นครศรีธรรมราช - รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคหลังประชาชนได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และคลื่นลม พร้อมทั้งรับจะหางบประมาณเสริมแนวกันคลื่นให้มากขึ้น
วันนี้ (29 ธ.ค.) พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) ได้เดินทางไปยังตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จำนวน 300 ชุด ให้แก่ประชาชนหมู่ที่ 2 และ 3 ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรงเมื่อช่วงระหว่างวันที่ 23-26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 11 หลังคาเรือน และไม่สามารถนำเรือออกทำประมง
นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่าสถานการณ์ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ตำบลแหลมตะลุมพุกได้เกิดเหตุคลื่นลมแรง คลื่นกัดเซาะชายฝั่งมาตลอดถนน และบ้านเรือนเสียหาย ซึ่งจังหวัดได้จ่ายค่าชดเชยความเสียหายแก่ราษฎรเมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา จังหวัดได้ขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล เพื่อก่อสร้างแนวหินใหญ่ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลเพิ่มเติม จำนวน 2 โครงการ คือ ก่อสร้างบริเวณหมู่ที่ 1-4 ต.แหลมตะลุมพุก ยาว 4,400 เมตร สันบนกว้าง 2 เมตร ฐานกว้าง 6 เมตร สูง 2 เมตร เป็นเงิน 25,079,000 บาท และก่อสร้างบริเวณหมู่ที่ 1 และ 3 จำนวน 2 จุด ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก ก่อสร้างแนวหินระยะทางยาว 100 เมตร สันบนกว้าง 2 เมตร ฐานกว้าง 6 เมตร สูง 2 เมตร เป็นเงิน 2,544,000 บาท
ปัจจุบัน ยังคงเกิดคลื่นสูงประมาณ 3-5 เมตร และลมพัดแรงน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณพื้นที่หมู่ที่ 1-4 ต.แหลมตะลุมพุก ทำให้ถนนสายจากหมู่ที่ 1-4 เป็นเส้นทางไปปลายแหลมตะลุมพุกเกิดคลื่นกัดเซาะ น้ำท่วมขังไม่สามารถสัญจรได้ และหลังคากระเบื้องของราษฎรหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 3 ได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 11 หลังคาเรือน ขณะนี้เหตุการณ์ได้คลี่คลายลงแล้วแต่ยังคงเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เร่งหาทางช่วยเหลือเพิ่มเติมตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานให้ทราบ โดยชาวบ้านขอให้เพิ่มความสูงของสันเขื่อนหินขึ้นอีก 30 เซนติเมตร เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำข้อมูล และความต้องการที่ได้รับไปรายงานให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อหางบประมาณสนับสนุนในการก่อสร้างแนวกันคลื่นเพิ่มเติมต่อไป นอกจากนี้ ตนอยากให้มีการตั้งงบประมาณประจำเพื่อนำหินมาเพิ่มความสูงของสันเขื่อนในทุกๆ ปีด้วย
