ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาร่วมกับโรงเรียนวชิรานุกูลลงนามความร่วมมือในการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ณ โรงเรียนวชิรานุกูล
ผศ.ดร.ไพโรจน์ ด้วงวิเศษ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา พร้อมด้วย ผศ.ดร.ประสิทธิ์ สังขมณี รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ผศ.ดร.ฆนัท ธาตุทอง คณบดีคณะครุศาสตร์ และคณาจารย์ คณะครุศาสตร์ ร่วมลงนามบันทึกตกลงความร่วมมือกับโรงเรียนวชิรานุกูล นำโดย ดร.ดนุพล สุนทรัตน์ ผู้อำนวยการ นางอุ่นเรือน สุนทรัตน์ ผู้จัดการ และอาจารย์โรงเรียนวชิรานุกูลร่วมเป็นสักขีพยาน
โดยการลงนามในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงการประสานความร่วมมือ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ให้มีคุณสมบัติ มีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2548 และเป็นผู้นำในการปฏิรูปการศึกษา
สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือมีใจความสรุป คือ โรงเรียนวชิรานุกูลและมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาจะร่วมกันพัฒนาครูผู้สอนให้ได้รับวุฒิประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู โดยจัดหลักสูตรซึ่งได้รับการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยและคุรุสภา ตามข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2548 จัดกระบวนการเรียนรู้ครอบคลุมมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ โดยเน้นพัฒนาจากการปฏิบัติงานจริง ติดตาม นิเทศ และประเมินผลงาน ณ สถานที่ปฏิบัติงานหรือสถานศึกษาของผู้รับการพัฒนา โดยโรงเรียนวชิรานุกูลจัดสรรเงินค่าลงทะเบียนเป็นเงินอุดหนุนแก่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา เพื่อพัฒนาครูแบบเหมาจ่ายเป็นรายบุคคลคนละ 30,000 บาท ตลอดหลักสูตร ดำเนินการจัดชั้นเรียนและอุปกรณ์ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอนตามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลากำหนด
ผศ.ดร.ไพโรจน์ กล่าวว่า โครงการความร่วมมือในการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาได้ลงนามความร่วมมือกับโรงเรียนต่าง ๆ ทั้งใน จ.สงขลา และ อ.หาดใหญ่ ซึ่งความร่วมมือนี้จะเป็นการพัฒนาครูไปด้วย เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน โดยระยะเวลาหนึ่งปี หากผู้เรียนให้ความสำคัญเชื่อว่าจะได้รับความรู้ และคุณลักษณะของการเป็นครูที่ดีได้อย่างมาก
“ในหนึ่งปี ให้สังเกตในสิ่งที่เขาได้รับ ติดตามประเมินผลว่าสิ่งที่เรียนสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่ หาก ทุกอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แสดงว่าโครงการของเรามีประสิทธิภาพ มองไปข้างหน้าคิดว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน” อธิการบดีกล่าว