รองนายกฯ รับ “พงศพัศ” เป็นรอง “สุขุมพันธ์” แต่มีโอกาสชนะ ยันช่วยเต็มตัว เผย “สุรพงษ์” สั่งเช็กโรฮิงญาเกือบ 900 เข้าไทยเพื่ออะไร ชี้สัญญาก่อสร้างโรงพักพิลึกตั้งแต่แรก ลั่นใครผิดจับเข้าคุกหมด คิดอยู่เอาสถานที่ไหนทำการแทนชั่วคราว โบ้ยผลงานประชาธิปัตย์ชัด รูดซิปนิติราษฎร์ชงนิรโทษม็อบในร่าง รธน.
วันนี้ (15 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยส่ง พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ อดีตเลขาธิการ ป.ป.ส. ลงชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.ว่า เป็นรองแต่มีโอกาสชนะ เป็นงานท้าทาย ส่วนคุณสมบัติของ พล.ต.อ.พงศพัศ ที่จะสามารถชนะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ได้นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “ก็ต้องรอเวลาหาเสียงสักนิดนึง แต่ผมเต็มใบ ช่วยเต็มตัว ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ชื่อพงศพัศ พงศ์เจริญ”
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความคืบหน้าคดีกลุ่มมุสลิมโรฮิงญาทั้งสามกลุ่มจำนวน 865 คน ที่เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือออกมาได้ระหว่างถูกนำมาพักพิงไว้ในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ และ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ว่านายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้โทรมาหาตน โดยสั่งให้ตนเช็คว่ากลุ่มคนเหล่านี้เข้ามาเพื่อการใด และเช็กไปยังต้นตอเพื่อหาคนทำผิดมารับโทษ ต้องตรวจสอบที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมาตรการที่จะดำเนินการนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เรื่องมนุษยธรรมก็ต้องมี
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีผลสอบโครงการการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่งทั่วประเทศว่า เมื่อครั้งที่ทำสัญญาการก่อสร้างไว้มองดูแล้วก็พิลึก สัญญาจะเริ่มนับได้ต้องส่งพื้นที่ครบถ้วน ปกติเวลาของสัญญาก่อสร้าง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องเป็นผู้ร้องขอ แต่คราวนั้นไม่ใช่อีกทั้งยังทำสัญญาเดียวทั้งประเทศจึงมีปัญหา ตนบอกแล้วว่าอย่าไปกลัวว่าใครจะกลั่นแกล้ง ผิดก็จับเอาเข้าคุกให้หมด และต้องหาคนรับผิดชอบให้ได้ ส่วนที่ยังไม่มีความคืบหน้านั้นเพราะยังไม่ครบสัญญา การที่จะเอาผิดคนต้องใช้เวลา นี่แหละเป็นผลงานประชาธิปัตย์ทำไว้
เมื่อถามว่า ช่วงเวลานี้สถานีตำรวจที่รับความเดือดร้อน ทางตำรวจจะเยียวยาอย่างไรทั้งในส่วนของที่ทำงาน และที่พักอาศัย รองนายกฯ กล่าว่า ต้องหาทางกลั่นกรองคิดค้น ที่ทำการจะเอาอาคารสถานที่ตรงไหน แต่ที่ยากคือห้องคุมขัง เมื่อถามว่าประเด็นที่จะส่อเค้าว่าเป็นการทุจริตถ้าท่านบอกว่าเป็นเพราะผลงานที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์รัฐบาลนี้จะสามารถทำให้ความจริงประจักษ์ได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนจะไปบอกว่าเขาผิดไม่ได้ แต่เป็นผลงานของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ถ้าสอบไปแล้วพบว่าใครผิดก็ต้องดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อกรณีที่นิติราษฎร์ออกประกาศของการร่างรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าผู้ต้องหาที่มีแรงจูงใจทางการเมืองควรจะได้รับโอกาสนิรโทษกรรม ว่า “ผมไม่ขอแสดงความเห็นเรื่องนี้”