xs
xsm
sm
md
lg

ส.ส.ปชช.นครศรีฯค้านย้าย ผบก.นครศรี หลังทำงานเข้าตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นครศรีธรรมราช - ส.ส.นครศรีถกคัดค้านโยกย้าย ผบก.นครศรี – หลังนั่งในตำแหน่งแค่ 4 เดือน เจอพิษลุยอิทธิพลหนัก "ชิณวรณ์" เผยต่อสายตรง"เทพเทือก"ดึงกลับที่เดิม - ชาวบ้านเตรียมฮือนั่งตำแหน่งปราบอิทธิพลมืดต่อ

วันนี้ (9 ก.พ.) ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน ส.ส.ได้เรียกประชุม ส.ส.นครศรีธรรมราช ซึ่งประกอบด้วยนายสัมพันธ์ ทองสมัคร น.ส.นริสา อดิเทพวรพันธ์ นายอภิชาต การิกาญจน์ นายสุรเชษฐ์ มาศดิษฐ์ และน.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล โดยมีนายภาณุ อุทัยรัต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าร่วมเพื่อร่วมหารือกรณีแนวทางการพัฒนานครศรีธรรมราช

พร้อมทั้งกรณีโผการโยกย้าย พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนว่าถูกกลั่นแกล้งจากอิทธิพลมืด หลังได้ปฏิบัติหน้าปราบปรามอิทธิพลมืดในจังหวัดนครศรีธรรมราชอย่างหนัก จนเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน และส่งผลให้คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญลดลงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน รวมทั้งพฤติกรรมความก้าวร้าวและการแสดงอำนาจบาดใหญ่ของผู้กว้างขวางบางรายต้องลดบทบาท เนื่องจากการกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งการจู่โจมตรวจค้น และติดตามคดีรุนแรงต่างๆอย่างที่ไม่เคยมีตำรวจระดับสูงของนครศรีธรรมราช กล้าปฏิบัติมาก่อน

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน ส.ส.เปิดเผยภายหลังจากการรับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มประชาชน และกลุ่มสื่อมวลชน นครศรีธรรมราช เพื่อขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนการโยกย้าย พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อในหลายคดี และอาจส่งผลถึงขั้นคดีล้มก็เป็นได้

นายวิทยา กล่าวว่า ในเรื่องนี้ ส.ส.นครศรีธรรมราช ทั้งหมดรับฟังและจะต้องพิจารณาถึงความต้องการของประชาชน ซึ่งเรื่องที่ได้รับนี้จะนำเสนอต่อผู้มีอำนาจในการพิจารณาให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน

สำหรับกรณีการโยกย้าย มีรายงานว่า พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในโผการโยกย้ายนายพลตำรวจ โดยจะถูกโยกย้ายไปเข้ากรุในตำแหน่ง ผบก.อก.ภาค 8 และย้าย พล.ต.ต. อภิรักษ์ หงส์ทอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต มาดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช แทน ทั้ง ๆ ที่ พล.ต.ต.สราวุธ เพิ่งมารับตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เพียง 4 เดือนเศษเท่านั้น

ทั้งนี้ ต่างมองว่าสาเหตุการย้ายในครั้งนี้ น่าจะมาจากนโยบายการปราบปราบผู้มีอิทธิพล และยาเสพติด และดำเนินคดีกับผู้มีอิทธิพลจนเป็นข่าวโด่งดังหลายคดี จนมีผลงานเป็นที่ชื่นชมของประชาชนทั้งจังหวัด

แหล่งข่าวระดับสูงในวงการตำรวจรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ช่วงระยะเวลาที่ พล.ต.ต.สราวุธ เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เพียง 4 เดือนกว่า ทำให้สถิติคดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้ง 5 ประเภทในพื้นที่ลดลงอย่างมาก สร้างขวัญและกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคดีที่สร้างความฮือฮา และเป็นที่จับตามองของประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช 2 คดี

ได้แก่ คดีตำรวจภาค 8 นำโดย พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการภาค 8 ร่วมกับ พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ผบก.ภ.จว.นศ และกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย เข้าทำการตรวจค้นบ้านผู้มีอิทธิพลตามรายชื่อผู้กว้างขวาง และมีคดีเกี่ยวข้องพัวพันที่ต้องค้นหาหลักฐานพยายามเพิ่มเติมของภาค 8 จำนวน 9 จุด โดยหนึ่งในเก้าจุดเป็นบ้านพักนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งค้นพบอาวุธสงครามที่อ้างว่าเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอามาฝากไว้ที่บ้านพัก

ต่อมานักการเมืองรายดังกล่าวได้มีการร้องขอความเป็นธรรม ในคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ ในขณะเดียวกันร้องขอความเป็นธรรมจากทางฝ่ายปกครองให้เข้ามาควบคุมคดีแทนตำรวจ นำไปสู่การสั่งไม่ฟ้องของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ร่อนพิบูลย์ อย่างน่ากังขาสวนทางกับการตรวจพิสูจน์หลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมานักการเมืองท้องถิ่นคนดังกล่าว ได้ยื่นฟ้องศาลจังหวัดทุ่งสง คดีหมายเลขดำที่ 35 / 2552 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2551 ความอาญา โดยมี พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ที่ 1 พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ ที่ 2 เป็นจำเลย เกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาท ศาลมีคำสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 9 มีนาคม 2552 เวลา 08.30 น. ณ ศาลจังหวัดทุ่งสง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

