ผู้ว่าฯ พังงาช่วยเหลือโรฮิงญา พร้อมสั่งคุมเข้มรอยต่อระนอง-พังงา

พังงา - ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา สั่งช่วยเหลือกลุ่มชาวโรฮิงญา โดยเฉพาะผู้หญิง และเด็กที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา และสั่งคุมเข้มรอยต่อ จ.ระนอง-อ.คุระบุรี จ.พังงา อย่างเข้มงวด ขณะที่ห้องขังไม่เพียงพอควบคุมชาวโรฮิงญา

วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองจังหวัดพังงา จับกุมชาวโรฮิงญาได้รวม 4 วัน จำนวนทั้งหมด 400 คน ซึ่งส่วนใหญ่ลักลอบหนีขึ้นฝั่งที่ อ.คุระบุรี และ อ.ตะกั่วป่า อ.ท้ายเหมือง หลังจากได้นำตัวชาวโรฮิงญาไปควบคุมขังในที่ต่างๆ เช่น สถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพังงา และสถานีตำรวจคุระบุรี ส่วนผู้หญิง-เด็ก และผู้หญิงตั้งครรภ์ 6 เดือน 1 คน ซึ่งที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มีชาวโรฮิงญา จำนวน 42 คน ด้านนายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เดินทางเข้าเยี่ยมกลุ่มเด็ก และผู้หญิง จำนวน 42 คน ที่บ้านพักดังกล่าว พร้อมทั้งสั่งให้เจ้าหน้าที่ดูแลชาวโรฮิงญา ทั้งด้านสถานที่พัก และอาหาร โดยเฉพาะเด็กๆ และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน จำนวน 1 คน

ทางด้านนายธำรง เจริญกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงากล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดพังงาได้สั่งเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และฝ่ายปกครองทำงานร่วมกันกวดขันตวรจตรากลุ่มชาวโรฮิงญาที่เดินทางหลบหนีเข้าเมืองรอยต่อจังหวัดระนอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา พร้อมสั่งกำชับเจ้าหน้าที่ดูแลข้าวปลาอาหารให้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ มีรายงานว่า จากที่ชาวโรฮิงญาจำนวนมากอพยพมาจากรัฐยะไข่ ตอนใต้ของประเทศพม่า ด้วยเรือประมงเพื่อจะมาเข้าฝั่งประเทศไทย หรือประเทศมาเลเซีย เพื่อหางานทำ ซึ่งในแต่ละครั้งเมื่อเรือชาวโรฮิงญามาใกล้ถึงฝั่ง ชาวโรฮิงญาจะทำให้เรือแตกเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาตามมาระหว่างรอผลักดันชาวโรฮิงญาออกนอกประเทศ เนื่องจากขณะนี้ ชาวโรฮิงญาที่ถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้ห้องขังมีไม่เพียงพอต่อจำนวนชาวโรฮิงญาที่ได้ถูกจับกุมมา

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรได้ส่งชาวโรฮิงญาทั้งหมดที่ถูกจับกุมได้ไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา แต่ก็มีปัญหาในเรื่องสถานที่กักขัง ซึ่งขณะนี้ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดพังงา มีชาวโรฮิงญาถูกควบคุมตัว 214 คน ในขณะที่ห้องขังสามารถรับได้เพียง 150 คน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ ตม.ได้ประสานไปยังตำรวจภูธรจังหวัดพังงาและด่านตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อกระจายชาวโรฮิงไปฝากขังในพื้นที่ต่างๆ ไว้ก่อน จึงจำเป็นให้หน่วยงานที่รับผิดชอบหาแนวทางในการแก้ปัญหาชาวโรฮิงญาหนีเข้าประเทศไทย