ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ตรวจเยี่ยมเด็ก และผู้หญิงชาวโรฮิงญา 105 คน ที่เข้ามาอยู่ในความดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา พร้อมมอบสิ่งของ เน้นย้ำดูแลอย่างดีเพื่อมนุษยธรรม ในขณะนี้พี่น้องชาวมุสลิมในประเทศไทย และภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือบริจาคสิ่งของ ทั้งข้าว อาหาร และน้ำเป็นจำนวนมาก
วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา นายปกรณ์ พันธุ อธิบดีกรมพัฒนาและสวัสดิการ พร้อมคณะได้เดินทางตรวจเยี่ยมเด็ก และผู้หญิงชาวมุสลิมโรฮิงญา จำนวน 105 คน ที่พักอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือชาวโรฮิงญารวม 856 คน ขณะถูกกักตัวอยู่ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ และ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อรอส่งไปยังประเทศที่สาม และขณะนี้ ทั้งหมดยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ และสถานีตำรวจในพื้นที่ อ.สะเดา และ อ.หาดใหญ่ รวมทั้งบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา ตรัง และนราธิวาส ด้วย เพื่อรอผลักดันกลับภูมิลำเนา
สำหรับเด็ก และผู้หญิงชาวมุสลิมโรฮิงญามีทั้งหมด 136 คน อยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา จำนวน 105 คน บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดตรัง จำนวน 13 คน และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนราธิวาส จำนวน 18 คน โดยอธิบดีกรมพัฒนาและสวัสดิการพร้อมคณะได้มอบสิ่งของให้เด็ก และผู้หญิงทุกคน และได้สั่งการให้ดูแลเด็ก และผู้หญิงชาวมุสลิมโรฮิงญาอย่างดีเพื่อมนุษยธรรม
หลังจากนั้น นายปกรณ์ พันธุ อธิบดีกรมพัฒนาและสวัสดิการ ได้มีการประชุมปรึกษาหารือร่วมกับ พ.ต.ต.จตุพร อรุณฤกษ์ถวิล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปราม 2 ศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์กรมสอบสวนพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยได้นำเสนอปัญหาชาวโรฮิงญาที่มีการลักลอบเข้ามา และทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการผลักดันกลับไป โรฮิงญาก็จะลักลอบเข้ามาอีก และอาจจะเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งในครั้งนี้มีการลักลอบเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการลักลอบเข้ามาอีก
นายปกรณ์ พันธุ อธิบดีกรมพัฒนาและสวัสดิการ กล่าวว่า ในกรณีชาวโรฮิงญาที่เขามาอยู่กับเรา 136 คน อยู่ตรงนี้ 105 คน เราส่งไปบ้านพักที่จังหวัดตรัง 13 คน และบ้านพักจังหวัดนราธิวาส 18 คน เราดูแลเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และดูแลสตรีด้วย ตามหลักมนุษยธรรม หากจะถามว่าจะดูแลตรงนี้ไปนานอีกเท่าไหร่ ก็คงจะถามไปทางด้านความมั่นคงว่า จะให้เราดูแลไปอีกขนาดไหน ในขณะนี้ระยะเวลาของการดูแลเราสามารถอยู่ได้ เนื่องจากพี่น้องชาวมุสลิมในประเทศไทย และภาคเอกชนช่วยเหลือเรา ตอนนี้เรามีข้าว เรามีน้ำ มีอาหาร เนื่องจากมีคนมาบริจาคเต็มไปหมดแล้ว และกำลังติดต่อเพื่อบริจาคเป็นเงินเข้ามาอีก เรากำลังจะเปิดบัญชีเพื่อเปิดรับบริจาคเพื่อดูแลคนเหล่านี้ อันนี้คือประเด็นที่ 1
ส่วนประเด็นที่ 2 เกี่ยวกับเรื่องการค้ามนุษย์นั้น เราก็ต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า การเข้า พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ อย่างน้อยต้องมีเงื่อนไข 3 ประการ คือ จะหนึ่งหรือสองหรือสามก็ไม่ได้ มันจะต้องมีครบทั้งสามประการ คือ 1.ลักษณะ 2.วิธีการ และ 3.วัตถุประสงค์ สำหรับประการที่ 1 ลักษณะเป็นการนำพา ชักจูงจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง นี่คือลักษณะของข้อที่ 1 ข้อที่ 2 คือ วิธีการหลอกล่อ หลอกลวง บังคับขู่เข็ญไหม ใช้กำลังประทุษร้ายไหม ข้อ 3 คือ วัตถุประสงค์ แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบหรือเปล่า คือมันต้องหนึ่งบวกสองบวกสาม จึงจะถือว่าเป็นการค้ามนุษย์ สำหรับกรณีนี้คนที่จะฟันธงได้ว่าค้ามนุษย์หรือไม่ ก็คือ พนักงานสอบสวนทั้งของตำรวจ และของ ตม.ที่ดำเนินการเข้ามา