ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - คุมตัวชาวโรฮิงญา 397 คน ไปควบคุมที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ รอผลักดันกลับภูมิลำเนา สอบเครียดชาวโรฮิงญา 5 คน ที่ทำหน้าที่ดูแลขยายผลไปยังขบวนการค้ามนุษย์ และแจ้ง 2 ข้อหา ส่วนนักการเมืองท้องถิ่นเจ้าของพื้นที่เตรียมเชิญตัวมาสอบ
จากการเข้าช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญา ที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์นำมากักขังไว้บริเวณป่าสวนยางแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่บ้านชายควนทุ่งไม้ด้วน 2 ม.4 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และบางส่วนขายเป็นแรงงานเรือประมง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายชาวโรฮิงญาทั้ง 397 คน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 66 คน ไปควบคุมไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอดำเนินการผลักดันกลับภูมิลำเนา และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น เนื่องจากหลายคนเจ็บป่วย และมีบาดแผลตามร่างกาย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถยนต์กระบะ 1 คัน รถเก๋งมาเลเซีย 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน ซึ่งเป็นรถที่ใช้สำหรับขนเสบียงไปส่งยังที่กักขัง และลักลอบขนชาวโรฮิงญาไปส่งยังปลายทางตามใบสั่ง
ด้าน พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า ในทางคดีเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนชาวโรฮิงญา ทั้ง 5 คนที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลชาวโรฮิงญา เพื่อขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้ และจะดำเนินการแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และกักขังหน่วงเหนี่ยว
ส่วนนายประสิทธิ์ เหล็มแหล๊ะ หรือเขต รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นเจ้าของสวนยางที่ใช้เป็นสถานที่กักขังชาวโรฮิงญานั้น เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนร่วมด้วยก็จะแจ้งข้อหาให้การช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และให้ที่พักพิง
จากการเข้าช่วยเหลือมุสลิมชาวโรฮิงญา ที่ถูกขบวนการค้ามนุษย์นำมากักขังไว้บริเวณป่าสวนยางแนวตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่บ้านชายควนทุ่งไม้ด้วน 2 ม.4 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และบางส่วนขายเป็นแรงงานเรือประมง
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายชาวโรฮิงญาทั้ง 397 คน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 66 คน ไปควบคุมไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอดำเนินการผลักดันกลับภูมิลำเนา และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น เนื่องจากหลายคนเจ็บป่วย และมีบาดแผลตามร่างกาย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถยนต์กระบะ 1 คัน รถเก๋งมาเลเซีย 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน ซึ่งเป็นรถที่ใช้สำหรับขนเสบียงไปส่งยังที่กักขัง และลักลอบขนชาวโรฮิงญาไปส่งยังปลายทางตามใบสั่ง
ด้าน พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า ในทางคดีเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนชาวโรฮิงญา ทั้ง 5 คนที่ทำหน้าที่ควบคุมดูแลชาวโรฮิงญา เพื่อขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์กลุ่มนี้ และจะดำเนินการแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และกักขังหน่วงเหนี่ยว
ส่วนนายประสิทธิ์ เหล็มแหล๊ะ หรือเขต รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เป็นเจ้าของสวนยางที่ใช้เป็นสถานที่กักขังชาวโรฮิงญานั้น เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่ามีส่วนร่วมด้วยก็จะแจ้งข้อหาให้การช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และให้ที่พักพิง
