ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สภาทนายความนำทายาทแรงงานพม่าที่เสียชีวิตคารถห้องเย็นบรรทุกปลา 54 ศพ ยื่นคำร้องต่อศาลระนองขอเป็นโจทก์ร่วม ขณะที่ คปภ.จี้ บ.ลิเบอร์ตี้ ประกันภัย จำกัด จ่ายค่าปลงศพแก่ทายาทผู้เสียเสียชีวิต
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ศาลจังหวัดระนอง นายนัสเซอร์ อาจวาริน คณะอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย นำทายาทจำนวน 6 คน ของแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่เสียชีวิตคารถห้องเย็นบรรทุกอาหารทะเลแช่แข็ง 54 ศพ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดระนอง ในการขอเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ไม่สามารถยื่นคำร้องได้ เนื่องจากมีผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นศาลอีก 1 คน คือ นายวีรา ยิ่งยวด ซึ่งต้องนำผู้ต้องหาแยกมาสั่งฟ้องต่างหาก ต้องรอให้ศาลนัดว่าให้ยื่นคำร้องใหม่ได้ในวันไหน
นายนัสเซอร์ กล่าวว่า ทางสภาทนายความต้องให้ทายาทของผู้เสียหายทั้ง 6 คน เดินทางกลับประเทศพม่าไปก่อนแล้ว ค่อยประสานผ่านมูลนิธิศุภนิมิตอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ สภาทนายความเป็นตัวแทนทายาทของผู้เสียหายได้ยื่นเรื่องขอรับเงินค่าประกันภัยจากรถคันเกิดเหตุ ซึ่งได้ทำกรมธรรม์ประกันภัยไว้กับ บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด ในกรณีเสียชีวิตต้องจ่ายค่าชดเชย 100,000 บาท โดยต้องจ่ายค่าปลงศพจำนวน 35,000 บาท ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้วน ส่วนเงินอีก จำนวน 65,000 บาท ต้องจ่ายหลังจากศาลพิพากษาว่าผู้เสียหายไม่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งทางทายาทผู้เสียชีวิตจำนวน 10 คน ได้ยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้บริษัทครบถ้วนแล้ว แต่ทางบริษัทยังไม่ยอมจ่าย ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีหนังสือให้บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด จ่ายค่าปลงศพ ภายในวันที่ 25 กันยายนนี้ หากทางบริษัทยังไม่ยอมจ่ายอีกทางสภาทนายความจะติดต่อขอรับเงินจากกองทุนที่ คปภ.ระนอง ต่อไป
นายนัสเซอร์ กล่าวด้วยว่า ส่วนทายาทของผู้เสียชีวิตที่เหลือทั้งหมดได้ยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ ต่อสภาทนายความแล้ว และทางสภาทนายความจะได้ส่งเอกสารดังกล่าวเพื่อขอรับเงินให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตต่อไป หากบริษัทประกันภัยยังยื้อก็จำดำเนินการเช่นเดียวกับทายาทในชุดแรกจำนวน 10 คน
ทั้งนี้ เหตุการณ์รถบรรทุกอาหารทะเลแช่แข็งลักลอบขนแรงงานพม่าจากจังหวัดระนอง ไปจังหวัดภูเก็ต จำนวน 120 คน แต่เครื่องปรับอากาศเสียเป็นเหตุให้ขาดอากาศหายใจจนมีผู้เสียชีวิตคาห้องเย็น จำนวน 54 ศพ ในเขตพื้นที่อำเภอสุขสำราญ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9 เมษายน 2551 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ 6 คน โดยเฉพาะนายสุชล บุญปล้อง คนขับรถมรณะได้ให้การรับสารภาพและศาลจังหวัดระนองได้พิพากษาจำคุก 9 ปี ในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 6 ปีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้ นายสุชลถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดระนอง
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ศาลจังหวัดระนอง นายนัสเซอร์ อาจวาริน คณะอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย นำทายาทจำนวน 6 คน ของแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่เสียชีวิตคารถห้องเย็นบรรทุกอาหารทะเลแช่แข็ง 54 ศพ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดระนอง ในการขอเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด และเรียกร้องค่าเสียหาย แต่ไม่สามารถยื่นคำร้องได้ เนื่องจากมีผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นศาลอีก 1 คน คือ นายวีรา ยิ่งยวด ซึ่งต้องนำผู้ต้องหาแยกมาสั่งฟ้องต่างหาก ต้องรอให้ศาลนัดว่าให้ยื่นคำร้องใหม่ได้ในวันไหน
นายนัสเซอร์ กล่าวว่า ทางสภาทนายความต้องให้ทายาทของผู้เสียหายทั้ง 6 คน เดินทางกลับประเทศพม่าไปก่อนแล้ว ค่อยประสานผ่านมูลนิธิศุภนิมิตอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ สภาทนายความเป็นตัวแทนทายาทของผู้เสียหายได้ยื่นเรื่องขอรับเงินค่าประกันภัยจากรถคันเกิดเหตุ ซึ่งได้ทำกรมธรรม์ประกันภัยไว้กับ บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด ในกรณีเสียชีวิตต้องจ่ายค่าชดเชย 100,000 บาท โดยต้องจ่ายค่าปลงศพจำนวน 35,000 บาท ภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับเอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้วน ส่วนเงินอีก จำนวน 65,000 บาท ต้องจ่ายหลังจากศาลพิพากษาว่าผู้เสียหายไม่เกี่ยวข้องกับคดี ซึ่งทางทายาทผู้เสียชีวิตจำนวน 10 คน ได้ยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้บริษัทครบถ้วนแล้ว แต่ทางบริษัทยังไม่ยอมจ่าย ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้มีหนังสือให้บริษัท ลิเบอร์ตี้ประกันภัย จำกัด จ่ายค่าปลงศพ ภายในวันที่ 25 กันยายนนี้ หากทางบริษัทยังไม่ยอมจ่ายอีกทางสภาทนายความจะติดต่อขอรับเงินจากกองทุนที่ คปภ.ระนอง ต่อไป
นายนัสเซอร์ กล่าวด้วยว่า ส่วนทายาทของผู้เสียชีวิตที่เหลือทั้งหมดได้ยื่นเอกสารหลักฐานต่างๆ ต่อสภาทนายความแล้ว และทางสภาทนายความจะได้ส่งเอกสารดังกล่าวเพื่อขอรับเงินให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตต่อไป หากบริษัทประกันภัยยังยื้อก็จำดำเนินการเช่นเดียวกับทายาทในชุดแรกจำนวน 10 คน
ทั้งนี้ เหตุการณ์รถบรรทุกอาหารทะเลแช่แข็งลักลอบขนแรงงานพม่าจากจังหวัดระนอง ไปจังหวัดภูเก็ต จำนวน 120 คน แต่เครื่องปรับอากาศเสียเป็นเหตุให้ขาดอากาศหายใจจนมีผู้เสียชีวิตคาห้องเย็น จำนวน 54 ศพ ในเขตพื้นที่อำเภอสุขสำราญ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 9 เมษายน 2551 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ 6 คน โดยเฉพาะนายสุชล บุญปล้อง คนขับรถมรณะได้ให้การรับสารภาพและศาลจังหวัดระนองได้พิพากษาจำคุก 9 ปี ในความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต แต่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 6 ปีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ขณะนี้ นายสุชลถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดระนอง
