ตรัง - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง เสนอให้ทุกฝ่ายรีบเร่งแก้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งอย่างเร่งด่วน เพราะสถานการณ์กำลังมีความรุนแรงมากขึ้นในปีนี้
ผศ.โกสินทร์ พัฒนมณี รองคณบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มศร.) วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า ผลพวงจากสถานการณ์คลื่นกัดเซาะชายฝั่งที่มีความรุนแรงมากขึ้นในปีนี้ จนทำให้ชายหาดหลายแห่งในจังหวัดตรังเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างนั้น สามารถแก้ปัญหาได้ตามหลักวิชาการด้วยการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น เพียงแต่จะต้องทำการศึกษาว่ารูปแบบใดมีผลกระทบน้อยสิ่งสุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายของทราย หรือในด้านสังคมที่อาจมีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกฝ่ายควรมาหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ สถานการณ์คลื่นกัดเซาะชายฝั่งนั้นเกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้ว และแม้ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างประเทศญี่ปุ่น ก็ใช้การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นมาแก้ปัญหา เพียงแต่เรื่องของรูปแบบถือเป็นสิ่งที่นักวิชาการให้ความสำคัญมาก และต้องจัดสรงงบประมาณมาดำเนินการศึกษาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รูปแบบที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่มากที่สุดจริงๆ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา และอาจไม่สอดคล้องกับการตั้งงบประมาณ แต่อย่างไรก็ตาม ถือเป็นสิ่งที่ต้องรีบเร่งดำเนินการตัดสินใจ ก่อนที่ชายหาดในจังหวัดตรังจะเสียหายไปมากกว่านี้ เพราะแนวโน้มทั้งกระแสน้ำทะเล และอุณภูมิน้ำทะเลจะมีปริมาณ และความร้อนสูงขึ้น
ผศ.โกสินทร์ พัฒนมณี รองคณบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย (มศร.) วิทยาเขตตรัง กล่าวว่า ผลพวงจากสถานการณ์คลื่นกัดเซาะชายฝั่งที่มีความรุนแรงมากขึ้นในปีนี้ จนทำให้ชายหาดหลายแห่งในจังหวัดตรังเกิดความเสียหายเป็นบริเวณกว้างนั้น สามารถแก้ปัญหาได้ตามหลักวิชาการด้วยการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น เพียงแต่จะต้องทำการศึกษาว่ารูปแบบใดมีผลกระทบน้อยสิ่งสุด ไม่ว่าจะเป็นในด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายของทราย หรือในด้านสังคมที่อาจมีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกฝ่ายควรมาหารือร่วมกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ สถานการณ์คลื่นกัดเซาะชายฝั่งนั้นเกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้ว และแม้ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างประเทศญี่ปุ่น ก็ใช้การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นมาแก้ปัญหา เพียงแต่เรื่องของรูปแบบถือเป็นสิ่งที่นักวิชาการให้ความสำคัญมาก และต้องจัดสรงงบประมาณมาดำเนินการศึกษาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รูปแบบที่เหมาะสมต่อสภาพพื้นที่มากที่สุดจริงๆ ซึ่งอาจต้องใช้เวลา และอาจไม่สอดคล้องกับการตั้งงบประมาณ แต่อย่างไรก็ตาม ถือเป็นสิ่งที่ต้องรีบเร่งดำเนินการตัดสินใจ ก่อนที่ชายหาดในจังหวัดตรังจะเสียหายไปมากกว่านี้ เพราะแนวโน้มทั้งกระแสน้ำทะเล และอุณภูมิน้ำทะเลจะมีปริมาณ และความร้อนสูงขึ้น
