xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯทูลเกล้าฯ รมต.อิสสระเอ็นจีโอฟ้องแพ่งป๋องเน่า1ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฯ เผยทูลเกล้าฯ "อิสสระ สมชัย" เป็นรมว.พัฒนาสังคมฯคนใหม่แทน "วิฑูรย์" สัปดาห์นี้ ส่วน "บุญจง" ต้องรอผลตรวจสอบก่อน ขณะที่ "สุเทพ-กษิต" ที่โพลระบุว่าควรปรับออกนั้น ยืนยันทำงานดีอยู่แล้ว ไม่สนแม้ฝ่ายค้านขู่ยื่นซักฟอก "เทพเทือก" ปฏิเสธยกเก้าอี้ให้ "อิสสระ" ต่างตอบแทนส.ส.อีสาน และให้เข้าไปช่วย "วิฑูรย์" ติงสื่อมองในแง่ร้าย ด้าน "วิฑูรย์"รับเสียดายรอมา 17 ปี ได้เป็น รมต.แค่ 10 กว่าวัน แถมเสียความรู้สึกกับคำว่ารมต.ปลากระป๋องเน่า "อิสสระ" เตรียมลงพื้นที่พัทลุงพิสูจน์ข้อเท็จจริงศุกร์นี้ องค์กรผู้บริโภคยื่นฟ้อง รมว.พัฒนาสังคมฯ พร้อมปลัดฯ เรียกค่าเสียหาย 1 ล้าน "ชวรัตน์" ย้ำ "บุญจง"แจกเงินไม่ผิด เจ้าตัวเผ่นหลังถูกสื่อซัก ฝ่ายค้านประกาศเดินหน้ายื่นอภิปราย ครม. เมิน "วิฑูรย์" ลาออก ลั่นเล่นงานทั้งคณะ "เฉลิม"โวมีทีเด็ดกว่าซักฟอก สปก.4-01 เพราะหลักฐานปึ๊ก ทั้งเอกสาร พยานบุคคล

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ลงนามในหนังสือทูลเกล้าฯ รายชื่อ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แทนนายวิฑูรย์ นามบุตร ที่ลาออกไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายให้ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำรายชื่อนายอิสระ สมชัย ขึ้นทูลเกล้าฯ ในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากต้องเดินทางไปญี่ปุ่น และหากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว ก็จะนำรัฐมนตรีใหม่ เข้าถวายสัตย์สัปดาห์หน้าหลังกลับจากประเทศญี่ปุ่น
ส่วนที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ดำเนินการกับรัฐมนตรีที่มีปัญหาในรัฐบาลทั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ โดยขู่ว่าถ้าไม่ปลดจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีท่านอื่นๆ ต้องตรวจสอบกันต่อไป ฝ่ายค้านก็มีสิทธิจะตรวจสอบในรูปแบบที่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญ ส่วนที่ระบุว่าที่นายวิฑูรย์ลาออกเพราะจนมุม นั้นก็เป็นความเห็นของฝ่ายค้าน
ส่วนที่กรุงเทพโพลล์ระบุว่ารัฐมนตรีที่ควรจะต้องถูกปรับออกจากครม.ยังมีนายสุเทพและนายกษิต พร้อมประเมินผลงานรัฐบาลเฉียดฉิวนั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็น และไม่ทราบเหตุผลที่ให้กัน เมื่อถามต่อว่า ดูจากการทำงานของทั้ง 2 ท่านแล้ว เป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสุเทพ ดูเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก ก็ทำงานตามแนวทางที่เราเน้นย้ำไม่ให้เกิดความรุนแรง กระทบกระทั่ง ซึ่งคิดว่า ได้ช่วยประคับประคองสถานการณ์มาตลอดในระยะเวลา 1 เดือนค่อนข้างชัดเจน ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาที่ทำให้ความขัดแย้งลุกลามบานปลายออกไป
ส่วนนายกษิต ตนได้เริ่มเดินทางไปต่างประเทศ และเห็นได้ชัดว่าท่านทำงาน หนัก และได้อาศัยประสบการณ์การที่มีความสัมพันธ์กับประเทศใหญ่ๆ หลายประเทศ ก็ทำงานได้เป็นประโยชน์ ในการรักษาประโยชน์ของชาติด้านการต่างประเทศ

