นายกสมาคมประกันชีวิตออกโรงแจงบริษัทประกันชีวิต 24 แห่งในประเทศไทยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐเหตุมาตรฐานการกำกับดูแลจากภาครัฐมีความเข้มงวด พร้อมคุ้มครองคนไทยที่ถือกรมธรรม์ทั้ง 22.5 ล้านฉบับตามสัญญาแน่นอน เตรียมเข็นเกณฑ์ดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนอีก 7 ข้อสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจมกราคมนี้ ด้านบิ๊กไอเอ็นจีวอนลูกค้าอย่าสับสนเรื่อง "ชื่อบริษัท" เผยเป็นของเนเธอร์แลนด์ ฐานะแข็งปึ๊ก
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า บริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยทั้ง 24 แห่งมีฐานะที่แข็งแกร่งและไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วิกฤตสถาบันการเงินที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้แต่อย่างใด เนื่องจากมาตรการกำกับดูแลธุรกิจประกันชีวิตภายใต้การดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เป็นไปอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานะของบริษัทประกันชีวิตและลูกค้าที่ถือกรมธรรม์
ซึ่งนอกจากเกณฑ์การกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพดังกล่าวแล้ว ฐานะที่มั่นคงและมีความแข็งแกร่งยังทำให้บริษัทประกันชีวิตไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นเดียวกับสถาบันการเงินอื่น ทั้งนี้ ฐานะทางการเงินของธุรกิจประกันชีวิตทั้งระบบในปัจจุบันมีสินทรัพย์รวม 8.15 แสนล้านบาท เงินสำรองประกันภัย 6.43 แสนล้านบาทและเงินกองทุน 1.14 แสนล้านบาท
"เงินลงทุนของธุรกิจประกันชีวิตส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากเงินเบี้ยประกันชีวิตทั้งหมดเป็นเงินออมระยะยาวของลูกค้า การลงทุนจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งการกำกับดูแลที่เข้มงวดของ คปภ. จนบางครั้งการแข่งขันในธุรกิจอาจเกิดข้อจำกัดขึ้นจึงทำให้ธุรกิจประกันชีวิตของไทยมีฐานะที่แข็งแกร่งเติบโตด้วยดีได้อย่างต่อเนื่องพร้อมที่จะคุ้มครองกรมธรรม์ทั้ง 22.5 ล้านฉบับให้ได้รับการดูแลตลอดอายุสัญญา" นายสาระกล่าว
นายสาระกล่าวต่อว่า สำหรับสัดส่วนการลงทุนของธุรกิจประกันชีวิตเกือบ 80% เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนที่คงที่ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีความเสี่ยงที่ต่ำมากซึ่งมีเงินลงทุนสูงถึง 57.55% ขณะที่หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนมีสัดส่วนการลงทุน 10.73% เงินฝากและตั๋วแลกเงิน 9.97% การให้สินเชื่อ 8.17% ส่วนการลงทุนในตราสารทุนอยู่ในสัดส่วน 10.86% ซึ่งมีการลงทุนทั้งในหุ้นโดยตรงและลงทุนผ่านการซื้อหน่วยลงทุนและจะเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มสื่อสาร
"สำหรับการลงทุนในต่างประเทศของธุรกิจประกันชีวิตมีสัดส่วนที่ต่ำมากเพียง 2.86% เท่านั้น ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศแต่ละครั้งต้องขออนุญาต คปภ.ทุกครั้ง มีระยะเวลากำหนด จำกัดประเภทหลักทรัพย์ที่สามารถเข้าไปลงทุนได้ และจากวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะการประกาศล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส์นั้นจากการตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทสมาชิกทั้ง 24 แห่งไม่พบว่ามีบริษัทใดลงทุนกับเลห์แมน บราเธอร์ส"
ทั้งนี้ ในวันที่ 1 มกราคม 2552 คปภ. จะประกาศใช้เกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนขึ้นมาอีก 7 ข้อ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินให้กับบริษัทประกันชีวิตมากขึ้น ซึ่งเกณฑ์ต่างๆ ที่จะประกาศใช้เพิ่มเติมนี้ทาง คปภ.และบริษัทประกันได้มีการหารือกันมาโดยตลอดถึงความเหมาะสมด้านต่างๆ และความพร้อมของบริษัทที่จะปฏิบัติตามประกาศเพิ่มเติมของ คปภ.เพื่อสะท้อนถึงความมั่นคงของธุรกิจประกันชีวิต
