ตรัง - นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมบรรยายแนวนโยบายด้านยางพาราของภาครัฐ ในการอบรมหลักสูตรการเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดยางพาราในสถาบันเกษตรกร
วันนี้ (14 มี.ค.) ที่โรงแรมวัฒนาพาร์ค จังหวัดตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมบรรยายพิเศษเรื่อง แนวนโยบายด้านยางพาราของภาครัฐ ในการอบรมหลักสูตรการเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดยางพาราในสถาบันเกษตรกร ให้แก่เกษตรกร ผู้นำสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการตลาดยางพารา รวมจำนวน 150 คน
ทั้งนี้ จังหวัดตรัง พื้นที่ทำการเกษตรส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกยางพารา คิดเป็นร้อยละ 90.37 ของพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด แต่ปัญหาที่พบขณะนี้คือ เกษตรกรยังประสบปัญหาด้านราคาตกต่ำ และขาดเสถียรภาพของราคา ส่วนเกษตรกรก็ขาดการรวมตัวเพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ขณะที่สถาบันเกษตรกรยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ
ดังนั้น จังหวัดตรังจึงได้อนุมัติโครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดตรัง ประจำปี 2552 เพื่อให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรัง จำนวน 790,000 บาท เพื่อนำไปดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์การตลาดแผ่นเหล็กรองยาง (พาเลส) และสนับสนุนการดำเนินงานแก่สถาบันเกษตรกรทั้ง 2 แห่ง ตลอดจนดำเนินการจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร ผู้นำเกษตรกรชาวสวนยางพารา ผู้นำสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการตลาดยางพารา
นายสาทิตย์ กล่าวว่า ในส่วนของรัฐบาล ขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ปล่อยเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยให้กับสหกรณ์การเกษตรต่างๆ จำนวนวงเงิน 8,270 ล้านบาท โดยให้สหกรณ์กู้ เพื่อนำไปซื้อน้ำยางสด และยางแผ่นดิบ จำนวน 200,000 ตัน ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่บัดนี้ไป จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2552 เพื่อนำไปรักษาระดับปริมาณความต้องการซื้อขายไว้ให้ได้
ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีการเก่าที่เคยใช้ในอดีตแทนวิธีการแทรกแซงตลาดยางพารา โดยการซื้อมากักตุนไว้ เมื่อถึงเวลาจำหน่ายออกยางพารากลับมีปัญหาด้านคุณภาพขายไม่ได้ราคา และหากสิ้นเดือนธันวาคม 2552 แล้ว สถานการณ์ด้านยางพารายังไม่ดีขึ้น รัฐบาลก็จะขยายเวลาของวงเงินนี้ต่อไปอีก แต่วิธีการนี้เป็นวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่หลักวิธีการแก้ปัญหาที่แท้จริงคือ จะต้องมีวิธีการควบคุมราคายางพาราไม่ให้เกิดการผันผวน
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ในระยะสั้น 2 ปีนี้ ราคายางพาราจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของโลก โดยเฉพาะสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา หากใน 2 ปียังมีปัญหาหนัก จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ยางพาราในบ้านเราอย่างแน่นอน
นอกจากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะอนุกรรมการพิจารณางบพัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ดังนั้น ในปี 2552 จึงได้ผลักดันงบประมาณลงมายังพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นในส่วนของจังหวัดตรัง 200 ล้านบาท
เพื่อนำมาพัฒนาด้านภาคการเกษตรเพียงอย่างเดียว ส่วนสหกรณ์ต่างๆ ในปีนี้ไม่สามารถเสนอโครงการได้แล้ว ต้องรอในปีงบประมาณ 2553 จึงก็ขอให้แต่ละแห่งไปเตรียมการ เพื่อเสนอจังหวัดตรัง ในปีงบประมาณหน้า ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะมีงบประมาณในส่วนนี้ 30,000 ล้านบาท