xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ชุดปราบจลาจลเริ่มล้าเตรียมสับเปลี่ยนกำลัง ขณะม็อบยางคึกคักต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - ผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดเริ่มทยอยเข้ามาสมทบกลุ่มผู้ชุมนุมแยกควนหนองหงส์ และแยกบ้านตูล ขณะที่ตำรวจปราบจลาจลเริ่มอ่อนล้า หลังปักหลักอยู่ยาวไม่มีคำสั่งเข้าสลาย โดยล่าสุด ได้ขอกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนจากตำรวจภูธรภาค 9 เข้ามาสนับสนุนสับเปลี่ยนกำลังพลแล้ว

ในช่วงบ่ายของวันนี้ (30 ส.ค.) บรรยากาศในการชุมนุมบริเวณแยกควนเงิน ม.2 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ผู้ชุมนุมทยอยเดินทางเข้าไปในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บริเวณหน้าเวทีนั้นมีการร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยก็เป็นไปอย่างตึงเครียด กลุ่มการ์ดตั้งด่านตรวจสอบการเข้าพื้นที่ชุมนุมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวต้องถูกตรวจบัตรประจำตัวของสำนักข่าวทุกคน และปฏิเสธไม่ให้สำนักข่าว โดยเฉพาะโทรทัศน์บางช่องไม่ให้เข้าพื้นที่อย่างเด็ดขาด เนื่องจากไม่พอใจในการเสนอข่าว โดยมีเหตุผลว่าเป็นการเสนอข่าวที่เข้าข้างฝ่ายผู้ว่าราชการจังหวัดมากเกินไป

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนบริเวณถนนสายวัดจิกพนม กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากฝุ่นบนถนนที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ต้องใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงจุดชุมนุมเข้าสู่ตัวเมืองชะอวด โดยเส้นทางสายวัดจิกพนม-วัดรักขิตวัน ม.6 ต.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นเส้นที่ถูกลาดด้วยหินคลุก และหินฝุ่น ทำให้มีฝุ่นเป็นจำนวนมาก เมื่ออากาศมีสภาพแล้ง ฝนทิ้งช่วง และยิ่งส่งผลกระทบมากขึ้นจากฝุ่นปริมาณมากกว่าปกติหลายเท่าเมื่อต้องใช้ถนนสายนี้เป็นเส้นทางหลบเลี่ยงจุดชุมนุม

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมถนนดังกล่าว เปิดเผยว่า ปกติถนนเส้นนี้มีสภาพเป็นฝุ่นคละคลุ้งอยู่แล้ว และยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อถูกใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงจุดชุมนุม แต่อย่างไรก็ตาม แม้เป็นความเดือดร้อน แต่ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาช่วยรดน้ำบนถนนให้มีความถี่มากขึ้น

ตำรวจปราบจลาจลเริ่มอ่อนล้า หลังปักหลักอยู่ยาวไม่มีคำสั่งเข้าสลาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนจากหลายจังหวัด ทั้งจากระนอง ชุมพร พังงา กระบี่ ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นเขตตำรวจภูธรภาค 8 ที่เข้ามาประจำการในพื้นที่ อ.ชะอวด เพื่อเข้าเตรียมการในการควบคุมฝูงชน โดยแต่ละกองร้อยได้กระจายกำลังกันเข้าพักตามวัดต่างๆ ที่กระจายอยู่รอบเขตชุมนุม ในรัศมีมากกว่า 15 กิโลเมตร พร้อมที่จะเข้าปฏิบัติการหากมีคำสั่ง

โดยแต่ละนายอยู่ในสภาพอ่อนล้าจากการตรากตรำตลอดทั้ง 7 วันที่ผ่านมา ส่วนเสื้อผ้ามีเครื่องแบบเพียงชุดเดียวเท่านั้น สำหรับอาหารการกินนั้น มีเพียงอาหารกล่องที่ฝ่ายพลาธิการนำมาส่งตลอดทั้ง 3 มื้อ ส่วนการใช้ห้องน้ำห้องส้วมเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีห้องส้วมเพียงไม่กี่ห้อง ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนาย ส่วนการสับเปลี่ยนกำลังนั้นตำรวจภูธรภาค 8 ได้ขอกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนมาสนับสนุนจากตำรวจภูธรภาค 9 เข้ามาสนับสนุนสับเปลี่ยนกำลังพล