ส่วนกรณีการจ่ายเงินปันผลให้กับบริษัทแม่หรือผู้ถือหุ้นนั้นถือเป็นเรื่องปกติของการประกอบธุรกิจ แต่ในกรณีของธุรกิจประกันชีวิตหากมีการจ่ายปันผลจะต้องขออนุมัติจากนายทะเบียนคือ คปภ.เสียก่อน ซึ่งคปภ.เองจะพิจารณาความเหมาะสมด้านต่างๆ ว่าสมควรให้ปันผลหรือไม่ โดยเฉพาะหากมีการจ่ายเงินปันผลแล้วทำให้สถานะของบริษัทอ่อนแอหรืออัตราส่วนเงินกองทุนต่างๆ ต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะไม่อนุญาตให้บริษัทจ่ายเงินปันผล
***บิ๊กไอเอ็นจีวอนลูกค้าอย่าสับสน
วานนี้ (19 ก.ย.) บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต ประเทศไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเอไอจีอเมริกา ได้เปิดเผยผลประกอบการ 8 เดือนอีกครั้งว่า มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกถึง 1,132.8 ล้านบาท เติบโต 15% เบี้ยประกันภัยปีต่ออายุ 2,420 ล้านบาท เติบโต 35% และมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,552.8 ล้านบาท เติบโต 25% โดยมั่นใจว่าสิ้นปีจะบรรลุเป้าหมาย 6,973 ล้านบาท
"ช่วงนี้มีข่าวเอไอจีมีปัญหาการเงิน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดถึงเรื่อง "ชื่อ" บริษัทที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งข้อเท็จจริงไม่เกี่ยวกัน เพราะเราเป็นบริษัทของเนเธอร์แลนด์ ผมในนามบริษัทฯ จึงขอยืนยันให้ผู้ถือกรมธรรม์มั่นใจในฐานะทางด้านการเงินของไอเอ็นจี" "นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต กล่าวและว่า ไอเอ็นจีมีสินทรัพย์รวม 1.48 ล้านล้านยูโร ยังได้รับการจัดอันดับเป็นสถาบันการเงินอันดับ 1 ของโลก จากนิตยสารฟอร์จูน โกลบอล 500 เดือนกรกฎาคม 2551 อีกด้วย อีกทั้งในปีที่ผ่านมานั้นไอเอ็นจีกรุ๊ปยังนำเงินเข้ามาลงทุนในธนาคารทหารไทยถึง 26,000 ล้านบาท แสดงถึงความแข็งแกร่งทางด้านกระแสเงินสด
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า บริษัทประกันชีวิตในประเทศไทยทั้ง 24 แห่งมีฐานะที่แข็งแกร่งและไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์วิกฤตสถาบันการเงินที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้แต่อย่างใด เนื่องจากมาตรการกำกับดูแลธุรกิจประกันชีวิตภายใต้การดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เป็นไปอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อสถานะของบริษัทประกันชีวิตและลูกค้าที่ถือกรมธรรม์
ซึ่งนอกจากเกณฑ์การกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพดังกล่าวแล้ว ฐานะที่มั่นคงและมีความแข็งแกร่งยังทำให้บริษัทประกันชีวิตไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เช่นเดียวกับสถาบันการเงินอื่น ทั้งนี้ ฐานะทางการเงินของธุรกิจประกันชีวิตทั้งระบบในปัจจุบันมีสินทรัพย์รวม 8.15 แสนล้านบาท เงินสำรองประกันภัย 6.43 แสนล้านบาทและเงินกองทุน 1.14 แสนล้านบาท
"เงินลงทุนของธุรกิจประกันชีวิตส่วนใหญ่จะลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากเงินเบี้ยประกันชีวิตทั้งหมดเป็นเงินออมระยะยาวของลูกค้า การลงทุนจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งการกำกับดูแลที่เข้มงวดของ คปภ. จนบางครั้งการแข่งขันในธุรกิจอาจเกิดข้อจำกัดขึ้นจึงทำให้ธุรกิจประกันชีวิตของไทยมีฐานะที่แข็งแกร่งเติบโตด้วยดีได้อย่างต่อเนื่องพร้อมที่จะคุ้มครองกรมธรรม์ทั้ง 22.5 ล้านฉบับให้ได้รับการดูแลตลอดอายุสัญญา" นายสาระกล่าว
