สมาคมประกันชีวิตฯ ยืนยัน 24 บริษัทในไทยแข็งแกร่ง ไม่มีลงทุนเกี่ยวข้องเลห์แมน ขณะที่ผู้จัดการ เอไอเอสิงคโปร์ ลาออกแล้ว หลังลูกค้าแห่ถอนเงินกรมธรรม์
วันนี้ (19 ก.ย.) นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย แถลงยืนยัน ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย ทั้ง 24 บริษัทมีความแข็งแกร่ง และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐฯ ขณะที่บริษัท เอไอเอ ประเทศไทย จำกัด ตั้งศูนย์ชี้แจงข้อมูลลูกค้า ระบุเหตุการณ์ยังปกติมีลูกค้าขอยกเลิกกรมธรรม์วันละ 10-20 รายจากลูกค้า 5-6 ล้านกรมธรรม์
นายสาระ กล่าวว่า ข้อมูลของสมาคมประกันชีวิต พบว่า ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตต่อเนื่อง เทียบสถิติในปี 2548-2550 มีอัตราเติบโตเงินกองทุนสูง 114,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.77% สินทรัพย์รวม 815,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.51% และเงินสำรองประกันภัย 643,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.29%
ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจประกันชีวิตเติบโต 11.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เติบโต 10.1% และคาดว่าในไตรมาสที่ 4/51 ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง คาดว่า ทั้งปี 2551 จะมียอดเบี้ยประกันภัยรับสูงถึง 2 แสนกว่าล้านบาท
ภาพรวมการลงทุนของกลุ่มประกัน ส่วนใหญ่มีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงผลตอบแทนแน่นอน โดย 82.30% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ภาครัฐ รองลงมาคือ หุ้นกู้เอกชนและตั๋วเงิน ขณะที่สัดส่วนลงทุนต่างประเทศมีเพียง 28.6% และจากการสอบถามบริษัทประกันชีวิตทั้งหมดไม่พบว่ามีการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัท เลห์แมน บราเธอร์ส
ขณะที่ นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ กรรมการบริหารอาวุโส บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล แอสชัวรันส์ จำกัด (เอไอเอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีลูกค้าขอยกเลิกกรมธรรม์วันละ 10-20 ราย ซึ่งบริษัทได้ตั้งศูนย์ข้อมูลไว้ชี้แจงลูกค้าแล้ว
นายมาร์ก โอ เดลล์ รองประธานกรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไปสาขาในสิงคโปร์ของเอไอจี ประกาศลาออกแล้ว โดยบริษัทระบุว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ของเอไอจี หลังจากผู้ถือกรมธรรม์หลายร้อยคนแห่ไปชุมนุมที่สาขาในสิงคโปร์
ทั้งนี้ เอไอเอ แถลงว่า การลาออกของ นายเดลล์ เป็นการตัดสินใจส่วนตัวที่วางแผนมาระยะหนึ่งแล้ว ด้านธนาคารกลางสิงคโปร์ กล่าวว่า การควบคุมดูแลด้านกฏระเบียบของธนาคารกลางต่อเอไอเอ และบริษัทประกันทุกแห่งในสิงคโปร์ มีความเข้มงวด ทางธนาคารพอใจที่บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติและตอบรับความต้องการใหม่ๆ ได้ แม้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร