xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องเล่าจากบ้านอ่าวทราย (คราบน้ำตาบนทางชีวิต และงานของ สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ภาคพิสดาร) / จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย


 
ศ.สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา เคยบันทึกความในใจไว้ในคำนำหนังสือ “คราบน้ำตาบนทางชีวิตและงานของสุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์” เมื่อปี ๒๕๓๙ ว่า

“วิสัยปุถุชนเมื่อกระเทือนอารมณ์ถึงที่สุดก็ย่อมหลั่งน้ำตา ทั้งเนื่องจากความปีติสุข และทุกข์ประดัง บรรดาชายชาตรีถือกันว่าเพียงแต่เผลอปล่อยให้ผู้อื่นสังเกตเห็นน้ำตา ที่เอ่อซึมก็เป็นจุดอ่อนของเพศชาย ดังนั้น ไม่ว่าอารมณ์จะถูกโหมด้วยไฟร้อนหรือไฟเย็น จำต้องบังคับกล้ำกลืนให้น้ำตาตกใน จึงมักคั่งนาน ทรมานลึก การเล่าให้สมุดบันทึกฟัง หรือฝังจำไว้ในใจจึงเป็นทางออกทางบรรเทาได้บ้าง คราบรอยเหล่านั้นบางทีเมื่อนำมาใช้เป็นเครื่องระลึกชาติระลึกกรรมเก่าของตัวเองช่วยให้ได้ชาติใหม่ ได้ภพใหม่ที่บกพร่องน้อยลง บางครั้งชาติเก่าของเรายังเอื้อประโยชน์ต่อชาติใหม่ของคนอื่นด้วย…”


หนังสือ “เรื่องเล่าจากบ้านอ่าวทราย” เป็นหนังสือรวมบทความ หรือข้อเขียนของข้าพเจ้าจากคอลัมน์ “คนคาบสมุทรมลายู” ในผู้จัดการออนไลน์ เปรียบเสมือน “คราบน้ำตาบนทางชีวิต และงานของสุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ภาคพิสดาร” เพราะเป็นบันทึกเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับ ศ.สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ และสถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ ในช่วงหลังจาก ศ.สุธิวงศ์ได้เกษียณอายุ และอำลาสถาบันทักษิณคดีศึกษา ก่อนถึงวันล้มป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก และเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจนถึงปัจจุบัน

หนังสือดังกล่าวกำลังจะออกเผยแพร่แก่สาธารณะในเร็ววันนี้ ตอนแรกผู้เขียนตั้งใจจะพิมพ์เผยแพร่เป็นที่ระลึกในวาระครบวาระการดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษา ในวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ แต่เนื่องจากการจัดการด้านการพิมพ์ไม่ทันตามกำหนดการ จึงเลื่อนมากำหนดออกเผยแพร่ในวันจัดงานครบรอบ ๓๐ ปีมูลนิธิทักษิณคดีศึกษา และวันแสดงวิสัยทัศน์ผู้เข้าร่วมสรรหาเป็นผู้อำนวยการสถาบันทักษิณคดีศึกษาในวันพุธที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๖ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์มากถึง ๕ คน

สามคนมาจากการเสนอชื่อของบุคลากรสถาบันทักษิณคดีศึกษา และหนึ่งในสามคนนี้คือ ข้าพเจ้า ได้รับการเสนอชื่อจากสภาคณาจารย์ และบุคลากรมหาวิทยาลัยทักษิณด้วย

อีกสองท่านเป็นอดีตบุคลากรของมหาวิทยาลัยทักษิณ แต่หลังเกษียณอายุราชการ ท่านหนึ่งไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และอีกท่านหนึ่งไปเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เมื่อได้ข่าวสถาบันทักษิณคดีศึกษาเปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นผู้อำนวยการ ทั้งสองท่านจึงเสนอตัวเข้ารับการสรรหา ด้วยความหวังอันเต็มเปี่ยมที่จะเข้าไปบริหารจัดการสถาบันทักษิณคดีศึกษา ด้วยดีกรี รศ. และ ผศ.ดร.

