นี่แหละเขาเรียกว่าสวรรค์มีตา ฟ้าไม่เป็นใจ ใครคิดชั่ว วางแผนเลวทรามต่ำช้ากับบ้านเมือง แม้จะสำเร็จบางครั้ง ทำให้ลำพองผยองอำนาจ ก็ยังมีวันพลาด! จึงเกิดปรากฏการณ์หนูอมโรคต้องติดกับในท่อน้ำโสโครก เพราะความเซ่อซ่าของตัวเอง ทำให้แผนชั่วหวังช่วยเหลือราชสีห์ขี้เรื้อนถูกเปิดโปงต้องอายสุนัข
กระหึ่มไปทั้งแผ่นดิน ลามไปถึงประเทศพม่า เมื่อหนูชราอาสาช่วยหาช่องทางพาราชสีห์ขี้เรื้อนเร่ร่อนกลับบ้านเกิด ปรึกษาหารือกันอย่างเมามัน ทั้งแผนกินรวบบ้านเมือง ยึดกองทัพ สำนักงานทรัพย์สิน ปลดเปลื้องโทษอาญา แทรกซึมเข้าไปอิงสถาบันกษัตริย์ หวังเอาตัวรอดใช้ชีวิตสบายๆ ในบั้นปลาย
เมื่อแผนแตก หวังจะได้กลับบ้านเกิดอย่างเท่ๆ คงเป็นความฝันแฉะของ 2 ชายวัยไม่ต่างกันมากนัก ชีวิตที่เหลือคงต้องพึ่งพาโสมถั่งเฉ้า รักษาความคึกในวัยไม้ใกล้ฝั่ง ใช้เงินเสพเมถุน ปรนเปรอความสุขให้ตัวเองเท่าที่แรงยังเหลือ
ราชสีห์ขี้เรื้อนหน้าเหลี่ยมกระอักเลือดไปหรือยัง ความหวังพังทลายยิ่งกว่าสร้างปราสาททรายรอคลื่นสึนามิ! คลิปคำสนทนาเปิดหน้ากากเหลี่ยมให้เห็นความชั่วร้ายฝังลึกในดีเอ็นเอ ชาวบ้านเห็นความโลภในทรัพย์และอำนาจ
เป็นการประจานความชั่วร้ายยิ่งกว่านายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เอาความลับของสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ มาเปิดโปงซะอีก! นอกจากแผนร้ายหวังกุมอำนาจรัฐ ทั้งหนูชราและราชสีห์ขี้เรื้อนยังวางแผนไปบงการผู้นำรัฐบาลพม่า หวังตักตวงกอบโกยผลประโยชน์มหาศาลทางการเมือง เศรษฐกิจอีกด้วย
แผนสนับสนุนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย ทำให้รู้ว่าทำไมแม่นางโพยปูโพรกเน่าในจึงกระเหี้ยนกระหือรือโปรโมตเหลือเกิน ที่แท้เป็นอย่างที่คนทั่วไปสงสัยว่าน่าจะเป็นเดินตามแผนของคนหนีคุกหน้าเหลี่ยมโลภไร้ขีดจำกัดนั่นเอง
ช่วงแรก พวกแม่ทัพนายกอง โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบก ปิดปากเงียบ ปล่อยให้โฆษกกองทัพบกออกมาชี้แจงสั้นๆ แต่ไม่แสดงท่าทีว่าจะดำเนินงานต่อไปในเรื่องสภาความมั่นคง สภากลาโหม หวังจะใช้พระราชกำหนดปลดเปลื้องโทษให้ราชสีห์ขี้เรื้อนเร่ร่อนไร้รัง ปูทางอนาคตสู่การเมือง
จะสำเร็จได้ พวกขุนทหารต้องเป็นขี้ข้าในสังกัดคอกบักเหลี่ยม รับใช้ให้เห็นผลงานประทับใจ สร้างราคาเสียก่อน ดังเช่นมีตัวอย่างขี้ข้าได้ดิบได้ดี เป็นรัฐมนตรี นั่งเก้าอี้สำคัญในรัฐวิสาหกิจ สร้างรากฐานเพื่อความมั่งคั่งต่อเนื่อง
ใครไม่อยากเป็นทหารแก่ๆ ไร้สถานภาพหลังเกษียณต้องเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยม! นั่นคือข้อเสนอ ตอกย้ำให้ได้ยินอีกครั้งว่าเครือข่ายบักเหลี่ยมมีแต่คนชั่วร้ายเลวทราม เพราะไม่มีคนดี มีศักดิ์ศรี ซื่อสัตย์ เคารพตัวเอง ยอมเป็นขี้ข้า
