xs
xsm
sm
md
lg

สมศ.ชี้การศึกษาทุกระดับวิกฤตอนุบาลถึงประถม “ครู” ไร้คุณภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมศ.ชี้ การศึกษาไทยทุกระดับตั้งแต่อนุบาลถึงอุดมศึกษา ประสบปัญหาคุณภาพครูอย่างหนัก แนะปฏิรูปการศึกษารอบสองมุ่งเน้นที่การผลิตและพัฒนาครูเป็นหลัก เสนอให้ทุนเด็กที่ได้คะแนนโอเน็ตอันดับ 1-10 เข้าเป็นครูและนับอายุราชการตั้งแต่เริ่มเรียน โดยปรับหลักสูตรครูให้เรียนวิชาหลักก่อนแล้วเรียนวิชาชีพครู 1-2 ปี จี้ “จุรินทร์” ฟันธงแนวทางพัฒนาครูใน 1 เดือน


นายสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า จากการประเมินมาตรฐานภายนอกสถานศึกษาของ สมศ.ในรอบสอง พบว่าขณะนี้การศึกษาไทยในทุกระดับตั้งแต่อนุบาล ประถม มัธยม อาชีวศึกษา จนถึงระดับอุดมศึกษา ล้วนต้องประสบปัญหาเดียวกันคือ คุณภาพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา โดยเฉพาะในสถาบันอุดมศึกษาที่มีการเปลี่ยนสถานภาพ หรือที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ไม่มีการเตรียมพร้อมในเรื่องคุณวุฒิของคณาจารย์ที่ดีเพียงพอ อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฏ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล

นายสมหวัง กล่าวต่อว่า ประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่จะต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการปฏิรูปการศึกษารอบสอง ที่ต้องเน้นไปที่หมวด 4, 6, 7 และ 9 ตามมาตรฐานเกณฑ์ชี้วัดคุณภาพของ สมศ.คือ การให้ความสำคัญกับการปรับวิธีการเรียนการสอน พัฒนาครู ให้เป็นครูที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตใจรักในวิชาชีพครู การสอนต้องดึงเทคโนโลยีและสื่อที่มีคุณภาพเข้ามาช่วยสนับสนุนการสอน เพื่อให้นักเรียนได้รู้จักการเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดชีวิต นอกจากนั้นจะต้องมีการประกันคุณภาพ เพื่อให้การดำเนินการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

“ประเด็นสำคัญในการปฏิรูปการศึกษารอบสอง ไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนอะไรมาก แต่ควรจะเน้นหนักไปที่การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพของครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ผลิตครูแนวใหม่ให้เรียนเนื้อหาหลักๆ อาทิ เรียนในคณะวิทยาศาสตร์ อักษรศาสตร์ ก่อนแล้วค่อยไปเรียนวิชาครูต่ออีก 1-2 ปี และต้องให้ทุนกับเด็กเก่ง เช่น นักเรียนที่สอบได้คะแนนโอเน็ตอันดับที่ 1-10 ของจังหวัด ได้ทุนเรียนต่อในคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ และประกันงานให้กับเด็กกลุ่มนี้โดยให้นับอายุราชการตั้งแต่วันแรกที่เข้าเป็นนิสิต นักศึกษา เช่นเดียวกับระบบที่ใช้กับวิชาชีพทหาร” นายสมหวัง กล่าว

ผอ.สมศ.กล่าวอีกว่า ตนคิดว่า หากรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาครู สิ่งแรกที่จะต้องเริ่มดำเนินการ คือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ จะต้องฟันธงภายใน 1 เดือน ในประเด็นต่างๆ ที่ยังค้างคาอยู่ อาทิ การปรับเปลี่ยนเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะใหม่ที่ได้ปรับแก้ไว้สมัยที่นายวิจิตร ศรีสอ้าน ดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ การจัดตั้งสถาบันผลิตและพัฒนาครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา การจัดตั้งนโยบายการผลิตและพัฒนาครู เป็นต้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่ รมว.ศึกษาธิการ จะต้องให้ความสำคัญและดูแลอย่างจริงจัง เพราะถือเป็นความเป็นความตายของประเทศชาติ หากวงการศึกษาไทยยังได้ครูไม่ดี ไม่อยากเป็นครูเข้ามาสอนแล้วการศึกษาจะพัฒนาได้อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น