กระบี่ - เกษตรกรเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ ม.1 ต.ปากน้ำ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ รับซื้อหมากสดนำมาผ่าตากแดดทำแห้งขาย สร้างรายได้เสริมวันละประมาณ 500-1,000 บาท
นางหนูคลิ้ง เอียดขาว อายุ 46 ปี เกษตรกรชาวสวนยางพารา บ้านเลขที่ 261 ม.1 ต.ปากน้ำ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ กล่าวว่า ตนมีอาชีพหลักก็คือทำสวนยางพารา และหลังจากที่เสร็จจากการกรีดยางในแต่ละวันก็มีเวลาว่างมาก จึงได้พยายามหาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว จึงได้ออกไปตระเวนซื้อหมากสดตามหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อนำมาตากแดดเมื่อแห้งแล้วก็นำมาผ่าส่งขายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อถึงบ้าน เพราะหากว่ารอรายได้จากการกรีดยางเพียงอย่างเดียวก็ไม่พอเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากบางช่วงฝนตกชุกติดต่อกันหลายวันไม่สามารถกรีดยางได้
นางหนูคลิ้ง กล่าวด้วยว่า เพื่อนบ้าน ม.1 บ้านปากน้ำ สวนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก คือทำสวนยางพารา ประมาณร้อยละ 90% และในช่วงเดือนมีนาคม ถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นช่วงที่หมากออกผลสุกมาก ชาวบ้านก็เก็บผลหมากสุกที่ปลูกไว้ตามเขตสวนของตนมาผ่าตากแห้งขายกันแทบทุกครัวเรือน เพื่อสร้างรายได้เสริมจากการกรีดยาง โดยมีพ่อค้าเข้ามารับซื้อในพื้นที่ในราคากิโลกรัมละประมาณ 30-40 บาท
สำหรับหมากสดที่ตนออกไปรับซื้อจากชาวบ้านในราคาประมาณ กิโลกรัมละ 5-10 บาท เมื่อนำมาตากแห้ง และผ่าเอาเฉพาะเมล็ดขาย ก็จะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสามารถผ่าหมากแห้งได้วันละประมาณ 10-20 กิโลกรัม คิดเป็นเงินประมาณ 500-1,000 บาท สำหรับราคาหมากแห้งเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ราคาผลหมากแห้งจะมีราคาสูงกว่า ตกประมาณกิโลกรัมละ 50-60 บาท แต่ในช่วงปี 55 ราคาตกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องผ่าหมากแห้งขายเพราะจะรอรายได้จากผลผลิตยางพาราอย่างเดียวไม่ได้เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำลงเรื่อยๆ
นางหนูคลิ้ง เอียดขาว อายุ 46 ปี เกษตรกรชาวสวนยางพารา บ้านเลขที่ 261 ม.1 ต.ปากน้ำ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ กล่าวว่า ตนมีอาชีพหลักก็คือทำสวนยางพารา และหลังจากที่เสร็จจากการกรีดยางในแต่ละวันก็มีเวลาว่างมาก จึงได้พยายามหาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัว จึงได้ออกไปตระเวนซื้อหมากสดตามหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อนำมาตากแดดเมื่อแห้งแล้วก็นำมาผ่าส่งขายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อถึงบ้าน เพราะหากว่ารอรายได้จากการกรีดยางเพียงอย่างเดียวก็ไม่พอเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากบางช่วงฝนตกชุกติดต่อกันหลายวันไม่สามารถกรีดยางได้
นางหนูคลิ้ง กล่าวด้วยว่า เพื่อนบ้าน ม.1 บ้านปากน้ำ สวนใหญ่ประกอบอาชีพหลัก คือทำสวนยางพารา ประมาณร้อยละ 90% และในช่วงเดือนมีนาคม ถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นช่วงที่หมากออกผลสุกมาก ชาวบ้านก็เก็บผลหมากสุกที่ปลูกไว้ตามเขตสวนของตนมาผ่าตากแห้งขายกันแทบทุกครัวเรือน เพื่อสร้างรายได้เสริมจากการกรีดยาง โดยมีพ่อค้าเข้ามารับซื้อในพื้นที่ในราคากิโลกรัมละประมาณ 30-40 บาท
สำหรับหมากสดที่ตนออกไปรับซื้อจากชาวบ้านในราคาประมาณ กิโลกรัมละ 5-10 บาท เมื่อนำมาตากแห้ง และผ่าเอาเฉพาะเมล็ดขาย ก็จะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสามารถผ่าหมากแห้งได้วันละประมาณ 10-20 กิโลกรัม คิดเป็นเงินประมาณ 500-1,000 บาท สำหรับราคาหมากแห้งเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ราคาผลหมากแห้งจะมีราคาสูงกว่า ตกประมาณกิโลกรัมละ 50-60 บาท แต่ในช่วงปี 55 ราคาตกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องผ่าหมากแห้งขายเพราะจะรอรายได้จากผลผลิตยางพาราอย่างเดียวไม่ได้เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำลงเรื่อยๆ