คนที่โล่งใจหลังจากคลิปหลุด ก็คือพวกกังฉินในวงการค้าข้าว และบักเหลิม เจ้าของภาพตัวเองยืนตัวตรง หน้าตาจ๋อง หายกร่าง เท้าชิดกัน กุมเป้าแน่น ฟังคำด่า มองมือชี้หน้าจากนายทาส ซึ่งอยู่ในอาการเกรี้ยวกราดธาตุไฟรวน
คำพูดนานกว่าครึ่งชั่วโมง ได้ทำให้ชาวบ้านได้รับรู้การเดินแผนชั่ว และเข้าใจว่าทำไมขุนทหาร แม่ทัพนายกองจึงอยู่ในสภาพนิ่งเฉย เหมือนคนจำยอม ทั้งๆ ที่บ้านเมืองมีแต่วิกฤตปัญหา นักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า โกงกินหนัก
ชาวบ้านโดนตำรวจขี้ข้าบักเหลี่ยมไล่ทุบตี ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลางเมือง หน้ากองบัญชาการหลักของกองทัพบก ก็ไร้ปฏิกิริยา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถูกคุกคามด้วยม็อบเสื้อแดงถ่อย ก็วางเฉย ไม่รับรู้ ปากพร่ำแต่คำว่า “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” ทำให้ไม่รู้ว่ากองทัพแห่งชาติมีหน้าที่ทำอะไรกันแน่
คำสนทนาทำให้ภาพกระจ่าง ชาวบ้านได้เห็นว่าพวกแม่ทัพนายกองก็แสวงหาผลประโยชน์สำหรับตัวเองเช่นกัน ขึ้นอยู่กับระดับ โอกาส จิตสำนึก ว่ากล้าทรยศต่อคำปฏิญาณลมๆ แล้งๆ หน้าที่ปกป้องสถาบันหลักหรือไม่
คำพูดของหนูชรา ราชสีห์ขี้เรื้อนเร่ร่อน ได้ทำให้ประชาชนแคลงใจในจุดยืนของแม่ทัพว่าพร้อมจะเดินตามนักการเมือง รับใช้ใกล้ชิด เพื่อความสุข มั่งคั่งเพื่อชีวิตหลังเกษียณหรือไม่ เพราะเงินบำนาญเล็กน้อยไร้ความหมาย
แม่ทัพบกมักทำตาวาว คำราม พูดยอกย้อนผู้สื่อข่าว ประชดชาวบ้านเมื่อถูกถามเรื่องจิตวิญญาณ ความรักชาติ กรณีที่ดินรอบปราสาทพระวิหาร! เมื่อได้ยินคำสนทนาครั้งนี้ ก็หายสงสัย เข้าใจว่าทำไมจึงมีท่าทีพิสดารเช่นนั้น
หนูชราแสดงอาการเหมือนรับรู้ความผิดพลาด เอ่ยปากอยากลาออก แต่แม่นางโพยห้ามไว้ คงกลัวว่าจะทำให้เกิดสภาพโดดเดี่ยว ไม่มีขี้ข้าหน้าเหลี่ยมเดินเกมกุมอำนาจรัฐ คุมกองทัพตามแผนที่วางไว้! ก็เปลี่ยนใจ ไม่ลาออก
เท่ากับว่ากระทรวงกลาโหมเป็นเหมือนองค์กรมีผู้นำหน่อมแน้ม ผสมกับผู้บริหารมีภาพลักษณ์ชำรุดเกินกว่าจะเยียวยาได้ เกียรติภูมิของชายชาติทหารเป็นเพียงแค่อดีตสำหรับทหารแก่ และทหารที่ยังอยู่รอวันเกษียณ รอโอกาสก้าวหน้าถ้ามีผลงานเข้าตาบักเหลี่ยมเร่ร่อนหนีคุก ชาวบ้านพึ่งพาไม่ได้อีกแล้ว
แล้วจะมองหน้ากันอย่างไร? ถ้าในกลุ่มผู้ถูกอ้างถึงในคำสนทนายังมีคนเคารพตัวเอง รักบ้านเมือง ต้องกล้าแสดงออก! ถ้านายทหารระดับรองนิ่งเฉย มุ่งประสานผลประโยชน์กัน! ถ้าประชาชนสิ้นหวังทนไม่ไหว ใครก็เอาไม่อยู่!
