โดย...ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
หลังจากช่วยบ่ายของวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์รัฐบาลตัดสินใจไฟเขียวให้ตำรวจปราบจลาจลใช้ “ความรุนแรง” ในการสลาย “การชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพารา” ในพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยการปิดถนนบริเวณแยกควนหนองหงส์ ในพื้นที่ อ.ชะอวด เพื่อกดดันให้รัฐบาลหันมาแก้ไขดูแลความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหายางพารา และปาล์มตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีแนวโน้มกระเตื้องขึ้นเลยด้วยนั้น
ความจริงแล้วความเดือดร้อนของชาวสวนยาง และปาล์ม ที่ได้แปรไปสู่การชุมนุมเรียกร้องขอความเห็นใจจากรัฐบาลนั้น ถูกทำให้เป็นที่รับรู้ของบรรดาผู้กุมกลไกอำนาจรัฐมาอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลกลับไม่เคยยอมเจรจา กลับสั่งการให้ “ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช” และ “ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช” เข้าสลายการชุมนุมจนเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง ได้รับบาดเจ็บกันทั้งสองฝ่ายไปนับสิบราย ภาพที่ปรากฏออกมานั้น ได้เห็นกำลังเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลมากมาย และมีการทุบตีผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดการตอบโต้กลับมาอย่างดุเดือดไม่แพ้กัน
สิ่งนี้ทำให้บรรยากาศทางการเมืองเกิดความตึงเครียดขึ้นมาทันที โดยเฉพาะการชุมนุมของพี่น้องชาวสวนยาง และปาล์มที่ยังคงปักหลักพักค้าง แล้วก็มีประชาชนจากภาคส่วนต่างๆ ของภาคใต้ทยอยเข้าร่วมชุมนุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆ กับมีการยกระดับการชุมนุมขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะยาวไปจนถึงวันที่ 3 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีการนัดแนะกันของพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง และปาล์มทั่วประเทศจะผนึกการเคลื่อนไหวด้วยกัน
ในส่วนของผู้กุมอำนาจรัฐ ระดับนำของรัฐบาลยังดาหน้ากันออกมาแก้ตัวเป็นพลันวันว่าไม่ได้ใช้ความรุนแรง พร้อมหยิบยกเหตุผลต่างๆ นานามาอธิบาย ซึ่งก็ไม่แปลกที่กระแสเสียงวิพากษ์วิจารณ์จะรุมกระหน่ำว่านั่นมันกลายเป็นการบิดเบือนไป ขณะที่ก็มีข่าวสะพัดว่า เวลานี้ “นายวิโจน์ จิวะรังสรรค์” ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ถึงขั้นต้องปิดโทรศัพท์มือถือ และเฟซบุ๊กสส่วนตัว พร้อมหลบหน้าต่อสังคมไปเก็บตัวเงียบอยู่ในที่ปลอดภัย ซึ่งสังคมคนนครฯ ก็กำลังรอคำชี้แจงในเรื่องนี้
ผ่านมาแล้ว 4 วัน หลังเกิดเหตุรัฐบาลสั่งสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง “ASTVผู้จัดการภาคใต้” ได้ประมวลอารมณ์ และความรู้สึกของผู้คนในสังคมที่มีต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ผ่านการใช้สื่อสังคมออนไลน์ พบว่า ถึงวันนี้ยังคงมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างคึกคัก และมีการแชร์กันอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นไปแบบหลากทัศนะ หลายมุมมอง ซึ่งให้อารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายยิ่งนัก ดังภาพปรากฏเป็นภาพที่รวบรวมมานำเสนอไว้ ณ ที่นี้แล้ว
