ชุมพร - นักเลงขาใหญ่เจ้าถิ่น ยกพวกรุมกระทืบหนุ่มนิรนามกระอักเลือดดับคาสวนทุเรียนหน้าร้านค้ากลางชุมชน ชาวบ้านกลัวอิทธิพลปิดปากเงียบไม่ให้ข้อมูลตำรวจ
เมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (14 ก.ค.) ร.ต.ท.ดนัย จันทร์กลั่น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่หน้าร้านค้าในหมู่บ้าน ถนนสายสระยักษ์-บ้านท่ามะปริง หมู่ 12 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วัชระ เผือกจันทร์ สวป. พ.ต.ท.สุนทร จิรโร สวป. พร้อมกำลังตำรวจชุดสายตรวจ สายสืบ แพทย์ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นถนนลาดยางทางเข้าหมู่บ้าน ที่บริเวณหน้าร้านค้ากลางชุมชนซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ อาหารตามสั่ง และจุดรับซื้อทุเรียนคัดส่งออกต่างประเทศ ส่วนหลังร้านมีโต๊ะสนุกเกอร์ 1 โต๊ะ ห่างออกไปจากถนนหน้าร้านค้าประมาณ 10 เมตร พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20-25 ปี สูง 165 ซม. ผิวขาว นุ่งกางกางกีฬาขาสั้นสีแดง ใส่เสื้อยืดแขนสั้นคอปกสีแดง นอนตายอยู่ในสวนทุเรียน สภาพศพถูกรุมตีด้วยของแข็งและมีแผลฟกช้ำเขียวคล้ำตามใบหน้าลำตัวอีกหลายแห่ง ที่ปากมีเลือดออก กลางหลังผู้ตายสักเป็นรูปปลาเคล้าหัวมังกร และอักษรภาษาญี่ปุ่น 3 ตัว ใกล้กับที่พบศพมีรอยเหยียบย่ำจนหญ้าราบเป็นวงกว้าง และมีคราบเลือดกระเซ็นติดอยู่ตามต้นทุเรียน และกิ่งไม้เป็นทางยาวมาจากริมถนนไปจนถึงจุดพบศพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่บริเวณริมถนนหน้าร้านค้าพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ ห่างออกไปกลางถนนมีกุญแจรถคันดังกล่าวตกอยู่ ส่วนอีกฟากถนนฝั่งสวนทุเรียน มีรองเท้าแตะ 2 ข้าง ซึ่งเป็นของผู้ตายตกอยู่ ตำรวจจึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการชันสูตรพลิกศพแพทย์ลงความเห็นว่า ผู้ตายถูกตีด้วยของแข็ง และรุมทำร้ายจนอวัยวะภายในได้รับความบอบช้ำอย่างรุนแรงจนจนกระอักออกมาเป็นเลือด
ขณะที่ตำรวจได้พยายามสอบถามเจ้าของร้านค้าที่รถผู้ตายจอดอยู่ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ได้รับคำตอบว่า ให้ไปสืบเอาเอง จากนั้นเจ้าของร้านค้าดังกล่าวได้ปิดประตูร้านค้า และไม่ให้ข้อมูลใดๆ แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่บริเวณร้านค้านับสิบคนต่างปิดปากเงียบไม่ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่เช่นกัน โดยอ้างว่าไม่รู้จักกับผู้ตาย ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน และไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม แนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจเบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นแก๊งวัยรุ่นขาใหญ่ในพื้นที่ประมาณ 3-5 คน โดยผู้ตายอาจจะเป็นแรงงานต่างถิ่น หรือแรงงานต่างด้าวที่เข้ามารับจ้างทำงานอยู่ในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุอาจจะมาเล่นสนุกเกอร์ที่หลังร้านค้าดังกล่าวกับกลุ่มคนร้าย แล้วเกิดมีปากเสียงกันขึ้น และถูกรุมทำร้ายจนผู้ตายได้วิ่งหนีข้ามถนนเข้าไปในสวนทุเรียน แต่กลุ่มคนร้ายได้วิ่งตามไปทัน แล้วรุมดีด้วยของแข็ง และชกต่อยจนผู้ตายล้มลงและรุมกระทืบจนกระอักเลือดตาย