ด้วยเนื้อหาในหนังสือ “เรื่องเล่าจากบ้านอ่าวทราย” ที่มีส่วนพาดพิงถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์บอกเล่าช่วงหนึ่งของสถาบันทักษิณคดีศึกษาอย่างตรงไปตรงมา อาจจะทำให้หนังสือเล่มนี้นำมาซึ่ง “ศัตรู” ต่อข้าพเจ้าเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะข้าพเจ้าเชื่อในคำกล่าวของ เช เกวารา ที่ว่า “คนที่ค่อนข้างจะไม่มีเพื่อน เป็นเรื่องน่าเศร้าหมอง แต่คนที่ไม่มีศัตรู กลับเป็นคนน่าเศร้าหมองกว่า”

และข้าพเจ้ามีศัตรูที่เกิดจากเรื่องส่วนรวม มากกว่ามาจากเรื่องส่วนตัว เนื่องจากข้าพเจ้ามักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการคัดค้าน เปิดโปงความอยุติธรรม ที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับตัวเองสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะการปกป้องคนที่ข้าพเจ้าเลื่อมใสศรัทธา (ในบางเรื่อง) อย่างอาจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ การปกป้องคนจนคนด้อยโอกาส ชนชั้นล่าง (ชนชั้นใต้ถุนสังคม) หรือแม้แต่ชนชั้นกลางระดับล่าง หรือชนชั้นล่างระดับกลางในสถาบันการศึกษา ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา และระดับอุดมศึกษา
ผู้เขียน
 
ข้าพเจ้าจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้โดยการสนับสนุนทุนในการจัดพิมพ์จาก “กองทุนเผล้งหลา” กองทุนที่เกิดจากความเมตตา และความศรัทธาของกัลยาณมิตรประมาณ ๓-๔ ร้อยคน ที่ช่วยกันสละเงินคนละเล็กคนละน้อยสนับสนุนหนังสือรวมบทกวีการเมือง “ทุบหน้าโพ” เมื่อหลังเหตุการณ์อุทกภัยปลายปี ๒๕๔๓ ต่อต้นปี ๒๕๔๔ และเมื่อมีเงินเหลือจำนวนหนึ่งข้าพเจ้าก็ใช้ในการผลิตหนังสือ และส่งหนังสือถึงสมาชิกกองทุนดังกล่าวมาร่วมสิบกว่าเล่มปกแล้ว

และหนังสือเล่มนี้ถือเป็นหนังสือเล่มแรกของกองทุนเผล้งหลา ที่จัดพิมพ์ในโรงพิมพ์อย่างสมบูรณ์แบบ ข้าพเจ้าจะแจกให้ทุกท่านที่เคยสนับสนุนกองทุนเผล้งหลา ส่วนท่านที่สนใจแม้มิเคยเป็นสมาชิกกองทุนโดยการบริจาคเป็นค่าหนังสือมาก่อน ข้าพเจ้าก็ยินดีจะจัดส่งให้ท่านฟรี เพียงแต่ท่านแจ้งชื่อ-ที่อยู่ทางไปรษณีย์ไปที่

จรูญ หยูทอง กองทุนเผล้งหลา สถาบันทักษิณคดีศึกษา ตำบลเกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ๙๐๑๐๐ หรือ ๓๓๐ หมู่ที่ ๑ ตำบลควนลัง ซอย ๒๗ เพชรเกษม ถนนเทศบาล-บ้านหน้าควนลัง ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ๙๐๑๑๐

หากท่านมีความประสงค์จะบริจาคกองทุนเผล้งหลา ก็ส่งเป็นธนาณัติสั่งจ่ายในนามนายจรูญ หยูทอง ปณจ.พะวง สงขลา หรือโอนผ่านบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี นายจรูญ หยูทอง ธนาคารกสิกรไทย สาขาหาดใหญ่ใน เลขที่บัญชี ๔๐๒-๒-๒๖๖๒๑-๒ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ
 
หนังสือเล่มนี้จะทำหน้าที่บันทึกประวัติศาสตร์บอกเล่า ที่เกี่ยวข้องกับวิบากกรรมของบุคคล และองค์กรที่ทำหน้าที่ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของชาติกว่าที่โลกจะขานรับ มีบางคนต้องเจ็บปวด ผิดหวัง และบนความทุกข์ ความเหนื่อยยากของคนเหล่านั้น กลับมีบางคนบางกลุ่มเข้ามาเสวยสุข และเติบโต ไต่เต้าขึ้นสู่การมีอำนาจวาสนา และสร้างอาณาจักรของตน และพรรคพวก จนนำไปสู่จุดจบของตนเอง เหลือไว้ซึ่งเรื่องเล่าอันเป็นตำนานจดจารบ้านอ่าวทรายตราบถึงทุกวันนี้ 
 
สมดังคำกล่าวที่ว่า “บางคนถึงตายไปแล้ว ก็เหมือนยังมีชีวิตอยู่ บางคนถึงยังมีชีวิตอยู่ ก็เหมือนตายไปแล้ว”
 
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น