คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย
ในที่สุดผลการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษาคนใหม่ก็ออกมาตามโผที่มีมาก่อนหน้านั้นว่า “ผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษาคนใหม่เป็นผู้หญิง” แล้วก็เป็นจริงตามนั้น แม้ว่าอธิการบดีหนึ่งในคณะกรรมการสรรหาที่ถูกกล่าวอ้างว่าสนับสนุนผู้หญิงคนนั้น ร่วมกับประธานกรรมการสรรหาจะออกมาปฏิเสธก่อนหน้านี้ว่า จะไม่ทำอย่างนั้น หลังจากได้อ่านบทความท้วงติงของข้าพเจ้าในสื่อมวลชน
แม้ว่าก่อนการสรรหาหนึ่งวันคือ เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมามูลนิธิทักษิณคดีศึกษา มูลนิธิศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ และสถาบันทักษิณคดีศึกษา จะร่วมกันจัดงานสัมมนาทางวิชาการครบรอบ ๓๐ ปี มูลนิธิทักษิณคดีศึกษา เพื่อระดมความคิดเห็นจากผู้อาวุโสทางด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี คติชนวิทยา เช่น ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม นายสมชาย เสียงหลาย และ ศ.ดร.ครองชัย หัตถา มาให้ความคิดเห็นเพื่อเป็นแนวทางในการจัดการทางวัฒนธรรมและการพัฒนาสถาบันทักษิณคดีศึกษาในอนาคต
โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมที่สำคัญคือ คณะกรรมการสรรหาผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา กรรมการสภามหาวิทยาลัยทักษิณ อธิการบดี นายกสภามหาวิทยาลัยทักษิณ ว่าที่ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ กรรมการมูลนิธิศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ กรรมการมูลนิธิทักษิณคดีศึกษา และบุคลากรของสถาบันทักษิณคดีศึกษา แต่ปรากฏว่าไม่มีกรรมการสรรหา และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ตลอดจนผู้บริหารมหาวิทยาลัยทักษิณเข้าร่วมสัมมนาแม้แต่คนเดียว
เช้าวันแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครและได้รับการเสนอชื่อเข้ารับหารสรรหาเป็นผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา ประธานมูลนิธิทักษิณคดีศึกษา และรองประธาน รีบนำเอกสารสรุปผลการสัมมนาไปมอบให้ประธานและคณะกรรมการสรรหา เพื่อประกอบการตัดสินใจในการพิจารณาเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษาตามขอเสนอแนะของที่ประชุมสัมมนา คือ ต้องเป็นคนมากบารมีเหมือน ศ,สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ อดีตผู้สถาปนาและผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา
แต่ปรากฏว่า กรรมการสรรหาชุดนี้ที่ประกอบด้วย ศ.วิโชค มุกดามณี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยทักษิณ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (สื่อผสม) ประธานกรรมการ รศ.ดร.สมเกียรติ สายธนู ผศ.สุวรรณา เกรียงไกรเพชร ผศ.ภิญโญ ตันพิทคุปต์ และประธานสภาคณาจารย์ฯ ม.ทักษิณ ตัดสินสินใจเลือก นางสาวสาวิตรี สัตยายุทย์ ผู้ที่ประชาคมสถาบันทักษิณคดี และมหาวิทยาลัยทักษิณ หรือแม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าต่างรู้ดีถึงความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน
การกระทำของคณะกรรมการสรรหาในครั้งนี้ขัดต่อเจตนาของประชาคม และสวนกระแสกับผลสรุปที่ได้จากวงสัมมนาของผู้อาวุโสทางวัฒนธรรม และผู้นำชุมชนท้องถิ่น ที่มาจากหลากหลายองค์กร ยิ่งเมื่อเทียบพฤติกรรม ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของผู้อำนวยการคนใหม่กับ ศ.สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ และคนอื่นๆ ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตกต่ำของสถาบันทักษิณคดีศึกษา อันเกิดจากกระบวนการสรรหาที่ไม่ตรงไปตรงมา ไม่ยึดหลักผลประโยชน์ของประชาสังคม สร้างความเสื่อมถอยแก่สถาบันทักษิณคดีศึกษา องค์กรที่สังคมนี้อุ้มชูกันมาด้วยความยากลำบาก
การกระทำของคณะกรรมการสรรหาในครั้งนี้ จึงเป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วของสถาบันทักษิณ ให้เลวร้ายยิ่งขึ้น
คณะกรรมการสรรหากำลังทำลายศรัทธาที่สังคมเคยมีต่อสถาบันทักษิณคดีศึกษามาแต่ต้น ไม่สนใจใยดีต่อความปรารถนาดีของมูลนิธิทักษิณคดีศึกษา นิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนกิจกรรมของสถาบันทักษิณคดีศึกษาทุกรูปแบบ อุตส่าห์จัดงานครอบรอบ ๓๐ ปีด้วยความยากลำบาก เพื่อส่งข้อมูลให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาดำเนินการคัดเลือกคนที่มีความเหมาะสม เป็นที่ยอมรับของสังคม กลับมาสนับสนุนคนที่มีความด่างพร้อยในเรื่องจารีตทางเพศพื้นฐาน มีพฤติกรรมส่วนตัวที่ไม่สง่างามพอที่จะเป็นผู้นำขององค์กรที่มีเกียรติภูมิต่อท้องถิ่นและชาติบ้านเมือง ไม่เคารพต่อเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งและสร้างสรรค์องค์กรแห่งนี้
และที่เลวร้ายกว่านั้น คณะกรรมการสรรหาชุดนี้ และอีกหลายชุดของมหาวิทยาลัยทักษิณ กำลังสร้างปรากฏการณ์ “มึงกูอ้ายชูอ้ายชัย” ขึ้นในสถาบันการศึกษาระดับสูงสุดของสังคมอย่างน่าเป็นห่วงยิ่ง โดยไม่แยแสต่อความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคมแม้แต่น้อย.
