xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องเล่าจากบ้านอ่าวทราย (10) จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย...จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

สืบเนื่องจากกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ และนายกสภามหาวิทยาลัยทักษิณจะหมดวาระลงในเดือนมิถุนายน 2555 ตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยทักษิณว่าด้วยการสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ และการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัยให้มีคณะกรรมการสรรหาทำหน้าที่สรรหากรรมการฯ และนายกสภาฯ โครงสร้างของคณะกรรมการสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย อธิการบดี (อ.เกษม สุริยกัณฑ์/กรรมการ) ผู้อำนวยการสถาบันปฏิบัติการชุมชนเพื่อการศึกษาแบบบูรณาการ (ดร.สมศักดิ์ โชคนุกูล/กรรมการ) ผู้แทนคณาจารย์ประจำ(ผศ.สมชาย เลี้ยงพรพรรณ/กรรมการ) ผู้แทนพนักงานมหาวิทยาลัยซึ่งไม่ใช่คณาจารย์ประจำ (นายจรูญ หยูทอง/กรรมการ) หัวหน้าฝ่ายบริหารงานสภามหาวิทยาลัย (น.ส.จินตนา นาคจินดา/เลขานุการ)

ผู้เขียนได้รับเลือกตั้งจากพนักงานมหาวิทยาลัยที่ไม่ใช่คณาจารย์ประจำให้เป็นกรรมการสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ และกรรมการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัย หลังจากทราบผลการเลือกตั้ง ผู้เขียนได้หารือกับหลายคนถึงแนวทางในการดำเนินงานของคณะกรรมการสรรหาฯ โดยเฉพาะกรรมการสรรหาส่วนที่ไปจากการเลือกตั้ง ซึ่งประกอบด้วย ประธานสภาคณาจารย์ และพนักงาน นายกสมาคมศิษย์เก่าและผู้แทนคณาจารย์ประจำ เพราะเมื่อศึกษาข้อบังคับมหาวิทยาลัยทักษิณว่าด้วยการสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ และนายกสภามหาวิทยาลัยแล้ว ผู้เขียนข้อบังคับระบุเพียงว่าให้ส่วนงานวิชาการ ส่วนงานอื่น สมาคมศิษย์เก่า สำนักงานสภามหาวิทยาลัย สำนักงานมหาวิทยาลัยและสำนักงานวิทยาเขตใช้วิธีการประชุมเฉพาะกรรมการประจำส่วนงานและสำนักงานเพื่อเสนอชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือนายกสภามหาวิทยาลัย

ข้อบังคับไม่ได้ระบุให้ส่วนงานและสำนักงานเหล่านั้นรับฟังความคิดเห็นจากบุคลากรในส่วนงาน หรือสำนักงานโดยวิธีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะอันพึงมีพึงทำในกระบวนการสรรหาบุคคลเข้าสู่ตำแหน่งที่มีความสำคัญในการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยทั้งในฐานะผู้กำกับนโยบายและการสรรหาผู้บริหารมหาวิทยาลัยในระดับต่างๆ ในอนาคต นอกจากนั้น ข้อบังคับมหาวิทยาลัยว่าด้วยการสรรหากรรมการมหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิยังบัญญัติให้กรรมการสรรหาต้องให้มีกรรมการมหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาเสนอชื่อ 1 คนโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรองของคณะกรรมการสรรหา เสนอให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณาให้ความเห็นชอบเพื่อโปรดเกล้าฯ ต่อไป

เมื่อสอบถามประธานกรรมการสรรหาฯ ได้รับคำตอบว่า กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิของมหาวิทยาลัยในกำกับล้วนมีบทบัญญัติข้อนี้ทุกมหาวิทยาลัย (ยกเว้นมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์-ผศ.ดร.ณรงค์ บุญสวยขวัญบอก) แสดงให้เห็นถึง “ความไม่สมประกอบของวิธีคิดของคนที่ยกร่างข้อบังคับมหาวิทยาลัยทักษิณ” อีกประเด็นหนึ่งซึ่งเป็นประเด็นสำคัญทั้งในทางบริหาร หลักธรรมาภิบาลและความเสมอภาค ภราดรภาพในระบอบประชาธิปไตย เป็นการร่างกฎหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มเดียวที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรทั้งองค์กร ทำลายความชอบธรรมอีกหลายประการโดยไม่จำเป็นอย่างน่าเสียดาย และดูเหมือนจะไม่มีใครที่มีอำนาจวาสนาอยู่ก่อนหน้านี้ และในขณะนี้จะรู้ร้อนรู้หนาวต่อสิ่งที่น่าสมเพชเวทนานี้

