ตรัง - กลุ่มเอ็นจีโอ พร้อมชาวบ้าน 3 ตำบลใน อ.กันตัง จ.ตรัง กว่า 200 คน ยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ ขู่ภายใน 7 วัน หากยังเงียบเฉยจะบุกมาฟังคำตอบอีกครั้ง
วันนี้ (14 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.นางมล ณะสม ประธานเครือข่ายชุมชนรักบ้านเกิด พร้อมด้วย นายศักดิ์กมล แสงดารา ผู้ประสานงานฝ่ายกฎหมายของมูลนิธิอันดามัน นายไมตรี วิเศษศาสตร์ ประธานชมรมประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง รวมทั้งกลุ่มเอ็นจีโอ และชาวบ้านในพื้นที่ ต.บ้านแหลม ต.บางสัก ต.วังวน อ.กันตัง จำนวนกว่า 200 คน ได้นำป้ายผ้ามาเดินขบวนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 800 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ ต.วังวน อ.กันตัง บริเวณรอบตลาดสดเทศบาลเมืองกันตัง เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงพิษภัยของโรงไฟฟ้าถ่านหิน ก่อนจะไปชุมนุมประท้วงต่อที่หน้าที่ว่าการ อ.กันตัง เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ เพราะเกรงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อมาถึง กลุ่มผู้ประท้วงได้เปิดเวทีไฮด์ปาร์กผ่านเครื่องขยายเสียงที่ติดตั้งบนรถปิกอัพ สลับกับพูดโจมตีการดำเนินงานของ กฟผ.ที่สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อส.ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มารักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด
นายไมตรี วิเศษศาสตร์ ประธานชมรมรมประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าที่ผ่านมาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแถบลุ่มน้ำปะเหลียนมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก ทั้งทรัพยากรป่าชายเลนและประมง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำวัยอ่อนตามธรรมชาติที่ใหญ่มากใน จ.ตรัง และยังเป็นแหล่งอาหารหล่อเลี้ยงประชาชนแถบนี้มายาวนาน จนก่อเกิดการรวมตัวมาเป็นเครือข่ายจัดการทรัพยากรลุ่มน้ำปะเหลียน เพื่อจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการป่าชายเลนชุมชน ซึ่งปัจจุบันในลุ่มน้ำปะเหลียน มีจำนวน 11 ป่า หรือการอนุรักษ์หอยปะ หอยนางรม เป็นต้น
แต่จากสถานการณ์ในปัจจุบัน หลังจากที่ กฟผ.เข้ามาดำเนินการอยู่ในพื้นที่ระยะหนึ่ง โดยประสานงานกับผู้นำท้องถิ่น และหัวหน้าส่วนราชการใน อ.กันตัง ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันภายในพื้นที่ สร้างความขัดแย้งวงกว้างระหว่างประชาชนกันเอง
ด้วยเหตุนี้ทางเครือข่ายชุมชนรักบ้านเกิด จึงได้เสนอข้อเรียกร้องมายังนายอำเภอกันตัง และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 3 ข้อ คือ
1.ให้ กฟผ.ยุติกิจกรรมทุกอย่างที่สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในชุมชน และให้เปิดเวทีประชาพิจารณ์ เพื่อให้คนใน จ.ตรัง ได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาโครงการร่วมกัน และหากผลออกมาว่าส่วนใหญ่ไม่ต้องการ ก็ขอให้ยุติการดำเนินการทุกอย่างโดยทันที
2.ให้ยุติการข่มขู่ คุกคามประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำจากฝ่ายใดก็ตาม
และ 3.ขอให้นายอำเภอกันตัง หัวหน้าส่วนราชการ หรือผู้นำท้องถิ่น วางตัวเป็นกลางเกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมา อาจจะส่อเอนเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง
ต่อมา นายวิสิฐ ตั้งปอง นายอำเภอกันตัง ได้ลงมารับหนังสือจาก นางมล ณะสม ประธานเครือข่ายชุมชนรักบ้านเกิด อ.กันตัง พร้อมกับรับปากจะนำเรื่องส่งต่อให้ยังจังหวัดตรัง เพื่อพิจารณาต่อไป ทางกลุ่มผู้ประท้วงพอใจจึงสลายตัวในที่สุด แต่ได้ยื่นคำขาดว่า ภายใน 7 วัน จะกลับมารวมตัวฟังคำตอบอีกครั้ง