ตั้ง"อิสสระ"ไม่เกี่ยวเข้าไปช่วย"วิฑูรย์"

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติเลือกนายอิสระ สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี เป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แทนนายวิฑูรย์ นามบุตร ที่ลาออกนั้นในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ มีมติเป็นเอกฉันฑ์ ซึ่งพรรคมีกระบวนการวิธีคัดเลือกโดยได้พิจารณาอย่างรอบคอบและคิดเป็นอย่างดี
ส่วนที่มองกันว่าการตั้งนายอิสระ เป็น รมว.การพัฒนาสังคมฯ เพราะเป็นส.ส.กลุ่มเดียวกับนายวิฑูรย์ ที่ต้องการให้เข้าไปจัดการปัญหาในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าคิดอย่างนั้นถือเป็นการมองในแง่ร้ายว่าตั้งคนเข้าไปทำงานในแง่นั้น แต่ที่พรรคตั้งนายอิสสระเพราะเห็นว่าจะเข้าไปทำงานได้
"การแต่งตั้งนายอิสสระไม่ได้เป็นการต่างตอบแทนให้ ส.ส.อีสาน ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ เพราะเราต้องการคนที่เข้ามาทำงาน และเราเชื่อมั่นว่าจะทำงานได้ผล ซึ่งมีการพิจารณาอย่างดีแล้ว อยู่ในใจทุกคนจึงมีมติออกมาเป็นเอกฉันท์ "
ส่วนที่เลือกส.ส.จากอีสานนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เรามีคนที่มีความรู้ ความสามารถอยู่ในแต่ละภูมิภาค เราต้องการที่จะให้มีรัฐมนตรีกระจายตามภาคต่างๆ เมื่อถามว่าหลายฝ่ายแสดงความไม่เห็นด้วยที่แต่งตั้งคนจากกลุ่มเดิมเข้ามาเป็นรัฐมนตรี เพราะเกรงว่าอาจจะช่วยเหลือนายวิฑูรย์ นายสุเทพ กล่าวว่า "ไม่มีครับ" กรณีนายวิฑูรย์ องค์กรอิสระสอบสวนอยู่ ทั้งป.ป.ช. และ สตง. รวมทั้งกรรมาธิการฯ ในสภา อย่ามองโลกในแง่ร้าย
ส่วนกรณีที่นายวิฑูรย์ไปช่วยแจกของในช่วงหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดลำพูน อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายกกต.จนอาจทำให้ถูกตัดสิทธิ์ 10 ปีนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ใครมีหน้าที่ตรวจสอบ ส่วนการที่นายวิฑูรย์เป็นกรรมการบริหารพรรคด้วยนั้นก็ไม่มีปัญหา ถูกคือถูก ผิดคือผิด อย่ากังวลใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากผลการสอบสวนระบุนายวิฑูรย์ไม่ได้ทำผิด จะให้กลับมารับตำแหน่งอีกครั้งหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าคิดไกลขนาดนั้น วันนี้มีรัฐมนตรีลาออกจึงมีการเลือกคนใหม่มาทำงานแทน ยืนยันว่าการแต่งตั้งรัฐมนตรีในรอบนี้ ไม่เกี่ยวกับการปลอบใจผู้พลาดตำแหน่งรอบที่แล้วแต่อย่างใด

