ผู้บริหารฯ AIA เผย บริษัทแม่ต่อสายด่วนข้ามโลก ตอนเช้ามืด ยืนยันไม่เรียกเงินคืนไปอุดสภาพคล่องแล้ว เพราะได้เงินจาก “เฟด” ประมาณ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ยันไม่กระทบลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์ ชี้ การทำธุรกรรมยังคงเป็นไปตามปกติ เตรียมส่งหนังสือแจ้งลูกค้าทั่วประเทศ 4.6 ล้านกรรมธรรม์ พรุ่งนี้ หวังเรียกความเชื่อมั่นคืน จับตาเงินลงทุนในตลาดหุ้น 6.5 พันล้าน คิดเป็นแค่ 10% ขณะที่เงินส่วนใหญ่ 70% ลงทุนในพันธบัตรและรัฐวิสาหกิจ
วันนี้ (17 ก.ย.) นายโทมัส เจมส์ ไวท์ รองประธานบริหารระดับสูงและผู้จัดการทั่วไป บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล แอสชัวรันส์ (AIA) ออกมาเปิดเผยว่า สถานะความมั่นคงของ AIA ในไทย ยังไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ AIG ในนิวยอร์ก มีปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงิน และในขณะนี้ AIA ที่นิวยอร์ก ยังไม่มีนโยบายที่จะระดมเงินทุนจากบริษัทลูกและบริษัทในเครือทั่วโลก เพื่อใช้เสริมสภาพคล่อง เนื่องจาก เอไอจีกรุ๊ป ได้แจ้งว่า ขณะนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากธนาคากลางสหรัฐฯ (เฟด) ประมาณ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อคุ้มครองเครดิตและเสริมสภาพคล่องของ AIG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผมขอยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเอไอจีนิวยอร์ก ไม่ได้รับผลกระทบกับเอไอเอในประเทศไทย เพราะเอไอเอไม่ได้ถือหุ้นในเอไอจี ขณะเดียวกัน คปภ.ยังกำกับดูแลทุกบริษัทประกันในไทย รวมทั้งเรามีเงินสำรองประกันภัย คุ้มครองผู้ถือกรมธรรม์ทั้งหมด เรามีความแข็งแกร่งทั้งเรื่องทุนสำรอง สินทรัพย์ ตลอดจนมีกำไรสะสม 7.9 หมื่นล้านบาท ถือว่าสูงกว่าที่กำหนดถึง 10 เท่า ขอให้มั่นใจว่า เอไอเอไทย ยังเติบโตและสร้างผลกำไรจากการลงทุน และขอให้มั่นใจว่าจะดูแลให้เกิดความชัดเจนว่าเราจะไม่มีความเสี่ยง”
“เราเพิ่งได้รับข้อมูลจาก AIG เมื่อตอนตี 5 ครึ่งของวันนี้ (17 ก.ย.) จึงได้จัดแถลงข่าวขึ้นมา เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากรมธรรม์และธุรกรรมทุกอย่างที่เกิดขึ้นในประเทศไทย จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาพคล่องของ AIG โดยในวันนี้จะได้มีการชี้แจงกับตัวแทนของ AIA และทำจดหมายชี้แจงไปยังลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ทุกราย 5.6 ล้านฉบับ ในวันพรุ่งนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา” นายโทมัส กล่าว
นายโทมัส กล่าวยืนยันว่า ความสามารถในการรับผิดชอบต่อภาระผูกพันต่อทุกกรมธรรม์ประกันภัย ณ เดือน ก.ค.2551 บริษัทมีเงินสำรองประกันภัยตามราคาประเมิน 2.87 แสนล้านบาท และมีเงินกองทุน 6.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 1,107% ของเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย ซึ่งสูงกว่าข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ให้มีอย่างน้อย 150%
**ยอมรับ มีลูกค้ายกเลิกกรมธรรม์
นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ รองประธานบริหารระดับสูง และผู้บริหารอาวุโส AIA กล่าวถึงบรรยากาศที่อาคาร เอไอเอ ทาวเวอร์ มีลูกค้าบางส่วนได้ทยอยมายกเลิกกรมธรรม์กันบ้างแล้ว แต่ยังมีจำนวนไม่มาก ซึ่งผู้ยกเลิกกรมธรรม์ส่วนใหญ่นั้นขาดความเชื่อมั่นใน AIA หลังจากบริษัท เอไอจี ในสหรัฐฯ ล้มละลาย พร้อมยอมรับว่า ในระยะนี้ มีลูกค้าโทรศัพท์มาสอบถามเป็นจำนวนมาก และบริษัทก็ได้จัดเจ้าหน้าที่จำนวนมากเพียงพอ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจ
ทั้งนี้ AIA เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในไทยมา 70 ปี สิ้นวันที่ 31 ธ.ค.2550 มีสินทรัพย์รวม 3.8 แสนล้านบาท มีเงินสำรองประกันภัย 2.7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีผู้ครองกรมธรรม์มากกว่า 4.6 ล้านฉบับ หากรวมกรมธรรม์อุบัติเหตุและสุขภาพจะมีกรมธรรม์ที่มีผลบังคับมากกว่า 5.8 ล้านฉบับ โดยแต่ละปีมีอัตราการขยายตัวกว่า 10%
นอกจากนี้ AIA ยังมีเป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสำนักงานสาขาและบริษัทในเครือหลายประเทศ และที่สำคัญที่สุด AIA ยังไม่ได้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับเอไอจีนิวยอร์ก เนื่องจากบริษัทเป็นสำนักงานสาขาของ AIA ฮ่องกง
สำหรับการลงทุนของเอไอเอมีเงินลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทยและรัฐวิสาหกิจไทย 70% และ 10% ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ส่วนอีก 20% เป็นการลงทุนนอกประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งการลงทุนจะได้รับการอนุญาตจาก คปภ. เสียก่อน
สำหรับการลงทุนของ AIA ในตลาดหุ้นไทยของ พบว่า มีการถือหุ้นในบริษัทจดทะเบียนทั้งสิ้น 35 บริษัท มีขนาดมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ประมาณ 6,500 ล้านบาท ซึ่งหากมีการขายหุ้นออก ก็จะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่า มีการถอนเงินออกไปบ้าง แต่เมื่อเทียบสัดส่วนแล้ว ยังถือว่าไม่สูงมากนัก