คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
เชื่อกันว่าสิ่งที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของมนุษย์มี ๒ อย่างที่สำคัญคือ ๑) พันธุกรรมหรือกรรมพันธุ์ ๒) สิ่งแวดล้อม และสิ่งแวดล้อมมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของมนุษย์มากกว่าพันธุกรรม
สำหรับคอหนังตะลุงภาคใต้ฝั่งตะวันออก คงจะคุ้นชินกับจินตนิยายของนายหนังตะลุงที่มีตัวละครเอกเป็นทายาทฝาแฝดของกษัตริย์ ที่มีเหตุบังเอิญให้พลัดพรากจากเมืองไปตกอยู่ในความดูแลของฝ่ายธรรมะคนหนึ่ง และฝ่ายอธรรมอีกคนหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นฤาษีกับโจร ทำให้รัชทายาทที่มาจากพันธุกรรมเดียวกันต้องมีอุปนิสัยใจคอแตกต่างกัน
สังคมไทยปัจจุบันกำลังเผชิญหน้ากับสังคมเดรัจฉาน และนิเวศเดรัจฉาน เนื่องด้วยอิทธิพลการครอบงำของระบอบประชาธิปไตยสาธารณ์ และระบบเศรษฐกิจทุนนิยมสามานย์ (ศรีศักร วัลลิโภดม) ประชาชนในชนบทถูกแย่งชิงทรัพยากร แย่งชิงที่ทำกิน และคนรุ่นใหม่จำนวนมากถูกมอมเมาให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ของบรรดานายทุนต่างชาติ รัฐไม่อาจเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ กลไกอำนาจรัฐตกเป็นเครื่องมือของนายทุนชาติและนายทุนต่างชาติ ผู้มีอำนาจห่างเหินปราชญ์ และใกล้ชิดสนิทสนมกับคนถ่อย ส่งเสริมคนถ่อยสถุลให้มีอำนาจบนความอัปยศอดสูของคนที่ยังรู้ผิดชอบชั่วดี แต่ไม่มีโอกาสได้เสวยอำนาจ ไม่เว้นแม้แต่ในสถาบันการศึกษาทุกระดับ
คำว่า “เดรัจฉาน” หมายถึง สัตว์ เว้นจากมนุษย์ เช่น หมู แมว หมา วัว ควาย (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๒๕. : ๓๐๙) พวกนี้เคลื่อนไหวโดยลำตัวขนานกับพื้น ทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ มีเรียนรู้หรือใช้สมองคิดน้อยมาก เปลี่ยนพฤติกรรมไปตามแรงขับทางเพศเป็นสำคัญ มีเพศสัมพันธ์เพื่อสืบเชื้อสายไม่ให้สิ้นสูญ ไม่มีประเพณีพิธีกรรมก่อนการสมสู่ มีแต่ทำไปตามความต้องการและตามฤดูกาลเป็นสำคัญ ใช้เครื่องเพศในการล่อใจเพศตรงข้ามให้หันมาสนใจ และตอบสนองความต้องการของตน โดยมีผลประโยชน์ต่างตอบแทนเป็นการแลกเปลี่ยน สัตว์พวกนี้มีอารมณ์กราดเกรี้ยวกับผู้ที่ทำให้มันโกรธ และจองเวรจองกรรมอย่างไร้เหตุผล บางตัวอาจจะเคยเร่ร่อนมาจากที่อื่น เพราะถูกเฉดหัวออกนอกฝูง แต่เมื่อมาเจอเพื่อนสัตว์ที่มีอุปนิสัยใจคอคล้ายกันก็รวมฝูงกัน พินอบพิเทาต่อจ่าฝูง ในที่สุดก็ได้เป็นผู้นำฝูงใหม่สมใจ ท่ามกลางบริวารสัตว์ที่มีสันดานสอพลอตอแหลเหมือนๆ กัน