เพื่อให้การสรรหากรรมการมหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิและการสรรหานายกสภามหาวิทยาลัยทักษิณยึดโยงกับประชาคมของมหาวิทยาลัยและเพื่อเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาคมในเวทีรับฟังความคิดเห็นสาธารณะตามหลักธรรมาภิบาล จึงควรจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากประชาคมมหาวิทยาลัย และให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอน วิธีการ และปฏิทินของการดำเนินการของคณะกรรมการสรรหาทั้ง 2 ชุด

ในการประชุมคณะกรรมการสรรหาฯครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2555 หลังจากเลือกตั้งผู้แทนจากคณาจารย์ประจำและผู้แทนพนักงานมหาวิทยาลัยที่ไม่ใช่คณาจารย์มาตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นเวลา 2 เดือนเต็ม ผู้เขียนจึงเสนอให้จัดเวทีประชาคมเพื่อชี้แจงขั้นตอน กระบวนการในการดำเนินงาน และรับฟังความคิดเห็นจากประชาคม โดยให้สภาคณาจารย์และพนักงานในฐานะหน่วยงานกลางของมหาวิทยาลัยอันเป็นผู้แทนอันชอบธรรมของบุคลากรทั้งหมดเป็นแม่งาน ที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว โดยเฉพาะประธานคณะกรรมการฯ รศ.ไพบูลย์ ดวงจันทร์, ดร.สมศักดิ์ โชคนุกูล, ผศ.สมชาย เลี้ยงพรพรรณ โดยเสนอให้นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยทักษิณร่วมเป็นเจ้าภาพดำเนินการด้วย โดยมหาวิทยาลัยจะอำนวยความสะดวกในการขอความร่วมมือไปยังส่วนงาน และสำนักงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดเวทีประชาคมในวันที่ 30 พฤษภาคม 2555 เวลา 09.00-12.00 น. ณ ชั้น 2 สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยทักษิณ โดยมีผู้เขียนเป็นผู้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็น ประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เป็นผู้ชี้แจงกระบวนการขั้นตอนการสรรหาฯ

ปัญหาของกระบวนการสรรหาในสถาบันอุดมศึกษาโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยทักษิณคือกระบวนการสรรหาไม่ยึดโยงกับประชาคมส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัย ผู้ได้รับการสรรหาถูกมองว่าเป็นพวกเดียวกันกับผู้สรรหา ถึงขนาดมีการเปรียบเปรยกันว่า อธิการบดีกับนายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ “ผลัดกันเกาหลัง” ให้กันและกัน ส่วนกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาคมเป็นเพียงพิธีกรรมหลอกเด็กเพื่อให้ดูดี มีวิสัยทัศน์ สักแต่ว่าทำพอให้ครบองค์เท่านั้น เนื่องจากคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณเคยเสนอผู้ที่ไม่ยอมมาแสดงวิสัยทัศน์ต่อประชาคมตามที่คณะกรรมการสรรหากำหนดให้สภามหาวิทยาลัยพิจารณารับรองเพื่อโปรดเกล้าฯ เป็นอธิการบดีมาแล้ว ประชาคมส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัยทักษิณจึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมเพราะคิดว่าพูดไปก็เท่านั้น คณะกรรมการฯฟัง “แต่ไม้ได้ยิน”

แต่สำหรับผู้เขียนกลับมองว่า ผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ ประชาคมจะต้องมีส่วนร่วมอย่างมีคุณภาพ แต่หากปฎิเสธที่จะมีส่วนร่วมไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็จะต้องทำใจยอมรับชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นตามมาจากผลอันนั้น

แต่จะทำอย่างไรดีกับสังคมที่คนส่วนใหญ่อยู่ในลักษณะ “เบื่อที่จะมีชีวิตอยู่ แต่ไม่กล้าพอที่จะตาย” (อายเมรุ)

(อ่านต่อวันอังคารที่ 15 พ.ค.)
กำลังโหลดความคิดเห็น