xs
xsm
sm
md
lg

ตัวตนของคนใต้/จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ : คนคาบสมุทรมลายู
โดย…จรูญ หยูทอง-แสงอุทัย

นิสัยใจคอและบุคลิกภาพของคนใต้มีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นจนเป็นที่รับรู้ของคนต่างถิ่น ดังที่สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมหลวงภาณุพันธุ์วงศ์วรเดชบันทึกถึงว่า “ชาวนอก” อันหมายถึงชาวภาคใต้…พูดภาษาไทยก็เป็นเสียงชาวนอกแลมักมีกิริยา…ท่าทางเป็นคนเรียบร้อย หงิมๆ และเป็นคนมีกิริยาโบราณแลกิริยาป่าๆ”

ลักษณะนิสัยและบุคลิกที่เด่นๆ ของคนใต้ ได้แก่ “…พูดจาโต้ตอบตรงไปตรงมา โผงผาง ไม่ถนอมน้ำใจหรือรักษามารยาทในการพูดกับคู่สนทนา เจรจาโต้ตอบเฉียบแหลม ไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ…ชอบแสดงตนว่าเป็นคนกว้างขวาง…กล้าได้กล้าเสีย…รักศักดิ์ศรีและพิทักษ์พวกพ้องเครือญาติ…ไม่กระตือรือร้น…ชอบทำตัวเป็นหัวเรือใหญ่หรือเป็นนักเลง คำนึงประโยชน์เฉพาะหน้าและเอาตัวรอด รักสนุก เกียจคร้าน ชอบจับกลุ่ม…ผูกพันกับตัวบุคคล…รักและผูกพันกับถิ่นกำเนิด (ชวน เพชรแก้ว. 2534 : 103)

วัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของคนใต้ มีลักษณะเฉพาะออกไปจากภาคอื่นๆ มาทุกยุคทุกสมัย จนได้รับการยอมรับว่าคนใต้มีความตื่นตัวทางการเมืองสูง และมีทัศนคติทางการเมืองที่ทันสมัย เช่น เลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองเดียวกันเกือบทั้งภาค เลือกพรรคการเมืองเก่าแก่คือพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด
นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งคนใต้ให้การสนับสนุนเป็นฐานคะแนนเสียงหลักมาหลายสิบปี
โดยเฉพาะนับตั้งแต่ นายชวน หลีกภัย นักการเมืองผู้เป็นที่ภาคภูมิใจของคนใต้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และพรรคมีนโยบายชูประเด็น “สนับสนุน นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี” หรือ “นายกรัฐมนตรีคนใต้” จนเกิดกระแส “ชวนฟีเวอร์”ไปทั่วภาคใต้ ถึงขนาดที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์รุ่นใหม่ในบางจังหวัดกล้าประกาศว่า “พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้าหรือเอาอะไรลงสมัครเลือกตั้งในภาคใต้ก็ชนะหรือได้รับเลือกตั้งทั้งนั้น” แม้แต่นายวีระ(กานท์) มุสิกพงศ์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ที่เดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ในยุคหลังถึงกับยอมรับความพ่ายแพ้อย่างน่าสงสารว่า “ผมแพ้เสาไฟฟ้าและหลักกิโลครับพี่น้อง”

สังคมปักษ์ใต้เป็นสังคมเครือญาติใคร มีญาติมากก็มีพวกมากสามารถทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก้าวเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ระบบเครือญาติมีที่มาทั้งญาติที่สืบสายโลหิต การผูกดองเพื่อขยายอิทธิพลและผลประโยชน์ตามภูมิปัญญาการขยายอำนาจการปกป้องตนเองและเครือญาติ เช่นเดียวกับการผูกเกลอเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับคนนอกสายเลือดให้แน่นแฟ้นถึงขนาดตายแทนกันได้ นอกจากนั้นระบบอุปถัมภ์ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการสร้างบารมีทางการเมือง

