ตรัง - อดีตแกนนำเผาอำเภอกันตัง พาม็อบต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน บุกทวงคำตอบจากนายอำเภอ ก่อนเคลื่อนพลมาหน้าศาลากลาง ย้ำคนกันตังสู้ไม่ถอย เตรียมจัดหนักก่อม็อบใหญ่
วันนี้ (20 มี.ค.) นายโอฬาร ชนะสงคราม อดีตแกนนำเผาวางเพลิงที่ว่าการอำเภอกันตัง ปี 2538 ซึ่งเพิ่งพ้นโทษจากคุก พร้อมกับ นายไมตรี วิเศษศาสตร์ แกนนำชมรมประมงพื้นบ้าน ได้นำชาวบ้านจากกลุ่มเครือข่ายชุมชนรักบ้านเกิด เครือข่ายประมงพื้นบ้าน เครือข่ายลุ่มน้ำปะเหลียน และชาวบ้านจาก ต.วังวน ต.กันตังใต้ ต.บางสัก อ.กันตัง อ.ปะเหลียน อ.หาดสำราญ และอ.สิเกา กว่า 200 คน เดินเท้าถือป้ายคัดค้าน และใช้รถยนต์ จำนวน 33 คัน เดินขบวนประท้วงคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาด 800 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ ต.วังวน อ.กันตัง ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) รอบเขตเทศบาลเมืองกันตัง
จากนั้น ได้เดินขบวนไปที่หน้าว่าการอำเภอกันตัง เพื่อติดตามความคืบหน้าจาก นายวิสิฐ ตั้งปอง นายอำเภอกันตัง หลังจากเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ยื่นหนังสือคัดค้าน พร้อมกับข้อเรียกร้อง 3 ข้อให้ กฟผ.ยุติการดำเนินกิจกรรมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ โดยนายอำเภอกันตัง ได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ กฟผ.กำลังเตรียมการศึกษาและพัฒนาโครงการโรงฟ้าแห่งใหม่ ซึ่งมีขั้นตอนดำเนินการ 7 ขั้นตอน ส่วนการประชาพิจารณ์ หรือกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสีย ตาม รธน.มาตร 67 วรรค 2 นั้น อยู่ในขั้นตอนที่ 5 ซึ่งขณะนี้ กฟผ.ยังดำเนินการไม่ถึงขั้นตอนดังกล่าว
ทั้งนี้ กฟผ.ไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความขัดแย้งในพื้นที่แต่อย่างใด ซึ่งการดำเนินการในขั้นตอนที่ 2 นั้นคือ การสร้างความรู้ความเข้าใจ และกิจกรรมการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้แก่ประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียอย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสได้รับข้อมูลข่าวสารจากทุกภาคส่วนอย่างครบถ้วนและรอบด้าน อันเป็นสิทธิพื้นฐานที่ประชาชนพึงได้รับ ซึ่งจะนำไปสู่การตัดสินใจในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวข้างต้นต่อไป
ส่วนข้อเรียกร้องให้ยุติข่มขู่คุกคามประชาชนในพื้นที่นั้น นายอำเภอกันตัง ชี้แจงว่า การดำเนินงานของ กฟผ.ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ นอกจากเป็นการดำเนินการตามกรอบนโยบายรัฐบาลแล้ว ยังต้องดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายต่างๆ อย่างเคร่งครัด อีกทั้ง กฟผ.ตระหนักดีว่า การได้รับการยอมรับจากภาคประชาชนในพื้นที่ ถือเป็นกลไกสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานของ กฟผ. ดังนั้น กฟผ.จึงได้ประสานงานกับหน่วยราชการ ส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชน เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง โดยมิได้กระทำการข่มขู่ หรือคุกคามแต่อย่างใด
สำหรับข้อเรียกร้องให้หน่วยงานวางตัวเป็นกลางนั้น นายอำเภอกันตัง ชี้แจงว่า ตนในฐานะเป็นข้าราชการ หากโครงการของรัฐบาลเข้ามาดำเนินการในพื้นที่ ก็ต้องให้การสนับสนุน แต่หากโครงการนั้นได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ตนก็ไม่เอาเช่นกัน และยืนยันพร้อมจะอยู่เคียงข้างต่อสู้กับประชาชนต่อไป ซึ่งล่าสุดได้เรียก กฟผ.และผู้เกี่ยวข้อง กว่า 60 คน มาชี้แจงทำความเข้าใจในข้อเรียกร้องที่ชาวบ้านคัดค้านแล้ว ว่าตนเป็นเพียงคนกลางประสานงาน ส่วนอำนาจในการตัดสินใจขึ้นอยู่กับภาคประชาชนเป็นหลัก
ด้าน นายโอฬาร ชนะสงคราม แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนเข้าใจความรู้สึกของนายอำเภอกันตัง เป็นอย่างดี แม้จะยืนยันความบริสุทธิ์ใจที่จะอยู่เคียงข้างกับประชาชน แต่ก็คงไม่มีอำนาจที่จะตัดสินใจเด็ดขาดได้ เพราะขนาด นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป.และ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล ส.ส.ตรัง ที่เป็นนักการเมืองในพื้นที่ ยังหนีหน้าหายหมด ปล่อยให้ประชาชนต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวและบอบช้ำท่ามกลางอิทธิพล แต่คนกันตังจะสู้ไม่ยอมถอย และไม่ยอมจบ หากยังมีการบีบคั้นชาวบ้านอีก ยืนยันว่า จะรวมตัวครั้งใหญ่อีกครั้ง และยื่นคำขาดไม่ให้ กฟผ.เข้ามาดำเนินการใดในพื้นที่
ทั้งนี้ มีรายงานว่า หลังนายอำเภอกันตัง ชี้แจงข้อเรียกร้องที่ กฟผ.ตอบกลับมายัง นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง แล้วกลุ่มผู้ประท้วงต่างลุกฮือแสดงความไม่พอใจ และจะไม่ยอมให้ กฟผ.เข้ามาดำเนินการใดในพื้นที่อีก แม้กระทั่งการเปิดเวที ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนมายังหน้าศาลากลาง จ.ตรัง และเดินทางกลับในเวลา 16.30 น.โดยไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ท่ามกลางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส.ตรึงกำลังอย่างเข้มงวด เนื่องจากแกนนำเป็นถึงอดีตมือเผาที่ว่าการอำเภอกันตัง
