“หมอพรทิพย์” แนะใช้คดีอุ้ม “ทนายสมชาย” เป็นตัวอย่าง ตั้งหน่วยงานเฉพาะแก้ปัญหา

“หมอพรทิพย์” ชี้ รื้อฟื้นคดีอุ้ม “ทนายสมชาย” เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ดีกว่าไม่ทำเลย แนะรัฐใช้คดีทนายสมชายเป็นตัวอย่าง ตั้งหน่วยงานเฉพาะขึ้นมาดูแลคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง เช่นเดียวกับต่างประเทศ เผย ที่ผ่านมาไม่ได้รับโอกาสให้ทำคดีอย่างเต็มที่ และมีการเตะถ่วงคดีให้ล่าช้า

วันนี้ (25 ม.ค.) พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กล่าวถึง กรณีพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้คลี่คลายคดีการอุ้มทนายสมชาย นีละไพจิตรอีกครั้งหนึ่งว่าตนไม่มีความเห็นเพราะไม่ทราบว่าได้รับคำสั่งอะไรบ้าง แต่ส่วนตัวนั้นอยากให้กรณีของทนายสมชายเป็นคดีตัวอย่าง ที่ผ่านมารัฐบาลหลายชุดได้รื้อฟื้นคดีทนายสมชายขึ้นมาแล้ว ซึ่งเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ดังนั้นน่าจะถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการทำให้ถูกต้องในคดีที่สงสัยว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น กรณีของ ทนายสมชาย ที่สงสัยว่าอาจถูกลักพาตัวไป ก็ควรจะมีระบบตรวจสอบพยานหลักฐานที่ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เกิดเหตุ

พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลสมัยนั้นได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาทำคดีดังกล่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษและตนได้เข้าไปเป็นกรรมการร่วมตรวจสอบหาหลักฐานด้วย แต่ปรากฏว่า เมื่อเข้าไปทำงานจริงกลับไม่ได้ทำคดีอย่างเต็มที่เท่าที่ควร ซึ่งการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทำคดีดังกล่าว คล้ายกับการถ่วงเวลา เจอตอหรือไปติดอะไรสักอย่างก็ไม่ทราบ ไม่มีความจริงใจทำคดี แต่เมื่อรัฐบาลชุดปัจจุบันต้องการเข้ามาคลี่คลายคดีทนายสมชายอีกครั้งก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี หากทำได้แค่ไหนก็ทำไป ดีกว่าไม่ทำเลยเพราะเข้าใจว่ารัฐบาลต้องทุ่มเทแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจก่อน

ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมของการแก้ปัญหานั้นประเทศอังกฤษเป็นตัวอย่างที่ดีที่มีการตั้งหน่วยงานขึ้นมารับผิดชอบทำคดีโดยเฉพาะ กรณีที่ประชาชนร้องเรียนว่ามีตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วน หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน โดยจะไม่เอาคนที่เคยเป็นตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานนั้นมาเป็นกรรมการชุดดังกล่าวเพื่อให้การทำคดีมีความโปร่งใส แต่บ้านเรานั้นรู้กันอยู่ว่าคดีที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ยากที่จะเอาผิด ยิ่งคดีชิปปิ้งหมูและคดีทนายสมชาย ที่เข้าใจว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยและพัวพันกับการเมืองอีกก็ทำให้คดียิ่งยากขึ้น

เมื่อถามว่า มีการตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ขึ้นมารับผิดชอบคดีพิเศษแล้ว สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้หรือไม่

พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ปัญหาคือเป็นเรื่องยากมากที่ข้าราชการจะเป็นกลาง เป็นตัวของตัวเอง สมัยที่ตนรักษาการ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็โดนการเมืองกลั่นแกล้งเกือบ 3-4 ปี โดยการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยราชการ ส่วนการทำงานดีเอสไอสามารถแก้ปัญหาได้หรือไม่นั้น ก็คงทราบกันอยู่

เมื่อถามว่า หากได้รับมอบหมายให้ พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ เข้าไปร่วมตรวจสอบหลักฐานคดีทนายสมชาย อีกครั้งหนึ่งจะทำหรือไม่

พ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ต้องดูว่าเป็นคำสั่งของใคร หากรัฐบาลสั่งมาก็ต้องทำ แต่หลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ก็สะท้อนให้เห็นว่าไม่ได้มีการเปิดโอกาสให้นำหลักนิติวิทยาศาสตร์เข้าไปตรวจสอบอย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นแต่เพียงการใช้นิติวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือ และที่ผ่านมาการทำงานร่วมกับดีเอสไอ ก็ไม่ค่อยมีโอกาสเข้าร่วมสืบสวนหาหลักฐานอย่างเต็มที่ ครั้งนี้หากการทำงานของดีเอสไอเป็นแบบเดิมอีก ก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จ