ตรัง - หลายฝ่ายจับตามองผู้ว่าราชการจังหวัดตรังคนใหม่ โดยมี 3 เรื่องสำคัญที่ท้าทายให้สะสางเพื่อพิสูจน์ฝีมือ ทั้งศรีตรังเกมส์ สร้างพระบรมรูป ร.5 และประมูลรังนก
จากกรณีที่ นายไมตรี อินทุสุต รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นชาวสระบุรีและยังเหลืออายุราชการอีกนานถึง 7 ปีได้รับการแต่งตั้งให้มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง คนที่ 36 แทน นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ที่เพิ่งจะเกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2552 ที่ผ่านมานั้น
วันนี้ (1 ต.ค.) นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนอยากได้ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ที่มาอยู่ทำงานในจังหวัดตรังเต็มเวลา 4 ปี รวมทั้งมีความรู้ ความสามารถ ตลอดจนเข้าใจจังหวัดตรังเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องภูมิประเทศ และเรื่องชีวิตจิตใจของคนตรัง มิใช่มาอยู่จังหวัดตรังเพียงแค่พักชั่วคราว เพื่อรอไปสู่ตำแหน่งอื่น หรือมารอเกษียณอายุราชการ อย่างที่เคยเจอมาแล้วหลายคน ตลอดจนไม่คิดเข้ามาเพื่อกอบโกยหาผลประโยชน์ด้วย
ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนเองอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังคนใหม่ เข้ามาเร่งดำเนินการก็คือ เรื่องของการพัฒนาในด้านต่างๆ รวมทั้งเรื่องการส่งเสริมอาชีพ เรื่องการสร้างรายได้ และแก้ปัญหาเรื่องที่ทำกิน ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท้ายที่สุดแล้วจะสมใจอย่างที่หวังหรือไม่ แต่ทางฝ่ายการเมืองไม่ขอเข้าไปยุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เป็นเรื่องของฝ่ายข้าราชการประจำ และจะทำการจับตามองว่าออกมาเป็นเช่นไร
นายวิเชียร คันฉ่อง สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตรัง กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังแต่ละคนก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ดี และคงไม่สามารถหาผู้ใดที่จะถูกใจ 100% ได้ เพียงแค่ขอให้เป็นคนดี โดยไม่จำเป็นต้องเป็นคนเก่ง แต่เน้นเรื่องความซื่อสัตย์ ส่วนจะเป็นใครมาจากไหนอย่างไรไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่เมื่อมารับตำแหน่งแล้วขอให้ยึดถือผลประโยชน์บ้านเมือง อย่าเพียงเข้ามาเพื่อพักร้อนหรือรอเกษียณอายุ แต่ต้องคิดทำอะไรเพื่อแผ่นดินที่ตนเองย้ายมาทำงาน และอยากให้ชาวตรังทุกคนช่วยสอดส่องดูแลผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภาระที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตรังคนใหม่จะเข้าต้องเข้ามาดำเนินการสานต่อให้เกิดความเรียบร้อยโดยเร็ว มีอยู่ 3 เรื่องหลัก คือ เรื่องการรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 28 ศรีตรังเกมส์ ระหว่างวันที่ 24-28 ตุลาคม เรื่องการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าศาลากลางหลังเก่า ซึ่งหลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านอย่างหนักว่า เป็นสถานที่ไม่เหมาะสม ไม่สมพระเกียรติ และงบประมาณ 9.8 ล้านบาท ไม่โปร่งใส รวมทั้งเรื่องการสัมปทานรังนกอีแอ่นจังหวัดตรัง ที่หมดสัญญาไปเมื่อวันที่ 29 กันยายน แต่ยังหาผู้สัมปทานรายใหม่ไม่ได้