xs
xsm
sm
md
lg

“โกผ่อง” เฮ! ศาลฎีกายกฟ้องคดีลิขสิทธิ์จตุคามรามเทพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครศรีธรรมราช - “มือปราบหน้าผี” ส่อกระอักปิดบัญชีคดีลิขสิทธิ์จตุคามรามเทพ “โกผ่อง” เฮศาลฎีกายกฟ้อง เร่งตรวจสอบของกลางเตรียมไล่เบี้ยฟ้องคืน ประกาศเหยื่ออีก 20 คดีขอสำเนาคำพิพากษาฟรี

คดีสุดคลาสสิคลิขสิทธิ์จตุคามรามเทพ พล.ต.ท.สรรเพชญ์ ธรรมาธิกุล อดีตผู้บัญชาการประจำกรมตำรวจ เจ้าของฉายา “มือปราบหน้าผี” ยื่นฟ้องร่างทรงจตุคามรามเทพ “โกผ่อง” อะผ่อง สกุลอมร พร้อมพวกละเมิดลิขสิทธิ์ดวงตราพญาราหู สุริยัน-จันทรา รุ่นปี 2530 อันโด่งดังราคามหาศาล ศาลฎีกาพิพากษายกฟ้อง อีกร่วม 20 คดีจำเลยส่อหลุด โกผ่องประกาศเตรียมเอาคืน-ไล่ตรวจสอบของกลางมูลค่านับสิบล้านหลังแว่วหายอื้อ

คดีนี้ได้จบลงเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้พิพากษาศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2551 ลงวันที่ 25 ม.ค.2551 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ พล.ต.ท.สรรเพชญ์ ธรรมาธิกุล โจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายอะผ่อง สกุลอมร จำเลยที่ 1 นายอนันต์ หรือฉ้า แซ่ตัน จำเลยที่ 2 นายอนุชิต สกุลอมร จำเลยที่ 3 และนางจิระภา แซ่ตัน จำเลยที่ 4 ในความผิดต่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ซึ่งในคดีโจทก์และโจทก์ร่วม ได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ลงวันที่ 18 มี.ค.2547 และศาลฎีการับวันที่ 16 ก.ค.2547 และในการอ่านคำพิพากษานั้นจำเลยทั้ง 4 ได้รับฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง ในขณะที่ฝ่ายโจทย์นั้น ได้มีบันทึกว่าทราบนัดแล้วแต้ไม่มาฟังคำพิพากษาศาล จึงอ่านคำพากษาโดยถือว่าโจทก์ร่วมรับทราบแล้ว

ในดคีดังกล่าวนายวิชัย ศรีรังสฤษต์ และนายสมพร มนต์วิเศษ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยทั้ง 4 เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สรรเพชญ์ ธรรมาธิกุล ได้อ้างว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในหลักเมืองนครศรีธรรมราช และวัตถุมงคลต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อหารายได้สร้างศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เช่น พระผงสุริยัน-จันทรา พระบูชาต่างๆ รวมทั้งผ้ายันต์ รวมทั้งเสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช ไปจดแจ้งต่อสำนักลิขสิทธิ์กรมทรัพย์สินทางปัญญา และกล่าวหาดำเนินคดีกับนายอะผ่องกับพวกว่า ได้ละเมิดลิขสิทธิ์เสาหลักเมือง และรวมทั้งรูปแบบวัตถุมงคลต่างๆ

“ซึ่งการต่อสู้นั้นได้ต่อสู้ทางคดีเรื่อยมา ตั้งแต่ศาลชั้นต้น พอสรุปข้อเท็จจริงซึ่งเป็นคำพิพากษาได้ว่าเสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช และวัตถุมงคลต่างๆ ที่ พล.ต.ท.สรรเพชญ์ นำไปจดแจ้งนั้นถือเป็นของสาธารณะ พล.ต.ท.สรรเพชญ์ ไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์ที่แท้จริงเป็นเพียงผู้ริเริ่มเท่านั้น การจดแจ้งลิขสิทธิ์ไม่ใช่การได้มาซึ่งลิขสิทธิ์แต่อย่างใด จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง จนกระทั่งมาถึงชั้นฎีกาศาลฎีกาได้พิพากษายืนคดีนี้จึงจบลง และถือว่านายอะผ่อง รวมทั้งพวกจำเลยทั้ง 4 พ้นมลทินเป็นผู้บริสุทธิ์”

ทนายความจำเลย กล่าวต่อว่า นอกจากคดีลิขสิทธิ์ที่จบไปแล้ว ยังมีอีกคดีที่ พล.ต.ท.สรรเพชญ์ ธรรมาธิกุล กับพวกรวม 11 คน ได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาคือยักยอกทรัพย์วัตถุมงคลและฉ้อโกงประชาชน ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษายกฟ้องแล้วเช่นกัน ซึ่งคดีนี้ทราบว่าทนายฝ่าย พล.ต.ท.สรรเพชญ กำลังยื่นขอขยายเวลาในการฎีกา

ในคดีนี้ ฝ่ายจำเลยจะทำหนังสือขอตรวจสอบของกลาง ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้จำนวนมากด้วย ว่ายังมีครบตามจำนวนหรือไม่อย่างไร ถ้าปรากฏว่าของกลางหายไป ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ขณะเดียวกันในเรื่องของค่าเสียหาย ในระหว่างการดำเนินคดีหลายปีที่ผ่านมานั้นยังไม่ได้คิด ซึ่งอาจจะมีการพิจารณาฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายด้วย

