xs
xsm
sm
md
lg

ความตายในประเทศด้อยพัฒนา / จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย 

 
เช้าวันศุกร์ที่  15  มีนาคม  2556  นายณัฐกานต์  หยูทอง หรือเบ็น หนุ่มใหญ่วัย  40  ปี ออกจากบ้านพร้อมรถกระบะบรรทุกไม้ และเครื่องมือแปรรูปไม้จากบ้านไสส้าน  ต.เขาขาว  อ.ทุ่งสง  จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปโค่นไม้ และแปรรูปไม้ที่บ้านช่องเขาพัฒนา  ต.ถ้ำใหญ่  อ.ทุ่งสง  จ.นครศรีธรรมราช เขตรอยต่อระหว่าง อ.ร่อนพิบูลย์ กับ อ.ทุ่งสง  จนตกเย็นพลบค่ำก็ยังไม่กลับบ้าน  ทางบ้านจึงพยายามโทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยังเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากนายณัฐกานต์ เคยประสบอุบัติเหตุจากการโค่นไม้ทำให้สูญเสียการได้ยินโดยสิ้นเชิงมาหลายปีแล้ว  แต่ไม่สามารถติดต่อใครได้  และเมื่อติดต่อได้ก็ไม่มีใครทราบว่า นายณัฐกานต์ไปไหน  สร้างความวิตกกังวลให้แก่ครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง
 
เช้ามืดของวันต่อมา บิดาของนายณัฐกานต์ และญาติๆ จำนวนหนึ่งจึงออกจากบ้านไสส้านไปติดตามยังหมู่บ้านช่องเขา โดยมีผู้ร่วมหุ้นกิจการทำไม้แปรรูปกับนายณัฐกานต์เป็นผู้นำทางไปยังจุดที่นายณัฐกานต์ และพรรคพวกขึ้นไปโค่นไม้เมื่อวาน พบว่า นายณัฐกานต์ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถกระบะ  มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองบริเวณกลางหลัง กระสุนฝังใน  ที่ใต้คาง และโหนกแก้มมีบาดแผลจากของมีคมเหวอะหวะ  นอนตะแคง  ตาค้าง  สันนิษฐานว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า  1 วัน  ส่วนเพื่อนร่วมงานอีก  2  คนหายหน้าไปตั้งแต่เมื่อวาน  สอบถามผู้นำทางมีพิรุธหลายอย่าง
 
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปชันสูตรพลิกศพ และสอบปากคำผู้ต้องสงสัยจำนวนหนึ่ง  ทุกคนให้การปฏิเสธ  แต่คำให้การมีพิรุธหลายอย่าง  วันถัดมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาคนหนึ่งที่หลบหนีไปตั้งแต่วันเกิดเหตุ  มีเสื้อและรองเท้าแตะเปื้อนเลือดเป็นพยานหลักฐานมัดตัว  แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายณัฐกานต์  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาคนนี้มีส่วนในการฆาตกรรมนายณัฐกานต์อย่างแน่นอน และมั่นใจว่าสามารถจะหาพยานหลักฐานมาลงโทษผู้ต้องหาได้ 
 
จากการสอบถามผู้ใกล้ชิดกับนายณัฐกานต์  ทุกคนเชื่อว่า ผู้อยู่เบื้องหลังการฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมทารุณครั้งนี้คือ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกิจการค้าไม้แปรรูปกับนายณัฐกานต์  สาเหตุมาจากมีลูกค้ารายหนึ่งได้จ่ายเงินค่าไม้ให้แก่หุ้นส่วนคนนี้มาแล้ว แต่หุ้นส่วนกลับไม่บอกความจริง ต่อมา นายณัฐกานต์ เมื่อทราบจากลูกค้าว่าได้จ่ายเงินให้แก่หุ้นส่วนแล้ว นายณัฐกานต์ จึงมาต่อว่าหุ้นส่วนต่อหน้าคนหลายคน ด้วยความที่เป็นคนพิการทางการได้ยิน นายณัฐกานต์ จึงพูดเสียงดังกว่าคนทั่วไป สร้างความอับอายให้แก่หุ้นส่วน และผูกใจเจ็บหาโอกาสที่จะจัดการนายณัฐกานต์  จนมาถึงวันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งในช่วงนั้นมีงานเลี้ยงในหมู่บ้านหลายงาน  เมื่อดื่มเหล้าเมามายก็เกิดความคิดที่จะรุมฆ่านายณัฐกานต์ เพื่อลบรอยแค้น และฉวยโอกาสล้างหนี้ทั้งหมดที่ต้องจ่ายให้แก่นายณัฐกานต์ ซึ่งนับเป็นจำนวนหลายแสนบาท
 
