ต้องรอให้บ้านเมืองหายนะ ล่มจม ให้เห็นต่อหน้ากันก่อนหรืออย่างไร “ไทยเฉย” จึงจะรู้สึก? ยังหวังว่าพวกอาชญากรในขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมคนหนีคุกกุมอำนาจรัฐขณะนี้จะแพ้ภัยมีอันเป็นไป ไม่ฉุดลากกระชากส่วนดีที่เหลือในแผ่นดินให้สิ้นชาติเช่นนั้นเรอะ
มีมวลชนรวมทั้งหน้ากากขาวรับรู้ปัญหาว่าถ้าปล่อยให้คณะอาชญากรขายชาติกุมอำนาจรัฐต่อไป อนาคตบ้านเมืองพินาศแน่นอน อย่างที่ฝรั่งมักพูดว่า “The writing is on the wall” หรือชะตากรรมถูกลิขิตไว้ให้เห็นชัดๆ คนบางพวกยังไม่รู้สึกร้อนหนาว
มีเสียงย้อน แล้วจะให้ทำอย่างไร? รวมตัวไปประท้วงอาชญากรกุมอำนาจเหนือรัฐ ให้พวกตำรวจ อัยการ ข้าราชการทุกหน่วย รุมยำด้วยแก๊สน้ำตา กระบอง ตามมาด้วยข้อหาต่างๆ หลังจากนักการเมืองประกาศให้คนดีเป็นภัยต่อความมั่นคงเช่นนั้นเรอะ
คนดีมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม รักชาติห่วงบ้านเมือง คงไม่มีคำตอบให้กลุ่มที่ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองเดือดร้อน มองสถานการณ์ว่า “ธุระไม่ใช่” ไม่อยากหาเรื่องเดือดร้อนเข้าตัว เป็นคนทำมาหากิน รับผิดชอบชีวิตชักหน้าไม่ถึงหลังแทบกระอักเลือด
มองว่า “การเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นของพวกนักจัดกิจกรรม นักสู้แล้วรวย ต่อรองหาผลประโยชน์” เป็นพวกนักก่อความวุ่นวาย การชุมนุมทำให้รถติด ชาวบ้านเดือดร้อน ค้าขายไม่สะดวก! ไม่มองว่าพวกเสื้อแดงเผาบ้าน เผาเมือง เป็นภัยต่อชาติ
คนไทยเฉยส่วนหนึ่งมองว่าตัวเองเป็นไม้ซีก ไม่ควรงัดไม้ซุง พวกนักการเมืองขายชาติเป็นพวกบุญหนักศักดิ์ใหญ่ มือถือกฎหมาย มีอำนาจเถื่อน อิทธิพลมืด หรือหนักข้อกว่านั้นก็เหมาเอาว่าชาติก่อนตัวเองทำกรรมไว้ ชาตินี้ต้องมาใช้กรรม ให้คนอื่นย่ำยี!
การต่อสู้มีหลายบทบาท ขึ้นอยู่กับความถนัด มีทั้งนักสู้ในห้องแอร์ นักสู้บนเก้าอี้ นักสู้บนจอคอมพิวเตอร์ ในแวดวงโซเชียลมีเดีย และผลสุดท้ายจำนวนนักสู้บนถนนจะเป็นพลังรวมกำหนดผลแพ้ หรือชนะ! สำคัญอยู่ที่ว่ามีจิตวิญญาณ ความกล้าสู้ หรือไม่
มวลชนหน้ากากขาวออกมาวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีจำนวนน้อยกว่าเดิม! ไม่แปลก เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว ความไม่แน่ใจ และปัจจัยอื่นๆ รวมทั้งมีภาวะปนเปื้อนในการนำ กลุ่มอื่นเข้าร่วมสวมรอย ทำให้มีภาพเหมือนไม่ใช่พลังบริสุทธิ์อย่างที่เคยเป็น
ยังมีกลุ่มพลังอื่นๆ กลุ่มใหญ่ กลาง เล็ก ยังไม่ขับเคลื่อน ส่วนหนึ่งตระหนักว่าถ้าออกไปแล้วปราศจากพลังหนุนจากกองทัพ มีแต่โดนตำรวจไล่ทุบตี ทำร้ายเหมือนหมูหมา เพราะองค์กรตำรวจมีแต่พวกแตงโม มะเขือเทศ เป็นขี้ข้าคนหนีคุกหวังได้ตำแหน่ง
ทำให้มีคำพูด “ทำดีไม่ได้ดี รับใช้เป็นขี้ข้าคนหนีคุกซิได้ดี มีตำแหน่ง” องค์กรตำรวจ อัยการ และหน่วยราชการอื่นๆ สะท้อนให้เห็นการมีอยู่จริงขององค์กรอัปยศ ทรยศต่อประชาชนคนเสียภาษี ยอมให้อาชญากร นักการเมืองชั่วอยู่เหนือกฎหมาย
เอาเพียงแค่นายตำรวจใหญ่เมืองหลวงเดินทางไปเอียงไหล่ให้อาชญากรหนีคุกติดยศให้ เอาภาพมาติดบรรยายสภาพความเป็นขี้ข้า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ก็เป็นความอัปยศสุดพรรณนา! เมื่อรู้ทั้งรู้ว่ายศนายพลตำรวจโทได้รับ “พระราชทาน” จากในหลวง
ไม่มีตำรวจที่ไหนในโลก มีความภาคภูมิใจ เมื่ออาชญากรหนีคุกติดยศให้! มีแต่ตำรวจไทย “ทำแบบนี้ได้” ภายใต้ดวงอาทิตย์! ไม่ใช่เพียงแค่นี้ นายตำรวจยศตำแหน่งสูงกว่านี้ก็ทำแบบเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้จะมีใครยอมลงโทษใคร เมื่อลูบหน้าก็ปะจมูก
บักเหลี่ยมอาชญากรหนีคุกไม่ธรรมดา! เป็นทั้งนักเรียนเตรียมทหาร นายตำรวจ นักธุรกิจอภิมหาเศรษฐีครบเครื่อง ได้รับการรับรองระดับสากลว่าเป็น 1 ใน 5 อดีตผู้นำรัฐบาลชั่วร้ายที่สุดในโลก! กุมอำนาจเด็ดขาดเหนือ 3 รัฐบาลกังฉินหุ่นเชิดเพราะตั้งเอง
เป็นผู้ที่รัฐบาลมหาอำนาจอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ยอมก้มหัว เปิดประตูให้เข้าประเทศ หลิ่วตาข้างหนึ่ง ไม่ยอมรับรู้สภาพคนหนีคุก นักฟอกเงิน ผู้สนับสนุนการก่อการร้าย จ่ายเงินให้มวลชนถ่อยหิวเงิน ปล้นห้าง เผาบ้าน เผาเมือง
เป็นผู้บงการพฤติกรรมขายชาติ ทำลายโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ค่านิยม การแยกแยะความดี ความชั่วร้ายเลวทราม สร้างสมหนี้ให้บ้านเมือง มีพฤติกรรมอุบาทว์ ด้วยคำประกาศ “ถ้ากูอยู่ไม่ได้ อย่าหวังว่าพวกเอ็งจะอยู่ดีมีสุข”
กล่าวโดยสรุป แผ่นดินไทยยังไม่ปรากฏว่ามีใครชั่วร้าย เป็นตัวจัญไร ในระดับนี้ในประวัติศาสตร์หลายร้อยปี หรือตั้งแต่มีประเทศไทยบนโลก! ยังมีศักยภาพไร้ขอบเขตที่จะทำลายบ้านเมืองให้ย่อยยับด้วยนโยบายสร้างหนี้สิน ระบบเกษตรกรรมข้าวล่มจม
ใครจะกล้าลุกขึ้นสู้ ต่อต้าน แม้แต่ผู้นำเหล่าทัพ นายทหารกล้าทั้งหลายยังแสดงตัวว่ายอมสยบศิโรราบ! ลืมคำปฏิญาณว่าจะพลีชีพเพื่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนอย่างน่าละอาย! ชาวบ้านทวงถาม ก็โดนด่าเช็ด
เขมรยึดครองแผ่นดินชายแดนก็เฉย! ศาสนาถูกย่ำยีโดยนิกายเพี้ยน อลัชชีห่มเหลืองมีสาวกทั่วแผ่นดิน ก็เฉย! สถาบันกษัตริย์ถูกย่ำยีโดยทุรชนแดงถ่อย นักการเมืองขี้ข้าบักเหลี่ยมผ่านเว็บไซต์ สื่อต่างๆ ก็เฉย! ตุลาการถูกคุกคาม ประชาชนโดนทุบตีก็เฉย
ชาวบ้านถามหลายครั้ง เมื่อเป็นแบบนี้กองทัพจะทำหน้าที่อะไร ถ้าละเลยจากคำปฏิญาณ? ก็โดนยอกย้อนเจ็บแสบ – รบแล้วสูญเสีย บาดเจ็บล้มตาย จะรบแทนทหารมั้ย! เป็นหน้าที่ของตำรวจ การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ทหารไม่ยุ่งกับการเมือง ฯลฯ
มีสารพัดข้ออ้างเพื่อไม่ต้องทำหน้าที่ ยอมสยบต่อกลุ่มโจรกุมอำนาจรัฐนำโดยสตรีเอ๋อที่รุกคืบกล้าด้านคุมกระทรวงกลาโหม ยัดเยียดหนี้ ข้าวเน่าให้คนกินทั้งแผ่นดิน! เมื่อหวังอะไรไม่ได้ คงเหลือประชาชนไม่เฉยเท่านั้นที่จะหยุดยั้งพลังชั่ว ก่อนสิ้นชาติจริงๆ
มีมวลชนรวมทั้งหน้ากากขาวรับรู้ปัญหาว่าถ้าปล่อยให้คณะอาชญากรขายชาติกุมอำนาจรัฐต่อไป อนาคตบ้านเมืองพินาศแน่นอน อย่างที่ฝรั่งมักพูดว่า “The writing is on the wall” หรือชะตากรรมถูกลิขิตไว้ให้เห็นชัดๆ คนบางพวกยังไม่รู้สึกร้อนหนาว
มีเสียงย้อน แล้วจะให้ทำอย่างไร? รวมตัวไปประท้วงอาชญากรกุมอำนาจเหนือรัฐ ให้พวกตำรวจ อัยการ ข้าราชการทุกหน่วย รุมยำด้วยแก๊สน้ำตา กระบอง ตามมาด้วยข้อหาต่างๆ หลังจากนักการเมืองประกาศให้คนดีเป็นภัยต่อความมั่นคงเช่นนั้นเรอะ
คนดีมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อส่วนรวม รักชาติห่วงบ้านเมือง คงไม่มีคำตอบให้กลุ่มที่ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองเดือดร้อน มองสถานการณ์ว่า “ธุระไม่ใช่” ไม่อยากหาเรื่องเดือดร้อนเข้าตัว เป็นคนทำมาหากิน รับผิดชอบชีวิตชักหน้าไม่ถึงหลังแทบกระอักเลือด
มองว่า “การเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นของพวกนักจัดกิจกรรม นักสู้แล้วรวย ต่อรองหาผลประโยชน์” เป็นพวกนักก่อความวุ่นวาย การชุมนุมทำให้รถติด ชาวบ้านเดือดร้อน ค้าขายไม่สะดวก! ไม่มองว่าพวกเสื้อแดงเผาบ้าน เผาเมือง เป็นภัยต่อชาติ
คนไทยเฉยส่วนหนึ่งมองว่าตัวเองเป็นไม้ซีก ไม่ควรงัดไม้ซุง พวกนักการเมืองขายชาติเป็นพวกบุญหนักศักดิ์ใหญ่ มือถือกฎหมาย มีอำนาจเถื่อน อิทธิพลมืด หรือหนักข้อกว่านั้นก็เหมาเอาว่าชาติก่อนตัวเองทำกรรมไว้ ชาตินี้ต้องมาใช้กรรม ให้คนอื่นย่ำยี!
การต่อสู้มีหลายบทบาท ขึ้นอยู่กับความถนัด มีทั้งนักสู้ในห้องแอร์ นักสู้บนเก้าอี้ นักสู้บนจอคอมพิวเตอร์ ในแวดวงโซเชียลมีเดีย และผลสุดท้ายจำนวนนักสู้บนถนนจะเป็นพลังรวมกำหนดผลแพ้ หรือชนะ! สำคัญอยู่ที่ว่ามีจิตวิญญาณ ความกล้าสู้ หรือไม่
มวลชนหน้ากากขาวออกมาวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีจำนวนน้อยกว่าเดิม! ไม่แปลก เพราะเป็นช่วงวันหยุดยาว ความไม่แน่ใจ และปัจจัยอื่นๆ รวมทั้งมีภาวะปนเปื้อนในการนำ กลุ่มอื่นเข้าร่วมสวมรอย ทำให้มีภาพเหมือนไม่ใช่พลังบริสุทธิ์อย่างที่เคยเป็น
ยังมีกลุ่มพลังอื่นๆ กลุ่มใหญ่ กลาง เล็ก ยังไม่ขับเคลื่อน ส่วนหนึ่งตระหนักว่าถ้าออกไปแล้วปราศจากพลังหนุนจากกองทัพ มีแต่โดนตำรวจไล่ทุบตี ทำร้ายเหมือนหมูหมา เพราะองค์กรตำรวจมีแต่พวกแตงโม มะเขือเทศ เป็นขี้ข้าคนหนีคุกหวังได้ตำแหน่ง
ทำให้มีคำพูด “ทำดีไม่ได้ดี รับใช้เป็นขี้ข้าคนหนีคุกซิได้ดี มีตำแหน่ง” องค์กรตำรวจ อัยการ และหน่วยราชการอื่นๆ สะท้อนให้เห็นการมีอยู่จริงขององค์กรอัปยศ ทรยศต่อประชาชนคนเสียภาษี ยอมให้อาชญากร นักการเมืองชั่วอยู่เหนือกฎหมาย
เอาเพียงแค่นายตำรวจใหญ่เมืองหลวงเดินทางไปเอียงไหล่ให้อาชญากรหนีคุกติดยศให้ เอาภาพมาติดบรรยายสภาพความเป็นขี้ข้า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” ก็เป็นความอัปยศสุดพรรณนา! เมื่อรู้ทั้งรู้ว่ายศนายพลตำรวจโทได้รับ “พระราชทาน” จากในหลวง
ไม่มีตำรวจที่ไหนในโลก มีความภาคภูมิใจ เมื่ออาชญากรหนีคุกติดยศให้! มีแต่ตำรวจไทย “ทำแบบนี้ได้” ภายใต้ดวงอาทิตย์! ไม่ใช่เพียงแค่นี้ นายตำรวจยศตำแหน่งสูงกว่านี้ก็ทำแบบเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้จะมีใครยอมลงโทษใคร เมื่อลูบหน้าก็ปะจมูก
บักเหลี่ยมอาชญากรหนีคุกไม่ธรรมดา! เป็นทั้งนักเรียนเตรียมทหาร นายตำรวจ นักธุรกิจอภิมหาเศรษฐีครบเครื่อง ได้รับการรับรองระดับสากลว่าเป็น 1 ใน 5 อดีตผู้นำรัฐบาลชั่วร้ายที่สุดในโลก! กุมอำนาจเด็ดขาดเหนือ 3 รัฐบาลกังฉินหุ่นเชิดเพราะตั้งเอง
เป็นผู้ที่รัฐบาลมหาอำนาจอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ยอมก้มหัว เปิดประตูให้เข้าประเทศ หลิ่วตาข้างหนึ่ง ไม่ยอมรับรู้สภาพคนหนีคุก นักฟอกเงิน ผู้สนับสนุนการก่อการร้าย จ่ายเงินให้มวลชนถ่อยหิวเงิน ปล้นห้าง เผาบ้าน เผาเมือง
เป็นผู้บงการพฤติกรรมขายชาติ ทำลายโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ค่านิยม การแยกแยะความดี ความชั่วร้ายเลวทราม สร้างสมหนี้ให้บ้านเมือง มีพฤติกรรมอุบาทว์ ด้วยคำประกาศ “ถ้ากูอยู่ไม่ได้ อย่าหวังว่าพวกเอ็งจะอยู่ดีมีสุข”
กล่าวโดยสรุป แผ่นดินไทยยังไม่ปรากฏว่ามีใครชั่วร้าย เป็นตัวจัญไร ในระดับนี้ในประวัติศาสตร์หลายร้อยปี หรือตั้งแต่มีประเทศไทยบนโลก! ยังมีศักยภาพไร้ขอบเขตที่จะทำลายบ้านเมืองให้ย่อยยับด้วยนโยบายสร้างหนี้สิน ระบบเกษตรกรรมข้าวล่มจม
ใครจะกล้าลุกขึ้นสู้ ต่อต้าน แม้แต่ผู้นำเหล่าทัพ นายทหารกล้าทั้งหลายยังแสดงตัวว่ายอมสยบศิโรราบ! ลืมคำปฏิญาณว่าจะพลีชีพเพื่อความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนอย่างน่าละอาย! ชาวบ้านทวงถาม ก็โดนด่าเช็ด
เขมรยึดครองแผ่นดินชายแดนก็เฉย! ศาสนาถูกย่ำยีโดยนิกายเพี้ยน อลัชชีห่มเหลืองมีสาวกทั่วแผ่นดิน ก็เฉย! สถาบันกษัตริย์ถูกย่ำยีโดยทุรชนแดงถ่อย นักการเมืองขี้ข้าบักเหลี่ยมผ่านเว็บไซต์ สื่อต่างๆ ก็เฉย! ตุลาการถูกคุกคาม ประชาชนโดนทุบตีก็เฉย
ชาวบ้านถามหลายครั้ง เมื่อเป็นแบบนี้กองทัพจะทำหน้าที่อะไร ถ้าละเลยจากคำปฏิญาณ? ก็โดนยอกย้อนเจ็บแสบ – รบแล้วสูญเสีย บาดเจ็บล้มตาย จะรบแทนทหารมั้ย! เป็นหน้าที่ของตำรวจ การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ทหารไม่ยุ่งกับการเมือง ฯลฯ
มีสารพัดข้ออ้างเพื่อไม่ต้องทำหน้าที่ ยอมสยบต่อกลุ่มโจรกุมอำนาจรัฐนำโดยสตรีเอ๋อที่รุกคืบกล้าด้านคุมกระทรวงกลาโหม ยัดเยียดหนี้ ข้าวเน่าให้คนกินทั้งแผ่นดิน! เมื่อหวังอะไรไม่ได้ คงเหลือประชาชนไม่เฉยเท่านั้นที่จะหยุดยั้งพลังชั่ว ก่อนสิ้นชาติจริงๆ