หรือผู้ตายอาจขับรถ จยย. มาซื้อสินค้าที่ร้านค้าดังกล่าว แล้วเจอกับคู่อริจึงถูกรุมทำร้ายจนตายดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนในเชิงลึก และเรียกตัวเจ้าของร้านค้ามาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (14 ก.ค.) ร.ต.ท.ดนัย จันทร์กลั่น พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่หน้าร้านค้าในหมู่บ้าน ถนนสายสระยักษ์-บ้านท่ามะปริง หมู่ 12 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วัชระ เผือกจันทร์ สวป. พ.ต.ท.สุนทร จิรโร สวป. พร้อมกำลังตำรวจชุดสายตรวจ สายสืบ แพทย์ รพ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุเป็นถนนลาดยางทางเข้าหมู่บ้าน ที่บริเวณหน้าร้านค้ากลางชุมชนซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ อาหารตามสั่ง และจุดรับซื้อทุเรียนคัดส่งออกต่างประเทศ ส่วนหลังร้านมีโต๊ะสนุกเกอร์ 1 โต๊ะ ห่างออกไปจากถนนหน้าร้านค้าประมาณ 10 เมตร พบศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 20-25 ปี สูง 165 ซม. ผิวขาว นุ่งกางกางกีฬาขาสั้นสีแดง ใส่เสื้อยืดแขนสั้นคอปกสีแดง นอนตายอยู่ในสวนทุเรียน สภาพศพถูกรุมตีด้วยของแข็งและมีแผลฟกช้ำเขียวคล้ำตามใบหน้าลำตัวอีกหลายแห่ง ที่ปากมีเลือดออก กลางหลังผู้ตายสักเป็นรูปปลาเคล้าหัวมังกร และอักษรภาษาญี่ปุ่น 3 ตัว ใกล้กับที่พบศพมีรอยเหยียบย่ำจนหญ้าราบเป็นวงกว้าง และมีคราบเลือดกระเซ็นติดอยู่ตามต้นทุเรียน และกิ่งไม้เป็นทางยาวมาจากริมถนนไปจนถึงจุดพบศพ
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่บริเวณริมถนนหน้าร้านค้าพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ ห่างออกไปกลางถนนมีกุญแจรถคันดังกล่าวตกอยู่ ส่วนอีกฟากถนนฝั่งสวนทุเรียน มีรองเท้าแตะ 2 ข้าง ซึ่งเป็นของผู้ตายตกอยู่ ตำรวจจึงรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการชันสูตรพลิกศพแพทย์ลงความเห็นว่า ผู้ตายถูกตีด้วยของแข็ง และรุมทำร้ายจนอวัยวะภายในได้รับความบอบช้ำอย่างรุนแรงจนจนกระอักออกมาเป็นเลือด
ขณะที่ตำรวจได้พยายามสอบถามเจ้าของร้านค้าที่รถผู้ตายจอดอยู่ถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ได้รับคำตอบว่า ให้ไปสืบเอาเอง จากนั้นเจ้าของร้านค้าดังกล่าวได้ปิดประตูร้านค้า และไม่ให้ข้อมูลใดๆ แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่บริเวณร้านค้านับสิบคนต่างปิดปากเงียบไม่ให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่เช่นกัน โดยอ้างว่าไม่รู้จักกับผู้ตาย ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน และไม่รู้ไม่เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม แนวทางการสืบสวนสอบสวนของตำรวจเบื้องต้นสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นแก๊งวัยรุ่นขาใหญ่ในพื้นที่ประมาณ 3-5 คน โดยผู้ตายอาจจะเป็นแรงงานต่างถิ่น หรือแรงงานต่างด้าวที่เข้ามารับจ้างทำงานอยู่ในพื้นที่ ขณะเกิดเหตุอาจจะมาเล่นสนุกเกอร์ที่หลังร้านค้าดังกล่าวกับกลุ่มคนร้าย แล้วเกิดมีปากเสียงกันขึ้น และถูกรุมทำร้ายจนผู้ตายได้วิ่งหนีข้ามถนนเข้าไปในสวนทุเรียน แต่กลุ่มคนร้ายได้วิ่งตามไปทัน แล้วรุมดีด้วยของแข็ง และชกต่อยจนผู้ตายล้มลงและรุมกระทืบจนกระอักเลือดตาย
หรือผู้ตายอาจขับรถ จยย. มาซื้อสินค้าที่ร้านค้าดังกล่าว แล้วเจอกับคู่อริจึงถูกรุมทำร้ายจนตายดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนในเชิงลึก และเรียกตัวเจ้าของร้านค้ามาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป