยความเร็วจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบนี้แล้วหลายราย
เมื่อเวลา 05.45 น. วันนี้ (24 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า ร.ต.ท.บุญทิพย์ บุญฝ้าย ร้อยเวร สภ.เขาชัยสน จ.พัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะพลิกคว่ำทำให้เกิดไฟลุกไหม้ และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ โดยเหตุเกิดบนถนนสายท่าลาด-ควนสามโพธิ์ ม.7 ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลเขาชัยสน 1 คัน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพัทลุง
ในที่เกิดเหตุ ไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์กระบะ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน ผก 3628 นครศรีธรรมราช ทั้งคัน เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงนานกว่า 30 นาทีไฟจึงดับ พบศพชายอายุ 20 กว่าปี นอนเสียชีวิต 1 ราย ถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโกตรงที่นั่งเบาะข้าง เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อ คือ นายอมรศักดิ์ กลับแก้ว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 ม.1 ต.อินอุดม อ.ลำทับ จ.กระบี่ บาดเจ็บสาหัส พลเมืองดีได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเขาชัยสน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุรถคันดังกล่าวได้บรรทุกนำมันเบนชินเถื่อนประมาณ 2,000 ลิตร มาจาก อ.สะเดา จ.สงขลา ตามเส้นทางเพชรเกษมด้วยความเร็ว และเลี่ยงด่านตรวจตำรวจไปตามถนนสายรอง เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งทำให้รถเกิดพลิกคว่ำถังน้ำมันเบนชินแตกกระจายจนไฟเกิดลุกไหม้รถทั้งคัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนจากชายแดน อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อไปส่งให้ลูกค้า จ.นครศรีธรรมราช หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดอย่างหนักได้เปลี่ยนเส้นทางวิ่งบนถนนสายรอง ขับรถด้วยความเร็ว และไม่ชำนานเส้นทางจนทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้วหลายครั้ง ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน ขณะที่ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนขับวิ่งตามหลังกันมา 2 คัน เพื่อเร่งทำเวลาแต่อีกคันเกิดพลิกคว่ำจนไฟลุกไหม้ ส่วนอีกคันหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งสืบสวนคนเจ็บเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป