กระบี่ - ส.อบต.ปกาสัย จ.กระบี่ ต้าน กฟผ.สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ แฉหนุนงบอื้อ หวังดึงกลุ่มมวลชนสนับสนุน ลดแรงต้าน
วันนี้ (30 ก.ค.) นายชลิต สุขโข ส.อบต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เตรียมที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในพื้นที่โรงไฟฟ้าเดิม ม.2 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดกระบวนการรับฝังความคิดเห็นของประชาชน โดยโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่มีกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของไทย ปี 2553-2573 ใช้ถ่านหินซับบิทูบินัส นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย และคาดว่าจะสามารถใช้ไฟฟ้าจากโรงงานแห่งใหม่นี้ได้ในปี 2562
ซึ่งในส่วนของชาวบ้านมองว่า โรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่กำลังจะสร้าง เชื่อว่าเมื่อเดินเครื่องแล้วจะมีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ และใกล้เคียงอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าเก่าที่มีการใช้ทั้งถ่านหิน และน้ำมันเตาในการผลิตกระแสไฟฟ้าก็มีปัญหามาตลอด ซึ่งก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข ทั้งทำให้น้ำฝนไม่สะอาด ดื่มกินไม่ได้ และทำให้ประชาชนเป็นโรคภูมิแพ้ และทางเดินหายใจกันมากขึ้น และนอกจากนี้ ยังส่งผลให้พืชเกษตรกรรมยางพารา และปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตลดลงด้วย ซึ่งก็ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีเพียงอย่างเดียวที่ชาวบ้านได้รับก็คือ งบประมาณสนับสนุนดูงาน และเที่ยว
นายชลิต กล่าวอีกว่า ขณะนี้พบว่า กฝผ.ทุ่มงบไม่อั้นลงไปยังกลุ่ม อสม.และกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ เพื่อที่จะเอาคนในพื้นที่มาเป็นพวกเพื่อลดแรงต้าน ให้การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ให้เป็นไปด้วยความราบรื่น ตนเชื่อว่า กฟผ.ทำดีเพื่อจะเอา และเมื่อได้ตามต้องการแล้ว ก็จะไม่เห็นหัวชาวบ้านอีกอย่างแน่นอน
และเป็นที่น่าสังเกตว่า จากการเปิดเวทีเสวนาเรื่อง ความต้องการพลังงานไฟฟ้าภาคใต้ กับโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการเกณฑ์ชาวบ้าน หมู่บ้านละ 10 คน จาก ต.คลองขนาน ต.คลองเขม้า ต.เหนือคลอง ต.เกาะศรีบอยา ต.ปกาสัย ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง ต.ลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา ต.ห้วยน้ำขาว ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม และเครือข่ายประมงพื้นบ้าน และส่วนราชการเข้าร่วม
“ซึ่งถ้าการไฟฟ้าฯ โปร่งใสจริง ก็อย่าจำกัดคน และพื้นที่ และต้องบอกข้อเสียของการสร้างโรงไฟฟ้าด้วย อย่าบอกเชิงข่มขู่ชาวบ้านเพียงว่าหากไม่มีโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ไฟฟ้าก็จะติดๆ ดับๆ อย่างนี้ตลอดไป เพราะพลังงานไม่เพียงพอ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนั้นเป็นมานานแล้ว ตั้งแต่โรงไฟฟ้าโรงเก่ายังผลิตกระแสไฟฟ้าได้ และที่เลวร้ายที่สุด ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งสาคร ต.ปกาสัย อยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้า ก็ยังไม่ได้ใช้ไฟฟ้าครบทุกครัวเรือน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้” นายชลิต กล่าว
วันนี้ (30 ก.ค.) นายชลิต สุขโข ส.อบต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เตรียมที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในพื้นที่โรงไฟฟ้าเดิม ม.2 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดกระบวนการรับฝังความคิดเห็นของประชาชน โดยโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่มีกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้าของไทย ปี 2553-2573 ใช้ถ่านหินซับบิทูบินัส นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย และคาดว่าจะสามารถใช้ไฟฟ้าจากโรงงานแห่งใหม่นี้ได้ในปี 2562
ซึ่งในส่วนของชาวบ้านมองว่า โรงไฟฟ้าแห่งใหม่ที่กำลังจะสร้าง เชื่อว่าเมื่อเดินเครื่องแล้วจะมีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ และใกล้เคียงอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าเก่าที่มีการใช้ทั้งถ่านหิน และน้ำมันเตาในการผลิตกระแสไฟฟ้าก็มีปัญหามาตลอด ซึ่งก็ไม่เคยได้รับการแก้ไข ทั้งทำให้น้ำฝนไม่สะอาด ดื่มกินไม่ได้ และทำให้ประชาชนเป็นโรคภูมิแพ้ และทางเดินหายใจกันมากขึ้น และนอกจากนี้ ยังส่งผลให้พืชเกษตรกรรมยางพารา และปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตลดลงด้วย ซึ่งก็ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีเพียงอย่างเดียวที่ชาวบ้านได้รับก็คือ งบประมาณสนับสนุนดูงาน และเที่ยว
นายชลิต กล่าวอีกว่า ขณะนี้พบว่า กฝผ.ทุ่มงบไม่อั้นลงไปยังกลุ่ม อสม.และกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ เพื่อที่จะเอาคนในพื้นที่มาเป็นพวกเพื่อลดแรงต้าน ให้การก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ให้เป็นไปด้วยความราบรื่น ตนเชื่อว่า กฟผ.ทำดีเพื่อจะเอา และเมื่อได้ตามต้องการแล้ว ก็จะไม่เห็นหัวชาวบ้านอีกอย่างแน่นอน
และเป็นที่น่าสังเกตว่า จากการเปิดเวทีเสวนาเรื่อง ความต้องการพลังงานไฟฟ้าภาคใต้ กับโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการเกณฑ์ชาวบ้าน หมู่บ้านละ 10 คน จาก ต.คลองขนาน ต.คลองเขม้า ต.เหนือคลอง ต.เกาะศรีบอยา ต.ปกาสัย ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง ต.ลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา ต.ห้วยน้ำขาว ต.คลองท่อมใต้ อ.คลองท่อม และเครือข่ายประมงพื้นบ้าน และส่วนราชการเข้าร่วม
“ซึ่งถ้าการไฟฟ้าฯ โปร่งใสจริง ก็อย่าจำกัดคน และพื้นที่ และต้องบอกข้อเสียของการสร้างโรงไฟฟ้าด้วย อย่าบอกเชิงข่มขู่ชาวบ้านเพียงว่าหากไม่มีโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ไฟฟ้าก็จะติดๆ ดับๆ อย่างนี้ตลอดไป เพราะพลังงานไม่เพียงพอ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนั้นเป็นมานานแล้ว ตั้งแต่โรงไฟฟ้าโรงเก่ายังผลิตกระแสไฟฟ้าได้ และที่เลวร้ายที่สุด ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านทุ่งสาคร ต.ปกาสัย อยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้า ก็ยังไม่ได้ใช้ไฟฟ้าครบทุกครัวเรือน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้” นายชลิต กล่าว
