“อาศิส” จุฬาราชมนตรีวิงวอนมุสลิมทั่วโลกอย่ารังเกียจโรฮิงญา

สตูล - จุฬาราชมนตรี เห็นใจชาวโรฮิงญา วอนชาวมุสลิมทุกประเทศอย่ารังเกียจระลึกนับถือศาสนาเดียวกัน แนะรัฐบาลเร่งปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์

นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เดินทางมาร่วมเปิดร่วมงานรำลึกเกียรติประวัติศาสตร์ศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ฮ.ศ.1434 โดยมีชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดสตูล เดินทางมาร่วมให้การต้อนรับ และร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคัก ที่บริเวณหน้าสำนักงานคณะกรรมการอิสลามกลางประจำจังหวัดสตูล ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล โดยมีนายอุทาร พิชญาภรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมหัวหน้าส่วนราชการให้การตอนรับช่วงค่ำคืนวันที่ 21 มกราคม 2556

สำหรับหรับการเดินทางมาในครั้งนี้ ด้านนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ขึ้นเวทีเอ่ยถึงกลุ่มคนที่นับถือศาสนาอิสลามโดยระลึกถึงความเป็นมนุษย์ที่นับถือศาสนาเดียวกัน เน้นให้ชาวมุสลิมมีความรักกัน ไม่รังเกียจกัน และแสดงพลังรักศาสดามูฮัมหมัด รวมทั้งให้ชาวมุสลิมในประเทศไทยอย่ารังเกียจกลุ่มชาวโรฮิงญาที่เดินทางมาพักพิงในพื้นที่ประเทศไทย และร่วมกันแสดงน้ำใจไมตรีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ทั้งนี้ ได้มีการพูดคุยกันนอกรอบกับทางคณะกรรมการอิสลามกลางประจำจังหวัดสตูล และกรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย เรื่องกลุ่มมุสลิมชาวโรฮิงญา ในเรื่องการหาที่พักพิงชั่วคราวในจังหวัดสตูล โดยต้องมีการหารือกับองค์กรระดับประเทศ และสหประชาชาติร่วมกันแก้ไข พร้อมกับเน้นการปราบปรามกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ให้สิ้นซาก รวมทั้งเน้นให้ประเทศไทยหารือกับประเทศพม่าเพื่อให้โอกาสแก่ชาวโรฮิงญา

ด้านนายอิบรอหีม อาดำ กรรมการอิสลามกลางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เรื่องของชาวมุสลิมโรฮิงญา ทางจุฬาราชมนตรีให้ความสำคัญอย่างมาก โดยมีการพูดคุยกันนอกรอบ ซึ่งทางจุฬาราชมนตรีกังวลว่า ชาวโรฮิงญาที่หนีตายมาอยู่ในพื้นที่จังหวัดสตูล สงขลา นราธิวาส แล้ว ยังต้องมาโดนกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ พาไปขายเป็นแรงงานเถื่อนอีก จึงอยากฝากทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลให้ความเป็นธรรมแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

นายอิบรอหีม กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งเรื่องที่มีข่าวรือว่า ทางประเทศมาเลเซียจะมีการเลือกตั้งใหม่ และต้องการกลุ่มมุสลิมชาวโรฮิงญานำไปทำบัตรเพื่อมีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งข้อมูลตรงนี้ไม่แน่ชัด และไม่กล้าที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับประเทศมาเลเซีย เพราะหมายถึงความมั่นคงระดับประเทศ แต่ประเทศมาเลเซียนั้นจะมีการเลือกตั้งใหม่จริง แต่จะเอาชาวโรฮิงญาไปทำบัตร ตรงนี้ไม่แน่ใจที่จะโยงใยกลุ่มชาวโรฮิงญาไปยุ่งเกี่ยว

ด้าน พ.ต.อ.ภีมเดช สาระกูล ผกก.ตม.จว.สตูล เปิดเผยว่า จังหวัดสตูลเป็นพื้นที่ติดกับชายทะเลฝั่งอันดามัน กับประเทศมาเลเซีย ส่วนเส้นทางจากรัฐยะไข่ หรือรัฐอาระกันประเทศพม่า ชาวโรฮิงญาสามารถวิ่งเรือมาถึงได้โดยใช้เวลาประมาณ 10 วัน รวมทั้งพื้นที่ จ.สตูล ดูคล้ายประเทศมาเลเซีย จึงทำให้ชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่คิดว่าสตูลคือประเทศมาเลเซีย ส่วนมาตราการตอนนี้ ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองสตูลเองถือว่าการจับกุมชาวโรฮิงญาเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะตรวจเข้ม หากพบทางเราจะไม่ส่งกลับประเทศที่สาม จะประสานต่อไปยัง กอ.รมน.เพื่อทำหน้าที่ดูแลให้ความสะดวกต่อไป

สำหรับที่ผ่านมา มีชาวโรฮิงญาเข้าพื้นที่จังหวัดสตูล และถูกจับกุมในปี 54 จำนวน 200 คน และปี 55 จำนวน 100 กว่าคน และในปี 56 เมื่อวันที่ 14 มกราคม จับกุมชาวโรฮิงญาได้อีก 52 คน และยังมั่งใจว่า ในพื้นที่จังหวัดสตูลยังคงมีชาวโรฮิงญาที่หลบซ่อนอยู่ในพื้นที่อย่างแน่นอน