สุราษฎร์ธานี - ชาวประมงพื้นบ้านใน ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีเฮมีรายได้วันละกว่า 2,000 บาท หลังร่วมกันอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าชายเลนให้กลับมาสมบูรณ์กลายเป็นแหล่งขยายพันธ์สัตว์น้ำทุกชนิด
วันนี้( 09 มีนาคม2555 ) นายประเสริฐ ชัญจุกรณ์ กำนันตำบลลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการที่ผู้นำชุมชนร่วมกันกับชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนในพื้นที่ตำบลลีเล็ดตั้งแต่ปี2545เป็นต้นมา เพื่อเป็นแหล่งพื้นที่ขยายพันธุ์สัตว์น้ำทุกชนิด พร้อมทั้งรณรงค์ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า การทิ้งเลนขี้กุ้งและสารเคมีลงไปในลำคลอง ควบคุมเรือใช้เครื่องทำการประมงที่ผิดกฎหมาย เช่น การช็อตปลา การเบื่อปลา เรืออวนลาก อวนรุน ไม่ให้เข้าทำการประมงในเขตอนุรักษ์
ทำให้ป่าชายเลนขยายพื้นที่จากจำนวน 5,085 ไร่เป็น 8,000 ไร่ จนเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทุกชนิดและเป็นพื้นที่แห่งเดียวในประเทศไทยที่ป่ารุกทะเล ประกอบกับชาวบ้านได้หันมาใช้เครื่องมือทำการประมงจับสัตว์ด้วยวิธีภูมิปัญญา ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและไม่ทำลายสัตว์น้ำในวัยอ่อน ส่งผลให้สัตว์น้ำทุกชนิดมีความอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา เป็นต้น โดยเฉพาะปลาดุกทะเลมีชุกชุมมาก ส่งผลให้ชาวบ้านในพื้นที่กว่าร้อยละ 80 ที่ประกอบอาชีพชาวประมงพื้นบ้าน มีรายได้วันละกว่า 2,000 บาท จากการจับสัตว์น้ำขึ้นมาจำหน่าย
นายประเสริฐ ยังได้กล่าวอีกว่า จากที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมมือกันอนุรักษ์จนประสพผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งในอนาคตสัตว์น้ำจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นและทุกคนมีความประทับใจที่คนเคยเป็นผู้ทำลายแต่ได้หันกลับมาเป็นผู้อนุรักษ์และหวงแหน ถือว่าเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับชาวตำบลลีเล็ด