คนใต้มีคตินิยมดั้งเดิมเป็นคนนักเลง ศรัทธาในศาสนา ต่อต้านอำนาจรัฐ เชื่อในไสยศาสตร์และเครื่องรางของขลังและเคร่งครัดในจารีตทางเพศ ความเป็นคนนักเลงแสดงออกโดยการเป็นคนมือใหญ่ใจกว้าง กล้าได้กล้าเสีย ยอมฉิบหายขายนาเพื่อไม่ให้เสียหน้าเสียชื่อ นำเอาคำสอนทางศาสนามาเป็นแนวประพฤติปฎิบัติในชีวิตประจำวัน นิยมให้บุตรหลานบวชเรียนเป็นคนสุกก่อนจะมีครอบครัว มีคตินิยมต่อต้านอำนาจรัฐ ไม่เชื่อมั่นว่ารัฐหรือระบบราชการจะช่วยเหลือตนเองได้ ชอบพึ่งพากันเอง ดังจะเห็นได้จากคำกล่าวที่ว่า “นายรักเหมือนเสือกอด หนีนายรอดเหมือนเสือหา”หรือ “ไม่รบนายไม่หายจน” และกระบวนการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยตลอดจน “วัฒนธรรมโจร”ใ นยุคก่อน
ท่านพ่อแช่ม วัดฉลอง จ.ภูเก็ต
ความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เครื่องรางของขลัง ดังจะเห็นได้จากการนับถือทวด ผีบรรพบุรุษ ตายาย ครูหมอโนรา ตลอดจนพระเครื่อง เกจิอาจารย์ดังๆ อาทิ พ่อท่านคล้ายวัดสวนขัน หลวงพ่อทวดวัดช้างให้ พ่อท่านปลอดวัดหัวป่า พ่อท่านสงวัดปากบางภูมี พ่อท่านคงวัดธรรมโฆษ พ่อท่านแช่มวัดฉลอง เป็นต้น

ในส่วนของคตินิยมความเคร่งครัดในจารีตทางเพศ จะเห็นได้จากตำนานโนราที่ถูกลอยแพเพราะท้องไม่มีพ่อ ซึ่งคนใต้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ แม้แต่การแสดงหนังตะลุงที่คู่พระนางจะได้เสียกันในป่าใน เขาก็จะบันดาลให้มีขนำร้างกลางป่าเพื่อไม่ให้คู่พระคู่นางอันเป็นวีรบุรุษวีรสตรีของผู้ชมโดยเฉพาะกุลบุตรกุลธิดาได้เสียกันบนพื้นดินพื้นหญ้า ซึ่งเชื่อว่าเป็นการกระทำเยี่ยงเดรัจฉานและลูกที่เกิดมาก็จะมีวิญญาณของเดรัจฉานโดยปริยาย

แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาคงเป็นคนใต้ในอดีต คนใต้ในยุคที่ยังไม่เปิดรับวัฒนธรรมพลัดถิ่นที่หลั่งทะลักเข้ามาพร้อมระบบการจัดการศึกษาแบบสมัยใหม่ ระบบราชการสมัยหลังการปฏิรูปของรัชกาลที่ 5 และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตามนโยบายการทำให้ทันสมัย (modernization) หรือการทำให้เป็นสมัยใหม่หรือการทำให้เป็นประเทศตะวันตก(westernization)

ปัจจุบันคนใต้ก็คงเหมือนกับคนในประเทศด้อยพัฒนาหรือประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก ไม่ว่าจะในเอเชีย อาฟริกา อเมริกาใต้และหมู่เกาะต่างๆ คือถูกกลืนกลายด้วยวัฒนธรรมบริโภคนิยมแบบตะวันตก สูญเสียฐานที่มั่นทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองและวัฒนธรรม โดยเฉพาะคตินิยมความเคร่งครัดในทางเพศ ดังจะเห็นได้จากการปรับทุกข์ของแม่ที่มีลูกสาว 3 คน กับแม่ที่มีลูกสาวคนเดียว โดยแม่ที่มีลูกสาว 3 คนเปรยกับแม่ที่มีลูกสาวคนเดียวว่า “กลุ้มใจจัง มีลูกสาว 3 คนแต่ยังไม่ได้ลูกเขยแม้แต่คนเดียว” แม่ที่มีลูกสาวคนเดียวสวนกลับทันควันว่า “ผิดกับเรามีลูกสาวคนเดียวแต่ได้ลูกเขย 3 คนแล้ว”

นี่คือธาตุแท้ที่อยู่หลังปรากฏการณ์ทางสังคมในทุกๆด้านของคนใต้ ดังนั้น หากใครจะคบค้าสมาคมกับคนใต้และคนในประเทศด้อยพัฒนาทั่วโลกจะต้องเข้าใจว่าคนเหล่านี้มีภูมิหลังหรือความเป็นมาทางประวัติศาสตร์อย่างไรและกำลังอยู่ในอิทธิพลของวัฒนธรรมร่วมสมัยแบบใด และระหว่างคนรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายกับคนรุ่นลูกหลานเหลนโหลน ก็มีระบบความสัมพันธ์ทางสังคมและวัฒนธรรมแตกต่างกันชนิดที่เรียกว่า “พระเจ้าคนละองค์” “เลือกพรรคการเมืองคนละพรรค” เลยทีเดียวแหละครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น