xs
xsm
sm
md
lg

“ส.ส.-ไข่หมูก-สหายช่วง” แห่ช่วยม็อบยาง เผยผู้ว่าฯ หดหัวปิดมือถือ และเฟซบุ๊กหนี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
นครศรีธรรมราช - ประกาศิตผู้ว่าฯ สั่งตำรวจใช้ความรุนแรงสลายม็อบสวนยาง และปาล์มที่นครฯ กำลังจะบานปลายกลายเป็น “น้ำผึ้งหยดเดียว” เผยบรรดานักการเมือง และนักเคลื่อนไหวระดับพระกาฬเริ่มทยอยเข้าร่วม “ถาวร” ขน ส.ส.ปชป.ใต้เข้าให้ช่วยเหลือเรื่องคดีความ ขณะที่ครอบครัว “ไข่หมูก” ขนอาหารให้ 2 คันรถ ส่วน “สหายช่วง” ก็ดอดหนุนแล้ว ด้าน “วิโรจน์” ทนถูกรุมด่าไม่ไหวปิดทั้งเฟซบุ๊ก และมือถือ แถมมุดถ้ำหนีจำศีลไปแล้ว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช วันนี้ (25 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของการชุมนุมประท้วงปิดถนนทางหลวงเอเชีย สาย 41 บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ม.2 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ของชาวสวนยาง และสวนปาล์มน้ำมันภาคใต้ บรรยากาศของการชุมนุมยังเป็นไปแบบคึกคัก มีตั้งเต็นท์บนถนนในช่วงขาล่อง และมีการนำรถบรรทุก 18 ล้อจอดขวางถนนในช่องทางขาขึ้น และล่อง ทำให้ยานพาหนะไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ โดยกลุ่มผู้ประท้วงเปิดเครื่องเสียงปรับเปลี่ยนสลับกันขึ้นปราศรัยบนเวทีอยู่ตลอดเวลา และเรียกร้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปพบ เพื่อรับทราบความเดือดร้อนของเกษตร และรับข้อเรียกร้อง ได้แก่ ขอให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาให้แก่ยางพารา และปาล์มน้ำมัน
 
ขณะเดียวกัน ได้มีการปิดถนนเพิ่มอีก 1 จุด บริเวณแยกทุ่งโป๊ะ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากจุดเดิมประมาณ 2 กม. ด้วยการนำเอารถขนาดใหญ่มาปิดการจราจร แต่ยังไม่มีผลกระทบมากนัก เนื่องจากไม่ใช่เป็นจุดสำคัญ ขณะที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้วิทยุสั่งการให้ชุดกองร้อยควบคุมฝูงชนเตรียมพร้อมอีกครั้ง และพร้อมเดินทางได้ตลอดเวลาทันที นอกจากนั้น ยังจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสับเปลี่ยนตั้งจุดตรวจในรัศมีรอบที่ชุมนุมตลอด 24 ชม. และทุกเส้นทางที่สามารถหลีกเลี่ยงการชุมนุมจะมีเจ้าหน้าที่ประจำจุด เพื่อประชาสัมพันธ์ให้รถราที่สัญจรหลีกเลี่ยง
 
นายประจวบ ชูทอง ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนยาง และปาล์มน้ำมันภาคใต้ กล่าวว่า การชุมนุมประท้วงของชาวสวนยาง และสวนปาล์มในครั้งนี้ไม่มีใครเป็นแกนนำ แต่เกิดจากความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสวนจริงๆ และต้องการให้รัฐบาลรับเรื่องที่ชาวสวนเรียกร้อง โดยต้องการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มารับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความเดือดร้อนของชาวสวนอย่างแท้จริงด้วย เพราะที่ผ่านมา ชาวสวนได้เรียกร้องเรื่องราคาผลิตผลตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เคยเป็นผล
 
“ชาวสวนเราได้อดทนมาโดยตลอด คิดว่ารัฐบาลคงจะหาแนวทางในการช่วยเหลือเรื่องราคา แต่ปรากฏว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ราคายางและปาล์มไม่ได้ขยับสูงขึ้นเลย ทำให้เกษตรกร โดยเฉพาะสวนปาล์มต้องแบกรับภาระผลผลิตที่ไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดจำเป็นต้องรวมตัวกันออกมาชุมนุมประท้วง เพื่อให้รัฐบาลได้เห็นถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น” นายประจวบกล่าว
 