กระหึ่มไปทั้งแผ่นดิน ลามไปถึงประเทศพม่า เมื่อหนูชราอาสาช่วยหาช่องทางพาราชสีห์ขี้เรื้อนเร่ร่อนกลับบ้านเกิด ปรึกษาหารือกันอย่างเมามัน ทั้งแผนกินรวบบ้านเมือง ยึดกองทัพ สำนักงานทรัพย์สิน ปลดเปลื้องโทษอาญา แทรกซึมเข้าไปอิงสถาบันกษัตริย์ หวังเอาตัวรอดใช้ชีวิตสบายๆ ในบั้นปลาย
เมื่อแผนแตก หวังจะได้กลับบ้านเกิดอย่างเท่ๆ คงเป็นความฝันแฉะของ 2 ชายวัยไม่ต่างกันมากนัก ชีวิตที่เหลือคงต้องพึ่งพาโสมถั่งเฉ้า รักษาความคึกในวัยไม้ใกล้ฝั่ง ใช้เงินเสพเมถุน ปรนเปรอความสุขให้ตัวเองเท่าที่แรงยังเหลือ
ราชสีห์ขี้เรื้อนหน้าเหลี่ยมกระอักเลือดไปหรือยัง ความหวังพังทลายยิ่งกว่าสร้างปราสาททรายรอคลื่นสึนามิ! คลิปคำสนทนาเปิดหน้ากากเหลี่ยมให้เห็นความชั่วร้ายฝังลึกในดีเอ็นเอ ชาวบ้านเห็นความโลภในทรัพย์และอำนาจ
เป็นการประจานความชั่วร้ายยิ่งกว่านายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน เอาความลับของสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ มาเปิดโปงซะอีก! นอกจากแผนร้ายหวังกุมอำนาจรัฐ ทั้งหนูชราและราชสีห์ขี้เรื้อนยังวางแผนไปบงการผู้นำรัฐบาลพม่า หวังตักตวงกอบโกยผลประโยชน์มหาศาลทางการเมือง เศรษฐกิจอีกด้วย
แผนสนับสนุนพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย ทำให้รู้ว่าทำไมแม่นางโพยปูโพรกเน่าในจึงกระเหี้ยนกระหือรือโปรโมตเหลือเกิน ที่แท้เป็นอย่างที่คนทั่วไปสงสัยว่าน่าจะเป็นเดินตามแผนของคนหนีคุกหน้าเหลี่ยมโลภไร้ขีดจำกัดนั่นเอง
ช่วงแรก พวกแม่ทัพนายกอง โดยเฉพาะผู้บัญชาการทหารบก ปิดปากเงียบ ปล่อยให้โฆษกกองทัพบกออกมาชี้แจงสั้นๆ แต่ไม่แสดงท่าทีว่าจะดำเนินงานต่อไปในเรื่องสภาความมั่นคง สภากลาโหม หวังจะใช้พระราชกำหนดปลดเปลื้องโทษให้ราชสีห์ขี้เรื้อนเร่ร่อนไร้รัง ปูทางอนาคตสู่การเมือง
จะสำเร็จได้ พวกขุนทหารต้องเป็นขี้ข้าในสังกัดคอกบักเหลี่ยม รับใช้ให้เห็นผลงานประทับใจ สร้างราคาเสียก่อน ดังเช่นมีตัวอย่างขี้ข้าได้ดิบได้ดี เป็นรัฐมนตรี นั่งเก้าอี้สำคัญในรัฐวิสาหกิจ สร้างรากฐานเพื่อความมั่งคั่งต่อเนื่อง
ใครไม่อยากเป็นทหารแก่ๆ ไร้สถานภาพหลังเกษียณต้องเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยม! นั่นคือข้อเสนอ ตอกย้ำให้ได้ยินอีกครั้งว่าเครือข่ายบักเหลี่ยมมีแต่คนชั่วร้ายเลวทราม เพราะไม่มีคนดี มีศักดิ์ศรี ซื่อสัตย์ เคารพตัวเอง ยอมเป็นขี้ข้า
