ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หลายหน่วยงานยื่นมือเข้าช่วยเหลือกลุ่มมุสลิมโรฮิงญาทั้ง 3 กลุ่ม ที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ และยังคงถูกควบคุมตัวเพื่อรอผลักดันกลับภูมิลำเนา ผู้ว่าฯ สงขลา จัดหน่วยแพทย์ไปดูแลรักษาชาวโรฮิงญาที่เจ็บป่วย และคัดแยกเด็ก ผู้หญิง และคนชราไปดูแลที่สถานสงเคราะห์เด็กและคนชราด้วย
วันนี้ (14 ม.ค.) หน่วยงานต่างๆ ใน จ.สงขลา ยื่นมือให้การช่วยเหลือกลุ่มมุสลิมโรฮิงญาทั้ง 3 กลุ่ม รวม 843 คน หลังเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือขณะถูกกักตัวอยู่ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ และ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอส่งไปยังประเทศที่ 3 และขณะนี้ ทั้งหมดยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ และสถานีตำรวจในพื้นที่ อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ เพื่อรอผลักดันกลับภูมิลำเนา
โดยที่ สภ.สะเดา ซึ่งมีมุสลิมโรฮิงญาถูกควบคุมตัวไว้จำนวน 30 คน คณะครู และนักเรียนโรงเรียนสะเดาขรรค์ชัยกลัมพลานนท์อนุสรณ์ ชาวบ้านใน อ.สะเดา และองค์กรเอกชนใน อ.หาดใหญ่ ได้ร่วมกันบริจาคเงินเพื่อจัดซื้อข้าวกล่อง รวมทั้งบริจาคเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และยามามอบให้แก่กลุ่มมุสลิมโรฮิงญา เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นอกเหนือจากการดูแลของทาง สภ.สะเดา ซึ่งยังไม่เพียงพอ
รวมทั้งกระจายสิ่งของบริจาคไปช่วยเหลือกลุ่มมุสลิมโรฮิงญาที่กระจายไปควบคุมตัวตามหน่วยงานต่างๆ ระหว่างที่รอดำเนินการผลักดันกลับภูมิลำเนา ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงขาดแคลนในเรื่องของอาหาร เครื่องแต่งกาย ยารักษาโรค รวมทั้งนมผงที่ใช้สำหรับเด็ก ซึ่งผู้ใจบุญสามารถที่จะบริจาคได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้จัดหน่วยแพทย์ และสาธารณสุขในพื้นที่เข้าไปดูแลรักษาชาวโรฮิงญาที่เจ็บป่วย และขณะนี้ได้คัดแยกเด็ก ผู้หญิง และคนชรา จำนวน 137 คน ไปดูแลต่างหากที่สถานสงเคราะห์เด็กและคนชรา จ.สงขลาแล้ว
