ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ย้ายด่วนชาวโรฮิงญา 8 คน ที่อยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวมัสยิดใน ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ ไปควบคุมที่สถานีตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา หลังมีกลุ่มคนซึ่งคาดว่าจะเป็นนายหน้ามาติดต่อขอรับตัวไปยัง จ.สตูล
วันนี้ (21 ม.ค.) ตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำเป็นต้องย้ายด่วนชาวโรฮิงญา จำนวน 8 คน จากศูนย์พักพิงชั่วคราวภายในมัสยิดญามิอุนมิตตากีน ของบ้านฉลุง หมู่ 7 ต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และนำไปควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ทุ่งตำเสา เพื่อความปลอดภัย หลังจากที่ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 5 คน ซึ่งเป็นคนไทย ขับรถยนต์กระบะ และรถเก๋งมาติดต่อ นายกิตติ พิทักษ์คุมพล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 และโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิด เพื่อขอรับตัวชาวโรฮิงญาทั้ง 8 คน กลับไปยัง จ.สตูล โดยอ้างว่ามีผู้นำศาสนาคนหนึ่งใน จ.สตูล ให้มารับ
แต่เนื่องจากพบพิรุธหลายอย่าง ทางผู้ใหญ่บ้าน และโต๊ะอิหม่าม รวมทั้งชาวบ้านปฏิเสธที่จะให้นำตัวกลับไป เพราะชาวโรฮิงญาทั้ง 8 คน อยู่ในอำนาจของตำรวจเพียงแต่ขอใช้สถานที่มัสยิดประจำหมู่บ้านเป็นที่พักพิงชั่วคราวเท่านั้น ที่สำคัญ ชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ต้องการอาศัยอยู่ในมัสยิด และปฏิเสธที่จะเดินทางกลับไปกับคนกลุ่มนี้ พร้อมกับแจ้งเรื่องไปยังตำรวจ กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คน จึงรีบขับรถออกไปทันที
ทางฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนาจึงตัดสินใจรีบย้ายตัวชาวโรฮิงญาทั้ง 8 คน โดยให้ตำรวจมารับไปควบคุมไว้ที่ สภ.ทุ่งตำเสา เพื่อความปลอดภัย เพราะเชื่อว่าหากยังพักอยู่ในมัสยิดจะไม่สามารถดูแลได้ เพราะกลุ่มนายหน้ายังคงพยายามหาทางชิงตัวชาวโรฮิงญากลุ่มนี้กลับไป
ล่าสุด ชาวโรฮิงญาทั้ง 8 คน ยังคงอยู่ในห้องควบคุมของ สภ.ทุ่งตำเสา ร่วมกับเพื่อนชาวโรฮิงญาอีก 4 คน ที่เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ และเตรียมนำตัวทั้งหมดส่งต่อไปควบคุมที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา ตามกระบวนการของกฎหมายกรณีหลบหนีเข้าเมือง ขณะที่ยังมีชาวบ้านใน ต.ฉลุง มาเยี่ยม และนำอาหารมาเลี้ยงดูอย่างต่อเนื่องด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับต้องการให้ตำรวจส่งตัวไปควบคุมที่ สภ.บางกล่ำ แทนการส่งตัวไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา เนื่องจากสะดวกต่อการปฏิบัติศาสนกิจ และอยู่ใกล้กับชุมชนมุสลิม และไม่ได้มีการควบคุมอยู่ในห้องขัง
ขณะที่ตำรวจกำลังตรวจสอบกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้ง 5 คนที่มาติดต่อขอรับตัวชาวโรฮิงญา เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นนายหน้าที่นำพา และควบคุมดูแลชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ และประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่รับตัวชาวโรฮิงญาไปดูแลให้เฝ้าระวัง เพราะเชื่อว่ายังคงมีความพยายามที่จะติดต่อชาวโรฮิงญาให้หลบหนีออกจากสถานที่ควบคุม