เป็นที่น่าสังเกตว่า หลังข่าวผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายผู้ชุมนุมด้วยความรุนแรงแพร่สะพัดตั้งแต่วานนี้ ปรากฏว่า ได้มีทั้งนักการเมือง และนักเคลื่อนไหวทยอยเข้าร่วมกับม็อบชาวสวนยางและปาล์มภาคใต้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบรรดา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในภาคใต้ รวมถึงนายเอียด เซ่งเอียด น้องชายนายเจิม เซ่งเอียด หรือเจ้าของฉายา “ไข่หมูก” ได้นำข้าวกล่องจำนวน 2 คันรถยนต์ไปมอบให้แก่ผู้ชุมนุม และเข้าร่วมการชุมนุมด้วย เช่นเดียวกับ นายธงชัย สุวรรณวิหค หรือ “สหายช่วง” ได้เดินทางเข้าพื้นที่ด้วยแล้วเช่นกัน
 
นอกจากนั้น ยังมีชาวสวนยางจาก จ.พัทลุง จ.สุราษฎร์ธานี จ.ปัตตานี ทยอยเข้าร่วมสมทบกับการชุมนุมด้วย และมีการประกาศชุมนุมยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 3 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันนัดชุมนุมพร้อมกันของชาวสวนยางทั่วประเทศ โดยคารดว่าจะมีการปิดถนนสายหลักเข้าสู่ทั้ง 4 ภาคของประเทศ อีกทั้งอาจจะมีการยกระดับการชุมนุมอีกด้วย สำหรับชาวสวนยางภาคใต้อาจจะมีการไปปิดถนนสายสี่แยกบ่อล้อ อ.เชียรใหญ่ จ. นครศรีธรรมราช เพิ่มขึ้นอีกจุด ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางลงสู่ภาคใต้ด้วย
 
ในช่วงบ่ายของวันนี้ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.สงขลา นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง นายวิทยา แก้วภราดัย นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายเทพไท เสนพงศ์ นายอภิชาต การิกาญจน์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงถึงมติของ ส.ส.ภาคใต้ ของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อกรณีเหตุการณ์ในการเข้าสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการใช้ความรุนแรงเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) โดยมีข้อสรุป 5 ข้อ ประกอบด้วย
 
1.ให้รัฐบาลรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม 2.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และกลุ่มเกษตรกร 3.ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ขอมอบให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ดูและช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้รับผลกระทบทางด้านคดี และตกเป็นผู้ต้องหา 4.ให้รัฐบาลดูแลผู้ชุมนุมที่ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด และ 5.ให้รัฐบาลเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และผู้บาดเจ็บจากการชุมนุมในมาตรฐานเดียวกับคนเสื้อแดง
 
นายถาวร กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ โดยส่งตัวแทนมาพบกับชาวสวนเพื่อรับข้อเสนอ และอย่าใช้กำลังตำรวจในการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงอีก ส่วนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั้น อยากจะให้รัฐบาลชดเชยราคายางในราคา 84 บาท/กก. โดยราคานี้ได้มีการคำนวณจากต้นทุนของชาวสวนยางที่ 64 บาท/กก. บวกอีก 30% ให้เป็นกำไร คือรวมเป็น 84 บาท/กก. ซึ่งเงื่อนไขราคานี้ชาวสวนยางรับได้ โดยชดเชยทั้งสวนยางตัดได้แล้ว และยังไม่ได้ตัด ซึ่งจะใช้งบประมาณ 2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น และอย่าเพิ่งขายยางในสต๊อก ทำแบบนี้สัก 2-3 เดือน เชื่อว่าราคายางในตลาดก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน
 
“แต่วันนี้ปัญหาทุกอย่างของชาวสวนยางที่ไม่ได้รับการแก้ไข เพราะรัฐบาลปฏิเสธทุกเงื่อนไขที่เป็นทุกข้อเรียกร้อง โดยจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขของกลไกการตลาด การที่นายกฯ และ รมว.เกษตรฯ ได้ออกมาพูดแบบนี้ ถือเป็นการปฏิเสธข้อเรียกร้องของชาวสวนยางทั้งหมด ทำให้ชาวสวนยางลุกฮือขึ้นทั่วประเทศ และการที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ได้ออกมาพูดว่าม็อบสวนยางเป็นม็อบการเมืองนั้นถือเป็นการดูถูกประชาชนชาวสวนยาง” นายถาวร กล่าวและเสริมว่า
 