เกษตรกรชาวสวนยางนครศรีฯ ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ระบุพอใจมาตรการช่วยเหลือ

ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช วันนี้ (30 ส.ค.) นายราชิต สุดพุ่ม นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ได้ประชุมชี้แจงเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ อ.เมือง ถึงการลงทะเบียนเกษตรกร เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยเหลือรับสิทธิประโยชน์จากการช่วยเหลือของรัฐบาล โดยปัจจัยการผลิต 1,260 บาทต่อไร่ เพราะได้ผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองไปแล้ว และจะเข้า ครม. ในเร็วๆ นี้ และในส่วนของเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิจะมีการช่วยเหลือต่อไป ซึ่งการช่วยเหลือนั้นจะช่วยเฉพาะผู้ที่มีเอกสารสิทธิเท่านั้น จังหวัดนครศรีธรรมราช จะเป็นจังหวัดนำร่องในเรื่องของการขึ้นทะเบียนเกษตรกร โดยมีเกษตรกรมาขอขึ้นทะเบียนแล้ว 16,000 คน โดยส่วนใหญ่เกษตรกรก็จะพอใจในมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ที่จะช่วยเหลือราคายาง กก.ละ 80 บาท และชดเชยไร่ละ 1,260 บาท

ทนายความการ์ดม็อบเข้าตามคดีตำรวจชน จยย. พบว่าต่างฝ่ายมีการแจ้งความทั้งคู่

ขณะเดียวกัน ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนหน้า สภ.ชะอวด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสัวสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แถลงถึงกรณีที่ นางสะอื้น เทพนุกูล อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106/1 ม.5 ต.เขาพระทอง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้มาแจ้งความว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่บุตรชาย คือ ด.ช.น้อย (นามสมมติ) ได้ขับรถจักรยานยนต์ และถูกรถยนต์กระบะเชฟโรเลต ทะเบียน 6077 และมีชายฉกรรจ์คนนั่งอยู่ในรถ ได้เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของ ด.ช.น้อย ล้มลง และได้มายกรถจักรยานยนต์ของ ด.ช.น้อย ขึ้นรถกระบะไป โดยเหตุเกิดที่ปั๊มน้ำมัน ม.3 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเช้าของวานนี้นั้น

ในเรื่องนี้ ทางนายสอและ มุดา ทนายความของ ด.ช.น้อย ได้เข้ามาติดตามเรื่องคดีกับ พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสัวสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า เจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว คือ ร.ต.ต.ประยงค์ ช่วยชู พร้อมกับเพื่อน ได้มีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องนี้เช่นกัน โดยระบุว่า ขณะขับรถยนต์มาถึงบริเวณเกิดเหตุ ด.ช.น้อย ได้ใช้หนังสติ๊กยิงลูกแก้วใส่รถกระบะ และเสียหลักล้มลง จากนั้นจึงหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปยกรถจักรยานยนต์ขึ้นรถกระบะ และเมื่อตรวจสอบในรถ พบถุงบรรจุลูกแก้ว 2 ถุง หนังสติ๊ก 1 อัน และผ้าพันคอสีเหลือง 1 ผืน จึงได้แจ้งความข้อหาพยายามทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่

ซึ่ง พ.ต.อ.สุทัศน์ ระบุว่า เรื่องนี้ถือเป็นการเข้าใจผิดกัน เพราะเกิดจากการระแวงระหว่างกัน “ในสถานการณ์เช่นนี้เด็กก็คงจะระแวงว่าจะถูกจับกุม ตำรวจเองก็ต้องระวังว่าจะถูกทำร้าย แต่เด็กได้มีการยิงใส่รถตำรวจก่อน จึงเสียหลักล้มลง เราก็ต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง” พ.ต.อ.สุทัศน์ ได้แถลงต่อหน้าทนายความของเด็กชายรายนี้

 
 



กำลังโหลดความคิดเห็น