พังงา - หลายหน่วยงานระดมให้ความช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงญาตามหลักมนุษยธรรม ส่วนใหญ่หนีขึ้นฝั่งจังหวัดพังงากว่า 400 คน พร้อมเรียนเชิญร่วมบริจาคช่วยเหลือได้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา และศาลากลาง จ.พังงา
วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วยผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมนำสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัยชาวโรฮิงญา ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา ได้ทำการจับกุมชาวโรฮิงญาที่อพยพมาทางเรือ รวม 4 วันที่ผ่านมา จำนวนทั้งหมดกว่า 400 คน ซึ่งส่วนใหญ่ลักลอบหนีขึ้นฝั่งที่ อ.คุระบุรี อ.ตะกั่วป่า และ อ.ท้ายเหมือง โดยเจ้าหน้าที่ได้แยกนำตัวไปควบคุมในที่ต่างๆ ผู้ชายได้ควบคุมตัวไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา และสถานีตำรวจคุระบุรี ส่วนผู้หญิง และเด็ก ควบคุมตัวไว้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีชาวโรฮิงญา จำนวน 42 คน
นายธำรงค์ เจริญกุล กล่าวว่า การช่วยเหลือชาวโรฮิงญานั้น รัฐบาลให้ความสำคัญกับหลักมนุษยธรรมเป็นอย่างมาก ได้ให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามปัจจัยสี่ก่อนทั้งเรื่องความสะอาด สุขภาพอนามัย เสื้อผ้า อาหารการกิน รวมทั้งบำบัดเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจโดยได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาดูแลในเบื้องต้น นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนให้ช่วยกันบริจาคข้าวสาร อาหาร เสื้อผ้า สามารถบริจาคได้โดยตรงที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา หมายเลขโทรศัพท์ 0-7648-6814-6 หรือที่ศาลากลางจังหวัดพังงา เพื่อช่วยเหลืออีกทางหนึ่งด้วย
จากนั้น ที่ห้องควบคุมตัวด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา นายปราโมทย์ แหล่ทองคำ กรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ พร้อมด้วย นายอะหมัด และเยาะ ประธานกรรมการอิสลามจังหวัดพังงา ชมรมสหกรณ์อิสลามจังหวัดกระบี่ ชมรมนักธุรกิจไทยมุสลิมจังหวัดกระบี่ โรงพยาบาลรวมแพทย์กระบี่ ได้เข้าเยี่ยมพร้อมกับนำสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วย ข้าวกล่อง ข้าวสาร น้ำ เสื้อผ้า และยารักษาโรค ให้แก่ผู้อพยพชาวโรฮิงญาที่ถูกควบคุมตัวไว้ในห้องขัง จำนวนทั้งหมด 271 คน โดยคณะที่มาทั้งหมดได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวโรฮิงญาจำนวนมากได้อพยพหนีภัยมาจากรัฐยะไข่ ทางตอนใต้ของประเทศพม่า ด้วยเรือประมงเพื่อจะมาเข้าฝั่งประเทศไทย หรือประเทศมาเลเซียเพื่อหางานทำ ซึ่งในแต่ละครั้งเมื่อเรือชาวโรฮิงญามาใกล้ถึงฝั่งชาวโรฮิงญาจะทำให้เรือแตกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาตามมาระหว่างรอผลักดันชาวโรฮิงญาออกนอกประเทศ เนื่องจากขณะนี้ ชาวโรฮิงญาที่ถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ห้องควบคุมตัวมีไม่เพียงพอต่อผู้ต้องหาที่ได้ถูกจับกุมมา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรได้ส่งชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่ไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา แต่ตอนนี้ก็มีปัญหาในเรื่องสถานที่ควบคุมตัว ซึ่งปกติสามารถรับได้ประมาณ 150 คน แต่ตอนนี้ก็ควบคุมตัวอยู่เกือบ 300 คนแล้ว ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ประสานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และด่านตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อกระจายชาวโรฮิงไปฝากขังในพื้นที่ต่างๆ ไว้ก่อน จึงจำเป็นให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหาแนวทางในการแก้ปัญหาชาวโรฮิงญาหนีเข้าประเทศไทยโดยด่วน