"วิฑูรย์"เสียดายรอมา17อยู่ได้10วัน

ด้านนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวระหว่างเดินทาง เข้ากระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เพื่อเก็บของกลับบ้านว่า จากนี้ไปจะทำงานในฐานะ ส.ส. ทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า การต้องพ้นจากตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมฯ ครั้งนี้ ให้บทเรียนอะไรบ้าง นายวิฑูรย์ กล่าวว่า กว่าตนจะได้มาเป็นรัฐมนตรีนั้น ต้องรอมานาน ตนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด แม้ที่ผ่านมา การต่อสู้ของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคอีสานของพรรคจะค่อนข้างลำบาก แต่ก็ฝ่าฟันเอาตัวรอดมาได้จนเป็น ส.ส.มา 17 ปี การได้มีโอกาสมาเป็นรัฐมนตรีแม้จะเพียงแค่ 10 กว่าวัน และได้รับฉายา "ปลากระป๋องเน่า" ทำให้ตนรู้สึกไม่ดี แต่ต้องทำหน้าที่ต่อไปตามปกติ
"รู้สึกว่ามีโอกาสในการทำงานน้อยไป แต่การตัดสินใจก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึก ของประชาชน แต่เมื่อพ่อ แม่ พี่น้องเดือดร้อนแล้วเกิดมีเรื่องขึ้นเหมือนเป็นการ ไปซ้ำเติม ถ้าผมรู้ว่าของที่แจกไปเป็นของไม่ดี ไม่มีคุณภาพก็จะไม่แจกแน่นอน และวันที่แจกของนั้นผมก็อยู่ที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อร่วมงานเผาศพ ยายเนียม ร่วมกับนายกฯ และเมื่อเกิดเรื่องขึ้นก็ได้สั่งการให้แก้ไขโดยเร็ว ผมคิดว่าผู้ผลิตต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เช่นกัน"
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนรู้สึกสบายใจกว่าเมื่อ 10 วันที่แล้วมาก เพราะทุกเช้าตื่นขึ้นมาก็ได้รับแต่ข่าวไม่ดีเกี่ยวกับตน แต่ตอนนี้ต้องรอให้กระบวนการตรวจสอบ ผิดหรือไม่ผิดก็ว่ากันอีกรอบ ตอนนี้ก็มีประชาชนโทร.มาให้กำลังใจ ท่านนายกฯก็ให้กำลังใจ ท่านมีความรู้สึกดีๆ ให้ตนเสมอ และตระหนักถึงความรู้สึก ของประชาชนเป็นอย่างยิ่ง หากสิ่งใดที่กระทบต่อชาวบ้านทำอะไรได้ก็ต้องรีบดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่าภูมิใจหรือไม่ที่สร้างบรรทัดฐานทางการเมืองให้ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ตนเป็นคนรักพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคในดวงใจ มีความอบอุ่นอย่างมากที่ได้อยู่ที่นี่ และพรรคเองก็คอยให้โอกาสทุกคนเสมอ

ปฏิเสธแจกของช่วยส.ส.ลำพูนหาเสียง

ส่วนที่องค์กรผู้บริโภคยื่นศาลแพ่งฟ้องนายวิฑูรย์ 1 ล้านบาทนั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีที่คณะกรรมการเพื่อผู้บริโภคต้องดำเนินการเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชน แสดงถึงความใส่ใจต่อผลกระทบที่เกิดกับผู้บริโภค
ส่วนที่กกต.เตรียมตรวจสอบกรณีที่นายวิฑูรย์ ช่วย ส.ส.แจกของที่จ.ลำพูน นั้น นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานอะไรจาก กกต. วันนั้นที่ไปก็ไปอย่างทุลักทุเล และก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องพรรค หรือผู้สมัครเพื่อเป็นการหาเสียง แต่ตนกล่าวถึงนโยบาย ของรัฐบาล และเรื่องของผู้สูงอายุ และยังไม่มีการแจกของทั้งสิ้น เพราะการดำเนินการ ทุกอย่างเป็นของจังหวัด ซึ่งหลักฐานทุกอย่างก็มีทั้งพยานบุคคล ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ หรือหลายๆ คนที่อยู่ภายในงานที่เห็นว่าวันนั้นไม่ได้เป็นการหาเสียงแต่อย่างใด

"ปลัดฯวัลลภ"ชิ่งหนีสื่ออุตลุต

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรจะฝากไปยังนายอิสสระ สมชัย ว่าที่ รมว.การพัฒนาสังคมฯ คนใหม่หรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรจะฝากเป็นพิเศษ เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ รู้บทบาทหน้าที่การทำงานดี อีกทั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยเข้ามาดูแลกระทรวงนี้มาก่อน ตนเป็นคนแรก และอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานดังนั้น จึงไม่สามารถเข้าถึงข้าราชการ และหน่วยงานได้อย่างละเอียด ในส่วนของข้อมูลเชิงลึก ต่างๆ ก็ยังไม่รู้อะไรเท่าที่ควร คิดว่า นายอิสสระคงเข้ามาบริหารงานได้ไม่ยาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในประเด็นเรื่องปลากระป๋องเน่านั้น มีข้าราชการระดับสูงในกระทรวงที่หลายคนพุ่งเป้าไปที่ความรับผิดชอบ โดยเฉพาะ นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ได้รอสัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าว แต่หลังจากที่พบกับปลัดฯก็ได้เดินหนีกลุ่มผู้สื่อข่าวที่พยายามติดตาม พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