“คดีนี้เป็นคดีแรกที่ถึงที่สุด วัดหรือผู้ที่จัดสร้างจตุคามรามเทพที่ถูก พล.ต.ท.สรรเพชญ์ ฟ้องดำเนินคดีนั้นทราบว่ามีอยู่ราว 20 คดี ตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบันสามารถขอสำเนาคำพิพากษาได้ที่ผมหมายเลข 081-994726 และทนายวิชัย ศรีรังสฤษต์ เบอร์ 081-9700516 เพื่อนำไปประกอบ ท้ายที่สุดผมเชื่อว่า ศาลจะยกฟ้องทั้งหมดเพราะได้มีการพิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วด้วยคดีนี้และถือเป็นคดีตัวอย่าง

นอกจากนี้ยังมีคดีที่นายอะผ่อง ได้ฟ้องดำเนินคดีกับ พล.ต.ท.สรรเพชญ ฐานแจ้งความเท็จไว้แล้วด้วยที่ศาลแขวงพระนครเหนือ ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องและ พล.ต.ท.สรรเพชญ์ ได้ไปมอบตัวต่อศาลและให้การในฐานะจำเลยเมื่อวานนี้ (28พ.ค.)” ทนายความกล่าว

ภายหลังนายอะผ่อง สกุลอมร ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “โกผ่อง” ซึ่งเป็นร่างทรงขององค์จตุคามรามเทพในยุคการเริ่มสร้างหลักเมืองนครศรีธรรมราช กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจที่พ้นผิดที่ถูกกล่าวหามาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องเท็จทั้งนั้น ที่ผ่านมายึดถือความจริงเพียงอย่างเดียว

“ที่ผ่านมาตำรวจพึ่งพาไม่ได้ อัยการพึ่งไม่ได้ ไม่ได้ทั้งนั้นหวังเพียงอย่างเดียวคือ ศาลทั้ง 3 ศาล ผมถูกแกล้งมาตลอดอัยการรู้ว่าวันศุกร์นัดผมมา 9 โมงเช้าแต่ส่งฟ้อง 4 โมงเย็น ผมจะหาธนาคารที่ไหนมาประกันตัว เป็นการแกล้งทุกขั้นตอนมีอะไรยัดใส่หมด แม้กระทั่งที่บูชาของผมเขาบอกว่าของเขา เขายึดไปวันนี้ยังอยู่โรงพัก แต่ข่าวว่าเขาเอาไปขาย ผมยึดตามบันทึกที่ยึดของผมไป ตั้งแต่เขาเล่นงานผมมาผมรู้สึกเฉยๆ หลังชนฝาเหมือนหมาจนตรอก ทนายช่วยไม่คิดเงินทอง น้อง 3 คนไม่รู้เรื่อง ถูกยัดคดีใส่เข้าคุก แม้ว่าวันที่จะตัดสินครั้งแรกมีตำรวจคนนั้นมาพูดว่า มึงระวังมึงจะติดคุกจนตาย มันเป็นการกลั่นแกล้งหรือเปล่า”

นายอะผ่อง ยังกล่าวถึงประเด็นของความศรัทธาเชื่อมั่น ต่อองค์จตุคามรามเทพในปัจจุบันว่า ที่เขาฟีเวอร์กันตนไม่ได้สนใจ เราไม่ได้หากินแบบนี้ ชาวบ้านไม่รู้ว่าผมโดนอะไรรู้เพียงว่าโดนจับ ส่วนของกลางที่มีการยึดไปนั้นจะตรวจสอบดูว่า มีความเสียหายสูญหายไปยังอยู่แค่ไหน ถ้าหากหายไปจะต้องเรียกค่าเสียหาย เป็นสมบัติของตนอยู่บ้านตน แล้วมาถืออำนาจไปจับไปยึดทั้งหมดตนมีหลักฐานครบทั้งหมด

“ความศรัทธาคนที่ศรัทธายังมีต่อไป ใครไม่นับถือก็เป็นเรื่องส่วนตัว ทุกวันนี้คนนับถือยังนับถือศรัทธา แต่ที่ถึงขั้นฉิบหายเพราะโลภ ไม่รู้จักพอ นครศรีธรรมราช ดีแค่ขายเท่านั้น ความนับถือสู้จังหวัดอื่นไม่ได้ อยากบอกว่าอย่าโลภกับจตุคามรามเทพ ถ้าโลภแล้วจะหมดตัว คนที่เป็นมหาเศรษฐีผลสุดท้ายก็หมด บางคนโกงกันอวดอ้างกัน แม้แต่พระบางรูปยังหนุ่มแน่นนั่งเคี้ยวหมากให้ดูขลังเป็นเกจิทุกอย่างทำหมด นี่เป็นเหตุของการเสื่อมศรัทธาคนนครฯมุ่งแต่จะขายกันอย่างเดียว” โกผ่อง กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในคดียักยอกทรัพย์ที่นายอะผ่องพร้อมพวกตกเป็นจำเลยนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดของกลางมีทั้งรูปหล่อลอยองค์จตุคามรามเทพรุ่นแรกๆ หลายสิบองค์รวมทั้งดวงตราพญาราหูจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันนั้นมีมูลค่าทั้งหมดคาดว่าไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งทางทีมกฎหมายอยู่ในระหว่างการทำหนังสือขอตรวจสอบของกลางทั้งหมดแล้วว่าอยู่ครบหรือไม่ และเตรียมที่จะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่หากพบว่าของกลางหายไป ซึ่งขณะนี้มีการตรวจสอบภายในแล้วว่ามีของกลางหายไปมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น