คนที่โล่งใจหลังจากคลิปหลุด ก็คือพวกกังฉินในวงการค้าข้าว และบักเหลิม เจ้าของภาพตัวเองยืนตัวตรง หน้าตาจ๋อง หายกร่าง เท้าชิดกัน กุมเป้าแน่น ฟังคำด่า มองมือชี้หน้าจากนายทาส ซึ่งอยู่ในอาการเกรี้ยวกราดธาตุไฟรวน
คำพูดนานกว่าครึ่งชั่วโมง ได้ทำให้ชาวบ้านได้รับรู้การเดินแผนชั่ว และเข้าใจว่าทำไมขุนทหาร แม่ทัพนายกองจึงอยู่ในสภาพนิ่งเฉย เหมือนคนจำยอม ทั้งๆ ที่บ้านเมืองมีแต่วิกฤตปัญหา นักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า โกงกินหนัก
ชาวบ้านโดนตำรวจขี้ข้าบักเหลี่ยมไล่ทุบตี ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลางเมือง หน้ากองบัญชาการหลักของกองทัพบก ก็ไร้ปฏิกิริยา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถูกคุกคามด้วยม็อบเสื้อแดงถ่อย ก็วางเฉย ไม่รับรู้ ปากพร่ำแต่คำว่า “การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง” ทำให้ไม่รู้ว่ากองทัพแห่งชาติมีหน้าที่ทำอะไรกันแน่
คำสนทนาทำให้ภาพกระจ่าง ชาวบ้านได้เห็นว่าพวกแม่ทัพนายกองก็แสวงหาผลประโยชน์สำหรับตัวเองเช่นกัน ขึ้นอยู่กับระดับ โอกาส จิตสำนึก ว่ากล้าทรยศต่อคำปฏิญาณลมๆ แล้งๆ หน้าที่ปกป้องสถาบันหลักหรือไม่
คำพูดของหนูชรา ราชสีห์ขี้เรื้อนเร่ร่อน ได้ทำให้ประชาชนแคลงใจในจุดยืนของแม่ทัพว่าพร้อมจะเดินตามนักการเมือง รับใช้ใกล้ชิด เพื่อความสุข มั่งคั่งเพื่อชีวิตหลังเกษียณหรือไม่ เพราะเงินบำนาญเล็กน้อยไร้ความหมาย
แม่ทัพบกมักทำตาวาว คำราม พูดยอกย้อนผู้สื่อข่าว ประชดชาวบ้านเมื่อถูกถามเรื่องจิตวิญญาณ ความรักชาติ กรณีที่ดินรอบปราสาทพระวิหาร! เมื่อได้ยินคำสนทนาครั้งนี้ ก็หายสงสัย เข้าใจว่าทำไมจึงมีท่าทีพิสดารเช่นนั้น
หนูชราแสดงอาการเหมือนรับรู้ความผิดพลาด เอ่ยปากอยากลาออก แต่แม่นางโพยห้ามไว้ คงกลัวว่าจะทำให้เกิดสภาพโดดเดี่ยว ไม่มีขี้ข้าหน้าเหลี่ยมเดินเกมกุมอำนาจรัฐ คุมกองทัพตามแผนที่วางไว้! ก็เปลี่ยนใจ ไม่ลาออก
เท่ากับว่ากระทรวงกลาโหมเป็นเหมือนองค์กรมีผู้นำหน่อมแน้ม ผสมกับผู้บริหารมีภาพลักษณ์ชำรุดเกินกว่าจะเยียวยาได้ เกียรติภูมิของชายชาติทหารเป็นเพียงแค่อดีตสำหรับทหารแก่ และทหารที่ยังอยู่รอวันเกษียณ รอโอกาสก้าวหน้าถ้ามีผลงานเข้าตาบักเหลี่ยมเร่ร่อนหนีคุก ชาวบ้านพึ่งพาไม่ได้อีกแล้ว
แล้วจะมองหน้ากันอย่างไร? ถ้าในกลุ่มผู้ถูกอ้างถึงในคำสนทนายังมีคนเคารพตัวเอง รักบ้านเมือง ต้องกล้าแสดงออก! ถ้านายทหารระดับรองนิ่งเฉย มุ่งประสานผลประโยชน์กัน! ถ้าประชาชนสิ้นหวังทนไม่ไหว ใครก็เอาไม่อยู่!