"อิสสระ"ไปพัทลุงดูข้อเท็จจริงศุกร์นี้

นายอิสสระ สมชัย ว่าที่ รมว.การพัฒนาสังคมฯ เปิดเผยว่าในวันศุกร์ที่ 6 ก.พ.นี้ จะลงพื้นที่จ.พัทลุง จุดที่ประชาชนร้องเรียนเรื่องถุงยังชีพมีปลากระป๋องเสื่อมคุณภาพ เพื่อสอบถามความจริงด้วยตนเอง ก่อนเข้ามาทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรี แต่การเดินทางครั้งนี้ ไปในนามส่วนตัว โดยประสานกับ ส.ส.ในพื้นที่เท่านั้น เพราะไม่ต้องการรบกวนข้าราชการ องค์กรผู้บริโภคฟ้องเรียก1ล้าน
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมชาวบ้านจังหวัดพัทลุง ที่ระบุว่าป่วยจากการบริโภคปลากระป๋องยี่ห้อชาวดอย ที่ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นำไปแจกจ่ายช่วยเหลือน้ำท่วมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รวมทั้งตัวแทนเครือข่ายชีวิต สาธารณะ พัทลุง และเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคใต้ เดินทางไปที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดา เพื่อยื่นฟ้องด้วยวาจาต่อศาลให้ดำเนินคดีฐานละเมิดกับผู้ทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ บริษัท กิ่งแก้ว ฟูดส์ ผู้ผลิตและจำหน่ายปลากระป๋องชาวดอย และกรรมการ รวมถึงผู้ถือหุ้นทั้งหมด
เนื่องจากผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ของศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ปลากระป๋องชาวดอย ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ นำแจก ใช้วัตถุดิบการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ ประกอบกับให้เป็นคดีตัวอย่าง โดยเรียกค่าเสียหาย 1 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ยื่นฟ้องผู้ที่มาทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ คนใหม่ เพื่อต้องการให้ไปไล่เบี้ยหาคนผิดที่รับผิดชอบ และเหตุที่ยังไม่ยื่นฟ้อง นายวิฑูรย์ นามบุตร เนื่องจากทางเครือข่ายมีข้อถกเถียงในบางประเด็น ยังไม่มีบทสรุป
น.ส.สารี ยังระบุว่า มีขบวนการเข้าไปในพื้นที่ทำให้ผู้เสียหายไม่กล้า เป็นพยานหรือร่วมยื่นฟ้องด้วย

ยันปลากระป๋องเน่าส่งจากกระทรวง

ที่รัฐสภา วานนี้ (4 ก.พ.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องทุจริตปลากระป๋องเน่า โดยได้เชิญนายสุเทพ โกมลภมร ผวจ.พัทลุง นางสุธีรา นุ้ยเจริญ พัฒนาสังคมและความมั่นคงจังหวัดพัทลุง(พมจ.) นางเพ็ญศรี รอดมา ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขลักษณะการผลิต รักษาราชการแทนผอ.สำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เข้าชี้แจง โดยมีนายสุทัศน์ เงินหมื่น และนายนิพนธ์ วิสิษฐยุทธศาสตร์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์คอยนั่งประกบด้านซ้าย-ขวา ของนายประชา
นายสุทัศน์ ได้พยายามซักถามถึงที่มาของถุงยังชีพชุดที่มีปัญหา ว่าเป็นการจัดซื้อโดย พมจ.พัทลุง หรือจัดส่งจากส่วนกลาง มีการเซ็นตรวจรับของไว้เป็นหลักฐานทางราชการหรือไม่ รวมถึงการบริจาคปลากระป๋องชาวดอยของนายวิเชน สมมาตร ทำที่ส่วนกลางหรือที่ จ.พัทลุง กันแน่
ซึ่งนางสุธีราชี้แจงว่า ที่มาของถุงยังชีพมาจากส่วนกลางเป็นผู้ประสานมายัง พมจ.พัทลุง ว่ามีผู้บริจาคสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งทางส่วนกลางจะจัดส่งถุงยังชีพมาให้ โดยที่นายวิเชนไม่ได้มาบริจาคที่จ.พัทลุง แต่จะไปบริจาคที่ส่วนกลางหรือไม่ไม่ทราบ
นางสุธีรากล่าวว่า เดิมทางส่วนกลางแจ้งมาว่าถุงยังชีพมีทั้งหมด 5,000 ชุด แต่เมื่อล็อตแรกมีปัญหาชุดที่ 2 จำนวน 2,000 ชุดที่ส่งมาใหม่เราก็ไม่ได้แจก พอเกิดปัญหาขึ้นก็มีรถบรรทุกมาขนถุงยังชีพที่เหลือกลับไปจนหมด เมื่อถูกกรรมาธิการฯซักว่า เป็นรถทะเบียนอุบลราชธานีหรือไม่ นางสุธีราตอบอึกๆ อักๆว่า ไม่ได้สังเกตจึงจำไม่ได้ แต่ได้รับการติดต่อจากนางถนอมศรี (กุลวชิรา) ผอ.สำนักบริหารงานกลาง กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ประสานมาว่าให้ส่งของคืน