สิ่งที่ญาติๆ ของนายณัฐกานต์วิตกกังวลคือ รูปคดีจะสาวไปไม่ถึงผู้บงการ หรืออาจจะร่วมลงมือฆ่าโหดนายณัฐกานต์ด้วย เพราะจากพฤติการณ์ของคดีอาจจะถูกเบี่ยงเบนให้เป็นคดีวัยร่นเสพยาเสพติดฆ่านายจ้างพ่อค้าไม้เพื่อเอาเงินไปซื้อยาเสพติด  เนื่องจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคนแรกมีประวัติเสพยาเสพติด และเคยทำร้ายพ่อตัวเองมาแล้ว  แต่จากข้อเท็จจริงในคดีนี้ ทรัพย์สินของผู้ตายที่อยู่ในรถ โดยเฉพาะเงินนับหมื่นบาท พร้อมด้วยโทรศัพท์  ไม่มีร่องรอยถูกรื้อค้น หรือแตะต้องแต่อย่างใด  สิ่งที่หายไปคือ มีดที่ใช้ในการฆาตกรรม และปืนลูกซองที่ผู้ตายนำมาฝากไว้ที่บ้านผู้ร่วมงาน ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นปืนกระบอกเดียวกับที่ใช้ยิงผู้ตาย  ตอนนี้ยังหาไม่เจอ
 
ดังนั้น  แนวทางในการสอบสวนสืบสวนของเจ้าหน้าที่จะต้องพุ่งประเด็นไปที่ความโกรธแค้นจากการถูกต่อว่าเรื่องเงินค่าไม้ต่อหน้าคนหลายคน และปืนที่ใช้ก่อเหตุ กับมีดที่ใช้ในการฆาตกรรม ซึ่งเป็นของผู้ตาย  เพราะคนร้ายที่แท้จริงยังลอยนวลอยู่ และมีพิรุธให้เห็นอยู่หลายประการ  ขาดแต่พยานหลักฐานเนื่องจากคดีนี้เกิดในป่าเขา  ไม่มีคนอื่นไปร่วมรู้เห็น  แต่ก็มีพยานวัตถุ และนิติหลักฐานคราบเลือด  ลายนิ้วมือให้มัดตัวคนร้ายที่แท้จริงได้ หากไม่นำสืบให้หลงประเด็นเสียก่อน 
 
งานฌาปนกิจศพของนายณัฐกานต์ เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อบ่ายวันที่  21  มีนาคม  2556  ที่วัดไสส้าน  ต.เขาขาว  อ.ทุ่งสง  จ.นครศรีธรรมราช  ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติสนิมมิตรสหายทั้งใกล้ และไกลที่มาร่วมงานอย่างอบอุ่นกว่าพันคน  ทุกคนต่างสะเทือนใจต่อการจากไปของนายณัฐกานต์  คนพิการทางหูที่มีความมุมานะทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว และจุนเจืออีกหลายครอบครัว รวมทั้งครอบครัวของคนที่ญาติๆ เชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และร่วมลงมือฆ่าโหดเขาในครั้งนี้  ความคืบหน้าคดีนี้เป็นอย่างไร
 
ผู้เขียนจะนำมาบอกเล่าท่านผู้อ่านเพื่อเป็นอนุสติว่า  ความตายของคนในประทศด้อยพัฒนามันน่าเศร้าสลดใจอย่างไร  ตั้งแต่ก่อนตาย  วันตาย และหลังจากตายไปแล้ว  การดำเนินคดีก็เป็นเรื่องน่าสลดใจไม่แพ้กัน
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น