“ผมขอยืนยันว่า ม็อบชาวสวนยางที่กำลังชุมนุมที่นครศรีธรรมราชเวลานี้ เป็นม็อบที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจริงๆ เกิดจากความเดือดร้อนของประชาชนจริงๆ ไม่มีการเมืองหนุนหลัง และขอยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่ในฐานะที่เป็น ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ในเมื่อรัฐบาลปฏิเสธการช่วยเหลือชาวสวนยางในภาคใต้เช่นนี้ เราก็จะเดินเคียงข้างชาวสวนยางไปด้วยกัน”
 
นายถาวร ยังได้กล่าวอีกว่า ในส่วนของการช่วยเหลือชาวสวนยางที่ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมของตำรวจปราบจลาจลความรุนแรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้บาดเจ็บ หรือผู้ที่ทรัพย์สินเสียหาย ทางกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ จะมอบให้ นายนิพิฏฐ์ จัดทีมทนายความเข้าไปช่วยเหลือชาวสวนยางอย่างเร่งด่วน
 
ขณะที่ นายชินวรณ์ ที่เป็นรัฐมนตรีเงากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลมีสองมาตรฐานในการช่วยเหลือประชาชน ตอนที่แทรกแซงราคาข้าว รัฐมีมติ ครม.แทรกแซงตันละ 12,000 บาท แต่พอชาวนาประท้วงได้ 2 วัน รัฐบาลก็ยอมเปลี่ยนมติ ครม.เพิ่มเป็นตันละ 15,000 บาท
 
“ผมอยากจะเตือนรัฐบาลให้ระวังเส้นยางจะรัดคอตาย และดอกยางจะบานผิดฤดูในทุกพื้นที่ เพราะตอนนี้ชาวสวนยางทั่วมีอยู่ทั่วประเทศ 56 จังหวัด ไม่ใช่เฉพาะชาวภาคใต้เท่านั้น ซึ่งการที่รัฐบาลปฏิเสธการช่วยเหลือ เพราะมองว่าชาวภาคใต้ไม่ใช่ฐานเสียงของรัฐบาล ถือเป็นความคิดที่ผิด เพราะการชุมนุมจะลามไปทุกจังหวัดในไม่ช้า”
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ถือเป็นวันที่ 3 ของการชุมนุมปิดถนนสายเอเชีย บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด และเป็นที่น่าสังเกตว่า มีประชาชนเพิ่มขึ้นจำนวนหลายพันคน มีการผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย มีการตั้งเต็นท์หุงหาอาหารกันกันอย่างคึกคัก และภายหลังที่ที่ นายนิพิฏฐ์ นำทีมทนายความเข้าให้การช่วยเหลือด้านคดีความ ก็ได้มีชาวสวนยางที่เสียหายจากการสลายม็อบเข้าให้ข้อมูลหลายสิบราย โดยทั้งหมดต้องการเรียกร้องค่าเยียวยาเทียบเท่ากับที่รัฐบาลเคยให้การเยียวยาช่วยเหลือคนเสื้อแดง
 
นายสันติ ศรีสว่าง ประธานชมรมลูกขวานลอยลม ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาในพื้นที่ และได้รับบาดเจ็บขณะเข้าร่วมชุมนุมคนหนึ่งด้วย ให้ข้อมูลว่า ตนขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ ลักษณะท่าทางเหมือนต้องการรังแกชาวบ้านแบบไม่มีเมตตาธรรม ตนถูกทุบตีอย่างไม่ทันตั้งตัว รวมถึงชาวบ้านคนอื่นๆ อีกหลายคนก็ถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวไปแล้ว หลังจากถูกถล่มอย่างหนักถึงการปราบผู้ชุมนุมชาวสวนยางเมื่อวานนี้ และเก็บตัวเงียบในสถานที่แห่งหนึ่ง อีกทั้งโทรศัพท์มือถือหมายเลขปกติก็ไม่สามารถติดต่อได้





 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น