ตรัง - นายสมพงษ์ อนุยุทธพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง คนใหม่แม้ว่าเหลืออายุราชการอีกเพียงแค่ 1 ปี ไม่ใช่ข้อจำกัดของการทำงานที่ จ.ตรัง เพราะส่วนตัวมีประสบการณ์ในการทำงานมาทุกภูมิภาค และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดมาแล้ว 3 จังหวัด พร้อมที่จะช่วยแก้ไขปัญหาของพี่น้องชาวตรัง และจะสนับสนุนให้ชาวตรังทุกคน ช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (8 พ.ย.) นายสมพงษ์ อนุยุทธพงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง คนใหม่ กล่าวว่า จากการที่ตนเองเคยมีประสบการณ์การทำงานในพื้นที่จังหวัดชายทะเลมาพอสมควร ส่วนในภาคใต้ก็เคยเป็นปลัดจังหวัดพังงา และเคยเป็นผู้ตรวจราชการในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ รวมทั้ง จ.ตรัง มาก่อน เชื่อว่าจะสามารถช่วยในการทำงานในจังหวัดใหม่ได้ดี ซึ่งการที่ตนเองเหลืออายุราชการอีกเพียงแค่ 1 ปี ไม่ใช่ข้อจำกัดของการทำงานที่ จ.ตรัง เพราะส่วนตัวมีประสบการณ์ในการทำงานมาทุกภูมิภาค และเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดมาแล้ว 3 จังหวัด
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ช่วง 1 ปีก่อนเกษียณอายุราชการ ตนเองอาจจะทำงานอาจไม่เต็มที่ คงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะขณะนี้มีแผนพัฒนาจังหวัดตรังอยู่แล้ว ซึ่งเกิดจากการระดมความคิดเห็น ทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชน ตนเองเพียงแค่มาปรับแต่งและบูรณาการความร่วมมือ รวมทั้งเร่งรัดการทำงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ เพราะประเทศไทยกำลังมีปัญหา ทั้งการเมือง และเศรษฐกิจ ที่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในโอกาสข้างหน้า จึงต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดตรัง และประเทศไทย นายสมพงษ์กล่าวต่อและอีกว่า
สำหรับผลงานของผู้ว่าราชการจังหวัดคนก่อนๆ ก็มีอยู่หลายอย่างที่จะต้องสานต่อ เช่น โครงการตามแนวพระราชดำริ โครงการเสริมสร้างความสามัคคีของคนในชาติ เพราะความแตกแยกจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง และไปเพิ่มดีกรีปัญหาของบ้านเมือง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ จึงต้องเร่งรณรงค์สร้างความสามัคคีของคนในชาติ เพื่อให้คนตรังรู้รักสามัคคี และเป็นนักประชาธิปไตยที่ถูกต้อง โดยอาจมีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ไม่ใช่ความแตกแยก ทั้งนี้อาจจะใช้แนวทางผ่านกิจกรรมลูกเสือชาวบ้าน เพื่อลงไปยังพื้นที่ต่างๆ
นอกจากนั้น ยังมีปัญหาราคายางพารา และปาล์มน้ำมันตกต่ำ ทำให้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดตรัง เกิดการชะลอตัว รวมไปถึงปัญหาด้านอาชญากรรม เนื่องจากเมื่อดูจากสถิติแล้วพบว่า มีจำนวนมากอยู่พอสมควร โดยเฉพาะเหตุการณ์จี้ปล้น และฆ่าชิงทรัพย์พ่อค้าแม่ค้ารับซื้อยางพารา ถือเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของจังหวัดตรัง และทำให้ผู้คนไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.ตรัง ตลอดจนปัญหายาเสพติด ที่ยังพบการระบาดอยู่ในบางพื้นที่
ขณะเดียวกัน ก็จะสนับสนุนให้ชาวตรังทุกคน ช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปลูกต้นศรีตรัง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นตามบ้านเรือน เกาะกลางถนน ที่สาธารณะ หรืออุทยานแห่งชาติ เพื่อจะทำให้บ้านเมืองเกิดความสวยงาม เหมือนอย่างเช่นดอกซากุระ ของประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ด้วยศักยภาพของจังหวัดตรัง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่มีทั้งความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และความหลากหลาย จะช่วยพัฒนาและส่งเสริมให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ในอนาคต