ส่วนคดีที่ฮือฮาอีกคดีหนึ่ง ซึ่งถือเป็นคดีที่สองเป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช คดีเรียกค่าคุ้มครอง 2 ล้านบาทจากอาจารย์ จากการสืบสวนสอบสวน พบว่ามีหลักฐานบางอย่างที่โยงใยไปถึงนักการเมืองท้องถิ่นอีกราย ที่ใกล้ชิดกับนักการเมืองรายแรก มีการร้องขอให้ฝ่ายปกครองเข้ามาดูแลรูปคดี โดยให้ทางอำเภอชะอวดเข้ามาเป็นผู้สอบสวนคดีดังกล่าวแทน

ในขณะที่ตำรวจทั้งสองพื้นที่คือ อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.ชะอวด ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ต่างพบอุปสรรคในการทำคดีอย่างหนัก ทาง พล.ต.ต.สราวุธ พีรานนท์ จึงเสนอสั่งย้ายตำรวจตั้งแต่ระดับชั้นประทวนจนถึงระดับ ผกก.พ้นหน้าที่ภายใน 24 ชม. เพราะมีแนวโน้มว่าตำรวจเข้าร่วมด้วยช่วยเหลือผู้กว้างขวางเหล่านี้ให้พ้นผิด

พล.ต.ต.สราวุธ กล่าวว่า ตนไม่ได้ตกใจ ตนยืนยันว่าทำหน้าที่อย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมา ตนไม่เคยแกล้งใคร สามารถตรวจสอบได้ โดยการทำงานของตนทำไปตามหน้าที่ ทำตามเนื้อผ้า ผิดก็ต้องยอมรับผิด ตนต้องการให้นครศรีธรรมราชสงบอย่างจริงจัง เพราะนครศรีธรรมราช ถูกผู้มีอิทธิพลกลั่นแกล้งประชาชนมานานแล้ว ผู้มีอิทธิพลต้องเจอกับตำรวจ ไม่ใช่ปล่อยให้ไปผู้มีอิทธิพลไปกลั่นแกล้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งมีแต่มือเปล่าประชาชนย่อมพ่ายแพ้อยู่วันยังค่ำ

โดยกฎหมายในมือตำรวจต่างหากที่สามารถปราบปรามผู้มีอิทธิพลคนเถื่อนได้ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่เข้ามาคุมคดี และสั่งไม่ฟ้องคดีลองทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทำถูกหรือไม่ เราต้องช่วยประชาชนของเราไม่ใช่ช่วยกันทำร้ายประชาชน

" ที่ผ่านมาตนได้รายงานข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นแล้ว ตนไม่ได้ตกใจอะไร และหากเข้าใจว่าสิ่งที่ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ไม่ถูกต้องด้วยกฎหมายทุกคนก็มีสิทธิที่จะฟ้องตนได้ ซึ่งตนพร้อมเสมอ ตนเป็นข้าราชการ กินเงินเดือนที่เป็นภาษีของประชาชน ตนจึงจะตอบแทนคุณประชาชนบ้าง การตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้ ทำเพื่อส่วนรวมตนไม่ได้ทำเพื่อส่วนตน หากทำเพื่อตัวเองตนอยู่เฉย ๆ ไม่ดีกว่าหรือ "

พล.ต.ต.สราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการโยกย้ายตนไม่ตกใจหรอก เพราะไม่ว่าตนจะอยู่ที่ใดก็พร้อมที่จะทำงาน แต่ที่นครศรีธรรมราชตน เพิ่งปฏิบัติหน้าที่เพียง 4 เดือนเศษ ๆ งานกำลังไปได้สวยทีเดียว จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่ไม่ธรรมดาทีเดียว เป็นแดนปราบเซียนที่นับวันจะมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น ตนก็ฝากให้เจ้าหน้าที่ ที่ทำคดีเหล่านี้ให้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ถูกต้อง โปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านให้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากแหล่งข่าวในภาค 8 ว่าสำหรับคดีดังกล่าวได้ส่งเรื่องไปยัง ปปช. เมื่อวันศุกร์ที่ 23 มกราคม 2552 เพื่อให้ ปปช. ได้ตรวจสอบ และพิจารณาคดีดังกล่าว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่มีการเกี่ยวโยงกับคดีอุกฉกรรจ์หลายคดีในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เอกสารที่ส่งไปในครั้งนั้นมีความหนาถึง 300 หน้า และว่าคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างหากได้รับการพิจารณาจาก ปปช.

นายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า เรื่องการโยกย้าย พล.ต.ต.สราวุธ ในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ ส.ส.และประชาชนตกใจมาก เพราะท่านมาอยู่ได้แค่ 4 เดือน และทำงานตรงไปตรงมามีผลงานชัดเจน ในส่วนของ สส.นครศรีธรรมราชหลายคนก็มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ และเห็นว่าการโยกย้ายยังต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองอีกครั้งหนึ่ง

ตนจึงได้ประสานกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อขอให้ พล.ต.ต.สราวุธ ดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยให้เหตุผลอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทุกคนต้องการให้คนดีทำงานเพื่อบ้านเมืองและประชาชนทั้งนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น