"ชวรัตน์"เสียงแข็ง"บุญจง"ไม่ผิด

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะว่าที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว ปฏิเสธข่าวที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ติดต่อหารือเรื่องที่นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แจกเงินพร้อมแนบนามบัตร โดยระบุว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่อง ของความผิด จึงยังไม่มีการพูดถึงเรื่องลาออกหรือปรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น และไม่คิดว่า จะมีปัญหาอะไร เพราะสิ่งที่นายบุญจงทำไปนั้นทุกฝ่ายทราบดีว่าเป็นเรื่องที่ ประชาชนได้ประโยชน์ และตนเชื่อว่า นายบุญจงไม่มีเจตนาหาเสียงตามที่มีผู้กล่าวอ้าง และไม่ได้กระทำผิดอะไร
อย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่เรื่องที่นายกฯ เกรงใจกลุ่มเพื่อนเนวิน และจะใช้คำว่า เกรงใจไม่ได้ เพราะการบริหารประเทศต้องว่าไปตามกฎหมาย จะมาเกรงใจกันได้อย่างไร หากกฎหมายตัดสินว่าผิดก็ต้องว่ากันไป และการที่ไม่ปรับก็ไม่ได้มีการต่อรองใดๆทั้งสิ้น
"เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องมาตรฐานทางการเมือง เพราะเป็นคนละเรื่อง ส่วนความคืบหน้าในการเตรียมชี้แจงกับป.ป.ช.และกกต.นั้น นายบุญจงทำรายละเอียดคำชี้แจงเป็นสมุดปกขาวเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว"

"บุญจง"หลบวูบไม่ตอบเรื่องแจกเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.15 น. นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช. มหาดไทย ( มท.2 ) ได้เดินทางไปตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของ สถานบริการย่านรัชดา ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกระแสกดดันที่จะถูกปรับออกจาก ครม.รวมถึงการแสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่ง กรณีแจกเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้แนบนามบัตรที่บ้านพัก ที่ จ.นครราชสีมา นายบุญจงได้ปฏิเสธที่จะตอบ โดยกล่าวเพียงว่า การเมืองเป็นเรื่องของการเมือง การเมืองเป็นเรื่องของพรรค และยกมือไหว้ผู้สื่อข่าวก่อนจะขึ้นรถตู้เดินทางไปประชุมสภาทันที

ฝ่ายค้านยัน"วิฑูรย์"ออกก็ยื่นซักฟอก

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน แม้นายวิฑูรย์ จะลาออกจากตำแหน่ง รมว.การพัฒนาสังคมฯแล้วก็ตาม เพราะเป็นคนละเรื่องกับข้อมูลและหลักฐานที่ตนมีอยู่ และเป้าหมายของตนก็คือรัฐบาลทั้งคณะ
"รับรองว่าข้อมูลเหนือกว่ากรณีการแจก เอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 อย่างแน่นอน และรัฐบาลต้องไปทั้งคณะ นี่ไม่ใช่การขู่ ที่บอกว่าควรให้โอกาสรัฐบาลได้ทำงานก่อนนั้น ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้รัฐบาลทำงานต่อ แต่หลังการอภิปรายสังคมจะได้รับรู้ข้อเท็จจริง ผมจะไม่ทำเหมือนกับตอนที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านแล้วมายื่นอภิปราผม ทั้งๆที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย และรับรองว่าเวทีนี้จะได้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยค้านเป็นหรือเปล่า"

ปัดเนรมิตข้อมูลเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นที่จะนำมาอภิปรายนั้นใช่เรื่องเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่บอก แต่รับรองว่าเมื่อนำเสนอแล้วมีเหตุผล มีหลักฐานเป็นเอกสารและมีพยานบุคคลพร้อม ส่วนจะน็อกรัฐบาลได้หรือไม่นั้นก็อยู่ที่ ประชาชนว่าจะเชื่อข้อมูลตนมากน้อยแค่ไหน แต่ตนไม่ได้เนรมิตขึ้นมาด้วยตัวเอง
สำหรับกรณีที่ประธานวิปรัฐบาลระบุว่าให้ฝ่ายค้านไปหาคนเป็นนายกฯคนใหม่ ให้ได้ก่อน เพราะการยื่นซักฟอกนายกฯจะต้องมีการเสนอชื่อคนเป็นนายกฯ คนใหม่ ด้วยนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐบาลควรห่วงตัวเองมากกว่า ไม่ต้องห่วงฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านหานายกฯคนใหม่ได้แน่นอน แต่ยอมรับว่าตอนนี้ยังหาไม่ได้ และตนเองก็ไม่กล้าพูดว่าจะเป็นนายกฯต้องขอถามพรรคพวกก่อน
"รัฐธรรมนูญ มาตรา 158 ได้ระบุว่าไม่จำเป็นต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน เมื่อฝ่ายค้านยื่นทั้งคณะ ก็หาตัวคนเป็นนายกฯได้อยู่แล้ว"
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าตัวเองเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ ร.ต.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้ต้องฟังพรรคพวกก่อน เมื่อถามย้ำว่า แล้วสนใจที่จะเป็นนายกฯ หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าพร้อมหัวเราะว่า ยังไม่กล้าพูด

"อภิชาต"ให้อนุฯสอบ"บุญจง"30วัน

นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.กล่าวถึงการตั้งอนุกรรมการตรวจสอบ กรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย แจกเบี้ยยังชีพพร้อมนามบัตรให้ประชาชนในพื้นที่เลือกตั้งของตัวเองว่า เบื้องต้นให้เวลาคณะอนุกรรมการฯ 30 วันและคงไม่ขยายเวลาอีก ยืนยัน กรณีดังกล่าว กกต. ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่สนใจว่ามาจากฝ่ายไหน
อย่างไรก็ตามส่วนตัวรู้สึกไม่สบายใจที่สื่อมวลชน เสนอข่าวเกี่ยวกับการทำงานของกกต.ว่า พยายามดึงเรื่องหรือให้การช่วยเหลือ เพราะกกต.ก็ทำงานอย่างตรงไปตรงมา สุจริตที่สุดแล้ว ซึ่งกรณีของนายบุญจง การไปปราศรัยโจมตีผู้อื่น ไม่ใช่เรื่องความไม่สุจริต และไม่มีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต เที่ยงธรรม จึงตัดเรื่องการส่งศาลให้เพิกถอนสิทธิ อีกทั้งได้สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ไปแล้ว

ยืนยัน กกต.ทำตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว

นายอภิชาต ยอมรับว่าการทำงานของ กกต.ล่าช้าไปบ้าง และก็ได้พยายามเร่งรัดการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ถ้ามีการประพฤติมิชอบก็ลงโทษตามกฎระเบียบ
ส่วนกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่กกต.สั่งดำเนินคดี นั้นกกต.ได้ลงนามเรียบร้อยแล้ว พร้อมยื่นฟ้องต่อศาลภายในสัปดาห์นี้ ยืนยันไม่หนักใจในการพิจารณาสำนวนดังกล่าว เพราะกกต.ไม่ได้คำนึงว่าเป็นผู้มีอำนาจ มาจากพรรคการเมืองใด กกต.ไม่สนใจตัวบุคคล เราดูในเนื้อหา ว่าถ้ากระทำอย่างนี้แล้วผลจะเป็นอย่างไร จะผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น