เดรัจฉานนิเวศกำลังครอบงำสังคมไทยไปทั่วทุกสารทิศ เนื่องจากความล้มเหลวของกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคมของสถาบันที่ทำหน้าที่กล่อมเกลาทางสังคม นับตั้งแต่สถาบันครอบครัวที่เคยทำหน้าที่ผลิตและเตรียมสมาชิกที่ดีให้กับสังคม เป็นหน่วยเล็กที่สุดและสำคัญที่สุดของสังคม แต่ปัจจุบันครอบครัวไม่ได้ทำหน้าที่นั้นแล้ว หรือทำก็ไม่ได้ผลเสียแล้ว เพราะอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมจากภายนอกทรงอิทธิพลมากกว่า
สถาบันการศึกษา แต่เดิมเป็นหน้าที่ของวัด ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสถานศึกษาในระบบทุกระดับ เป็นความล้มเหลวที่ต่อเนื่องมาจากสถาบันครอบครัว และถูกตอกย้ำความล้มเหลวด้วยหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนที่ไม่ตอบสนองความต้องการของสังคม “ขณะที่ชาติฝรั่งเรียนเพื่อค้นพบองค์ความรู้ใหม่ ชาติญี่ปุ่นเรียนเพื่อต่อยอดจากเดิม ชาติเกาหลีเรียนเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น แต่ชาติไทยเรียนเพื่อไปตอบข้อสอบเอาคะแนน”
สถาบันศาสนาที่เคยมีบทบาทในการปลุกฝังด้านคุณธรรม จริยธรรมกำลังประสบปัญหาไม่สามารถทำหน้าที่นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างสมัยก่อน เนื่องจากปัจจัยสำคัญจากภายในสถาบันศาสนาเองบ้าง ปัจจัยจากบริบททางสังคมภายนอกบ้าง ทำให้หลายคนในสังคมเป็นคนไม่มีศาสนา ไม่มีความเป็นมนุษย์ แต่มีความเป็นเดรัจฉานมากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นได้จากการมีอาชีพรับจ้างฆ่าคนที่เรียกว่า “มือปืน” การเบียดเบียนคนอื่น แม้แต่ศาสนสถาน การติดยาเสพติด ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ ฯลฯ
สังคมโลกและสังคมไทยในปัจจุบันจึงเป็น “เดรัจฉานนิเวศ” ที่สมบูรณ์แบบ เต็มไปด้วยภัยอันตราย การเอารัดเอาเปรียบ การแย่งชิง ตัวใครตัวมัน คำกล่าวที่ว่า “มนุษย์เป็นสัตว์สังคม” มาถึงวันนี้มันถูกเพียงครึ่งเดียวคือ “มนุษย์เป็นสัตว์” แต่ไม่มีคำว่า “สังคม” ถ้าจะมีบ้างก็เป็นกลุ่ม ฝูง หรือโขลง ที่ได้เปรียบ กดขี่ข่มเหงกลุ่มที่เสียเปรียบ หรืออ่อนแอ ด้อยโอกาสกว่า เท่านั้น
เดรัจฉานนิเวศจะนำพาสังคมนี้ไปสู่หายนะ ตามประสาของเดรัจฉานที่ทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ และการขับดันทางเพศ ไม่มีการเรียนรู้ ไม่ใช้สมอง ไม่มีสติปัญญา และที่สำคัญเดรัจฉานมันไม่มีวัฒนธรรม
ดังนั้น การเคลื่อนไหวทางสังคมในการฟื้นฟูหรือสร้างสรรค์ ผู้นำทางวัฒนธรรมล้วนเป็นมิติทางวิญญาณที่เกิดขึ้นเพื่อมนุษย์ในฐานะเป็นสัตว์สังคม เกิดความรู้สึกถึงความมั่นคงในชีวิต วัฒนธรรมจึงเป็นเรื่องยากยิ่งใน “สังคมเดรัจฉานนิเวศ” แห่งนี้
ขอภาวนาให้เหล่าเดรัจฉานและบริวาร นำพาสังคมนี้ไปสู่หายนะในเร็ววันเถอะนะ เพื่อตอกย้ำสัจธรรมที่ว่า “ฝูงสัตว์ต้องต้อน ฝูงชนต้องนำ”.