นายสาระกล่าวต่อว่า สำหรับสัดส่วนการลงทุนของธุรกิจประกันชีวิตเกือบ 80% เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนที่คงที่ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่มีความเสี่ยงที่ต่ำมากซึ่งมีเงินลงทุนสูงถึง 57.55% ขณะที่หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนมีสัดส่วนการลงทุน 10.73% เงินฝากและตั๋วแลกเงิน 9.97% การให้สินเชื่อ 8.17% ส่วนการลงทุนในตราสารทุนอยู่ในสัดส่วน 10.86% ซึ่งมีการลงทุนทั้งในหุ้นโดยตรงและลงทุนผ่านการซื้อหน่วยลงทุนและจะเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มสื่อสาร
"สำหรับการลงทุนในต่างประเทศของธุรกิจประกันชีวิตมีสัดส่วนที่ต่ำมากเพียง 2.86% เท่านั้น ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศแต่ละครั้งต้องขออนุญาต คปภ.ทุกครั้ง มีระยะเวลากำหนด จำกัดประเภทหลักทรัพย์ที่สามารถเข้าไปลงทุนได้ และจากวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะการประกาศล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส์นั้นจากการตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทสมาชิกทั้ง 24 แห่งไม่พบว่ามีบริษัทใดลงทุนกับเลห์แมน บราเธอร์ส"
ทั้งนี้ ในวันที่ 1 มกราคม 2552 คปภ. จะประกาศใช้เกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนขึ้นมาอีก 7 ข้อ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินให้กับบริษัทประกันชีวิตมากขึ้น ซึ่งเกณฑ์ต่างๆ ที่จะประกาศใช้เพิ่มเติมนี้ทาง คปภ.และบริษัทประกันได้มีการหารือกันมาโดยตลอดถึงความเหมาะสมด้านต่างๆ และความพร้อมของบริษัทที่จะปฏิบัติตามประกาศเพิ่มเติมของ คปภ.เพื่อสะท้อนถึงความมั่นคงของธุรกิจประกันชีวิต
ส่วนกรณีการจ่ายเงินปันผลให้กับบริษัทแม่หรือผู้ถือหุ้นนั้นถือเป็นเรื่องปกติของการประกอบธุรกิจ แต่ในกรณีของธุรกิจประกันชีวิตหากมีการจ่ายปันผลจะต้องขออนุมัติจากนายทะเบียนคือ คปภ.เสียก่อน ซึ่งคปภ.เองจะพิจารณาความเหมาะสมด้านต่างๆ ว่าสมควรให้ปันผลหรือไม่ โดยเฉพาะหากมีการจ่ายเงินปันผลแล้วทำให้สถานะของบริษัทอ่อนแอหรืออัตราส่วนเงินกองทุนต่างๆ ต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะไม่อนุญาตให้บริษัทจ่ายเงินปันผล
***บิ๊กไอเอ็นจีวอนลูกค้าอย่าสับสน
วานนี้ (19 ก.ย.) บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต ประเทศไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเอไอจีอเมริกา ได้เปิดเผยผลประกอบการ 8 เดือนอีกครั้งว่า มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกถึง 1,132.8 ล้านบาท เติบโต 15% เบี้ยประกันภัยปีต่ออายุ 2,420 ล้านบาท เติบโต 35% และมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 3,552.8 ล้านบาท เติบโต 25% โดยมั่นใจว่าสิ้นปีจะบรรลุเป้าหมาย 6,973 ล้านบาท
"ช่วงนี้มีข่าวเอไอจีมีปัญหาการเงิน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดถึงเรื่อง "ชื่อ" บริษัทที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งข้อเท็จจริงไม่เกี่ยวกัน เพราะเราเป็นบริษัทของเนเธอร์แลนด์ ผมในนามบริษัทฯ จึงขอยืนยันให้ผู้ถือกรมธรรม์มั่นใจในฐานะทางด้านการเงินของไอเอ็นจี" "นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต กล่าวและว่า ไอเอ็นจีมีสินทรัพย์รวม 1.48 ล้านล้านยูโร ยังได้รับการจัดอันดับเป็นสถาบันการเงินอันดับ 1 ของโลก จากนิตยสารฟอร์จูน โกลบอล 500 เดือนกรกฎาคม 2551 อีกด้วย อีกทั้งในปีที่ผ่านมานั้นไอเอ็นจีกรุ๊ปยังนำเงินเข้ามาลงทุนในธนาคารทหารไทยถึง 26,000 ล้านบาท แสดงถึงความแข็งแกร่งทางด้านกระแสเงินสด
