xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ตจับเรือลอบขนน้ำมันเถื่อนยึดกว่า 3.5 ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หน่วยสืบสวนปราบปรามศุลกากร ตรวจยึดเรือลอบขนน้ำมันเถื่อนเข้ามาขายในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กว่า 5 หมื่นลิตร มูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท ระบุเป็นเรือลำใหม่ยังไม่มีในประวัติลอบค้าน้ำมันเถื่อน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (8 ก.พ.) ที่บริเวณท่าเรือศุลกากร หน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายไพศาล ชื่นจิตร ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนปราบปรามภูเก็ต กรมศุลกากร แถลงข่าวการจับกุมเรือบรรทุกน้ำมัน 1 ลำ พร้อมของกลางน้ำมันดีเซลลักลอบหนีศุลกากร จำนวน 50,000 ลิตร มูลค่าของกลางรวมกว่า 3.5 ล้านบาท

นายไพศาล กล่าวถึงการจับกุมในครั้งนี้ว่า กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อจำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงในเขตพื้นที่ภาคใต้ นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดีกรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปราม

จนกระทั่งเมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ส่วนสืบสวนปราบปรามที่ 2 (ปราบปรามทางทะเล) สามารถจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ โชคถาวร 8 สัญชาติไทย ขนาดความยาว 9 วา ความกว้าง 4 วา มีนายวรพันธ์ สุภาวินิต เป็นนายเรือ และลูกเรือสัญชาติไทยอีก 3 คน โดยเรือลำดังกล่าวบรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบหนีภาษีศุลกากร จำนวน รวม 50,000 ลิตร มูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท มูลค่าของกลางรวมทั้งเรือ และน้ำมันประมาณ 3.5 ล้านบาท เหตุเกิดบริเวณละติจูด 07 องศา 24 ลิปดา 195 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 98 องศา 23 ลิปดา 096 ฟิลิปดาตะวันออก ห่างจากเกาะราชาใหญ่ ด้านตะวันออกประมาณ 6 ไมล์ทะเล เขตจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีนายทุนเป็นผู้ว่าจ้างพวกตนให้มารับซื้อน้ำมันหลบหนีภาษีศุลกากรบริเวณน่านน้ำจังหวัดภูเก็ต-ระนอง

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตามมาตรา 27, 27 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบกับมาตรา 16, 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 จึงได้ยึดน้ำมัน และเรือบรรทุกน้ำมันเป็นของกลาง พร้อมจับกุมตัวลูกเรือเป็นผู้ต้องหานำส่งศุลกากรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ นายไพศาล กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีการลักลอบขนน้ำมันเข้ามาขายให้แก่เรือประมงในเขตน่านน้ำไทย หลังรับแจ้งจึงนำเรือของทางศุลกากรเข้าไปตรวจสอบ และพบเห็นเรือประมงดัดแปลงลำดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบของกลางเป็นน้ำมันดีเซลลับลอบหนีภาษีศุลกากร ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมคนขับเรือ และลูกเรือ พร้อมนำเรือมาที่บริเวณท่าเทียบของศุลกากร อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเรือประมงลำดังกล่าวพบว่า เป็นเรือที่ดัดแปลงขึ้นมาใหม่ไม่เคยมีรายชื่ออยู่ในบัญชีของเรือที่ลักลอบค้าน้ำมันอยู่ฝั่งอันดามัน ส่วนการสืบสวนหาตัวนายทุนที่อยู่เบื้องหลังนั้นขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม สำหรับการจับกุมเรือที่ลักลอบค้าน้ำมันหนีภาษีศุลกากร รวมทั้งการลักลอบขนน้ำมันหนีภาษีในพื้นที่บนบกบริเวณพื้นที่ภาคใต้ ในรอบปีที่ผ่านมา สามารถจับกุมน้ำมันที่ลักลอบนำเข้ามามา ประกอบด้วย น้ำมันดีเซล 663 ราย ปริมาณ 831,740 ลิตร มูลค่า 21,358,123 บาท น้ำมันเบนซิน 733 ราย ปริมาณ 729,540 ลิตร มูลค่า 22,999,428 บาท เฉพาะส่วนสืบสวนปราบปรามทางทะเลจับกุมเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลทั้งสิ้น 7 ลำ ปริมาณ 501,000 ลิตร มูลค่า 15,030,000 บาท
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น